ตอกย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการร่วมขับเคลื่อนการศึกษาไทย...มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี (CONNEXT ED) เดินหน้าผนึกกำลัง จัดการประชุมสามัญ ประจำปี 2565 ในรูปแบบออนไลน์ นำโดย องคมนตรี พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ (กลาง - แถวบน) ในฐานะประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวตรีนุช เทียนทอง (ที่ 2 จากขวา - แถวบน) ภาคประชาสังคม และนายศุภชัย เจียรวนนท์ (กลาง - แถว 3 จากบน) ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิฯ ตลอดจนซีอีโอ คณะผู้บริหารจาก 12 องค์กรผู้ร่วมก่อตั้ง เพื่อร่วมหารือและวางแผน โดยมีผลการดำเนินงานสำคัญ ได้แก่ การปรับ School Grading ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มน้ำหนักตัวชี้วัดด้านผู้เรียนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษา หลักสูตรและการสอนที่มุ่งเน้นด้านคุณธรรมแก่ผู้เรียน รวมถึงการพัฒนาโครงการนวัตกรรมคุณธรรมคอนเน็กซ์อีดี (CONNEXT ED Moral Innovation) อย่างเป็นรูปธรรม ในการวางรากฐานการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อสร้าง "เด็กดีมีความสามารถ" โดยได้นำโมเดลดังกล่าว ไปใช้นำร่อง ณ โรงเรียนบ้านเขาวง จ. นครราชสีมา นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (ICT Talent) ภาครัฐ รุ่นที่ 2 กว่า 800 คน ซึ่งพร้อมปฏิบัติหน้าที่ขับเคลื่อนโรงเรียนยุคดิจิทัล ตลอดจนรายงานความคืบหน้าการระดมทุนโครงการ "คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพื่อการศึกษา" (Notebook for Education) ระยะที่ 2 ที่มียอดบริจาคมาแล้วกว่า 10.32 ล้านบาท
เกี่ยวกับมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี (CONNEXT ED Foundation)
มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2559 จากโครงการสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ภายใต้ความร่วมมือ 3 ภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ต่อมาจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิในปี 2563 โดยมีเจตนารมณ์และความมุ่งมั่น ในการขับเคลื่อนการศึกษาไทยให้มั่นคงและยั่งยืน ตามแนวทาง 5 ยุทธศาสตร์หลัก พร้อมเดินหน้าสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนรวมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้ามาส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบัน มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี มีเครือข่ายครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชนชั้นนำของไทยรวมแล้วกว่า 44 องค์กร โดยมี 12 องค์กรเอกชน ร่วมเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์, กลุ่มเซ็นทรัล, บมจ. ซีพี ออลล์, บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร, กลุ่มมิตรผล, กลุ่มปตท., ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), เอสซีจี, บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น
ต่อมาในระยะที่ 2 มีเครือข่ายพันธมิตรเข้าร่วมโครงการอีก 19 องค์กร ได้แก่ บจ. ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง, บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น, บมจ. บ้านปู, บมจ. บีอีซี เวิลด์, บจ. เบอร์แทรม (1958), บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย), บจ. เอดู พาร์ค, โรงเรียนเอ็นคอนเส็ปท์ อี แอคเคเดมี่, บจ. โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์), บจ. เควี อิเล็กทรอนิกส์, บจ. เลิร์น คอร์ปอเรชั่น, บจ. แม็คเอ็ดดูเคชั่น, สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์, บจ. เอส เค โพลีเมอร์, บจ. สลิงชอท กรุ๊ป, ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย, บจ. ไทยโตชิบาอุตสาหกรรมไฟฟ้า และบจ. สวนอุตสาหกรรมบางกะดี, บจ. เวสเทิร์น ดิจิตอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย)
และล่าสุดในระยะที่ 3 มีเครือข่ายพันธมิตรใหม่เข้าร่วมโครงการอีก 13 องค์กร รวมเป็น 44 องค์กร ได้แก่ บจ. แอมิตี, บมจ. บี.กริม เพาเวอร์, บมจ. ซี.พี.แลนด์, บจ. เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส, บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, บมจ. สยามแม็คโคร, บจ. โพรนาลิตี้, กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, กลุ่มธุรกิจ ทีซีพี, บมจ. ทิปโก้แอสฟัลท์ และบมจ. วีจีไอ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit