บมจ.เงินติดล้อ ตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมการเงินเพื่อรายย่อย เดินหน้าขยายพอร์ตออก "บัตรติดล้อ" แก่ลูกค้าสินเชื่อแล้วกว่า 300,000 ใบ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการกดเงินสดตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากตู้เอทีเอ็มธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ ลดขั้นตอนยื่นเอกสารขอสินเชื่อใหม่และลดระยะเวลาเดินทางมาที่สาขา พร้อมจัดแคมเปญสินเชื่อทะเบียนรถเก๋งและรถกระบะพร้อมบัตรติดล้อ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม นี้ รับดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0.79% ต่อเดือน นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2565 ทั้งด้านสินเชื่อทะเบียนรถและนายหน้าประกันภัย ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการนำนวัตกรรม "บัตรติดล้อ" เข้ามาให้บริการแก่ลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ และได้ขยายพอร์ตการออกบัตรดังกล่าวแก่ลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถเก๋งและรถกระบะ ปัจจุบันได้ออกบัตรดังกล่าวแล้วกว่า 300,000 ใบ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก ณ สิ้นปี 2564
อยู่ที่ 285,000 ใบ โดยพบว่าในปีที่ผ่านมามีลูกค้าที่ใช้บัตรติดล้อกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ
ทั่วประเทศมากกว่า 1 ล้านครั้ง ถือว่ามีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ โดยจุดเด่นของบัตรติดล้อเป็นบัตรกดเงินสดหมุนเวียน ที่ช่วยให้ลูกค้าสินเชื่อทะเบียนรถของบริษัทฯ สามารถกดเงินสดตามวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วแก่ลูกค้าเมื่อต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในยามจำเป็น และช่วยลดขั้นตอนในการยื่นเอกสารขอสินเชื่อใหม่โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนการเดินทางอีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญสินเชื่อทะเบียนรถเก๋งและรถกระบะพร้อมบัตรติดล้อ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0.79% ต่อเดือน เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ผู้ที่ต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเสริมสภาพคล่องในการประกอบกิจการ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ค่าครองชีพสูงขึ้นจากกระทบจากอัตราเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
"สำหรับ ผลตอบรับจากลูกค้าที่ใช้บัตรติดล้อในการกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มเป็นจำนวนมาก ตอกย้ำว่าเราเดินมาถูกทาง และยังเป็นการช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจในระยะยาวจากการที่ไม่ต้องเพิ่มพนักงานเป็นจำนวนมากเพื่อรองรับการอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงยังสามารถขยายขอบเขตการให้บริการได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ผ่านตู้ ATM ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ อาทิ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน มากกว่า 50,000 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเราคาดว่าจะมีลูกค้าที่ใช้บัตรติดล้อ กดเงินสดจากตู้เอ็มทีในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2565 ทั้งด้านสินเชื่อทะเบียนรถและนายหน้าประกันภัย ก็ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง" นายปิยะศักดิ์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit