"บริทาเนีย" ผนึกบิ๊กอสังหาฯ ญี่ปุ่น "โนมูระ เรียลเอสเตทฯ" ร่วมทุนพัฒนาบ้านแนวราบ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,600 ล้านบาท

04 Apr 2022

บมจ.บริทาเนีย หรือ BRI เดินหน้าผนึกความร่วมมือ "โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์" ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ร่วมทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ 2 โครงการ "บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17" และ "บริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17" มูลค่าโครงการรวม 2,600 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวไตรมาส 3 นี้ ชูทำเลศักยภาพเชื่อมต่อเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจและภาคตะวันออก พร้อมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการพัฒนาอสังหาฯ เพื่อพัฒนาโครงการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

"บริทาเนีย" ผนึกบิ๊กอสังหาฯ ญี่ปุ่น "โนมูระ เรียลเอสเตทฯ"  ร่วมทุนพัฒนาบ้านแนวราบ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,600 ล้านบาท

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อร่วมทุนพัฒนาโครงการใหม่ ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ 2 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,600 ล้านบาทได้แก่ โครงการบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และบริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท กำหนดเปิดตัวไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยบริษัทฯ จะถือหุ้นในสัดส่วน 51% และโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ถือหุ้นในสัดส่วน 49%

"โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ เป็นดีเวลอปเปอร์ชั้นนำจากญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท ออรจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเรา มาตั้งแต่ปี 2560 ร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์มาแล้ว 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 46,800 ล้านบาท และต้องการขยายการร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงนำมาสู่การร่วมทุนกับบริษัทฯ พัฒนาโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์บริทาเนียในย่านบางนา 2 โครงการ ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพและการเติบโตสูง ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในการร่วมลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ในประเทศไทย" นางศุภลักษณ์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BRI กล่าวต่อว่า การร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท
ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ในการร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในประเทศไทย และก้าวแรกของบริษัทฯ ในการร่วมทุนพัฒนาโครงการกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำ ซึ่งจะทำให้เกิดการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ของทั้ง 2 บริษัทฯ ในด้านต่างๆ ทั้งการวางคอนเซ็ปต์โครงการ ออกแบบก่อสร้าง การขายและการตลาด ตลอดจนสนับสนุนพื้นฐานของบริษัทฯ และความความแข็งแกร่งด้านเงินทุนเพื่อรองรับการขยายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบต่อไป พร้อมกันนี้ยังสามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระหว่างกัน ทั้งด้านการออกแบบ การสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาโครงการให้มีคุณภาพและการให้บริการด้านต่างๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ โครงการบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝดจำนวน 228 ยูนิต บนเนื้อที่รวมกว่า 47 ไร่ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส คิดส์รูม Co-Working Space สวนสาธารณะ Jogging Track สนามบาสเก็ตบอล Playground ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย

ส่วนโครงการบริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 เป็นทาวน์โฮม 352 ยูนิต บนเนื้อที่รวมกว่า 35 ไร่ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส คิดส์รูม สวนสาธารณะ สนามบาสเก็ตบอล Playground ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น ทั้ง 2 โครงการแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ ห้างสรรพสินค้าเมกา บางนา, มาร์เก็ตวิลเลจ สุวรรณภูมิ, เซ็นทรัลวิลเลจ, โลตัสส์ ซิตี้พาร์ค บางพลี, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, สนามบินสุวรรณภูมิ ฯลฯ สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ของกรุงเทพฯ ได้ภายในระยะเวลาประมาณ 50 นาที

"เรามีความมั่นใจในศักยภาพของทำเลบางนา ซึ่งเป็นแหล่งพักอาศัยที่ได้รับความนิยมและเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อไปสู่ใจกลางกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก จึงเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 โครงการจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมทุนกับโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ ที่จะนำไปสู่การร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ในอนาคต" นางศุภลักษณ์ กล่าวปิดท้าย

"บริทาเนีย" ผนึกบิ๊กอสังหาฯ ญี่ปุ่น "โนมูระ เรียลเอสเตทฯ"  ร่วมทุนพัฒนาบ้านแนวราบ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,600 ล้านบาท