วัคซีน Sputnik Light ชนิดฉีดครั้งเดียว (องค์ประกอบแรกของวัคซีน Sputnik V) แสดงประสิทธิภาพถึง 70% ในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาภายในระยะเวลาสามเดือนแรกหลังได้รับวัคซีน ผลการวิเคราะห์ของศูนย์กาเมลายา (Gamaleya Center) แสดงให้เห็นว่า

14 Oct 2021

วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากกว่า  75% ในอาสาสมัครที่มีอายุต่ำกว่า  60 ปี  นอกจากนี้  Sputnik Light ยังมีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันการเกิดอาการรุนแรงของโรคและการต้องนอนโรงพยาบาล 

Sputnik Light ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับวัคซีนแบบฉีดสองเข็มบางชนิดซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพลดลงอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา  กล่าวคือ  มีประสิทธิภาพเหลือน้อยกว่า  50% ที่ระยะเวลา  5 เดือนหลังได้รับวัคซีน

ทั้งนี้  ได้มีการส่งบทความเกี่ยวกับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของการได้รับวัคซีน  Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียวในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา  เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่บนเว็บไซต์  medRxiv ในสัปดาห์นี้

ขณะที่วัคซีน  Sputnik V ชนิดฉีดสองเข็มได้รับอนุญาตให้ใช้ใน  70 ประเทศ  คิดเป็นจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนดังกล่าวมากกว่า  4 พันล้านคน

วัคซีน  Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียวได้รับอนุญาตให้ใช้ในมากกว่า  15 ประเทศ  และอยู่ระหว่างขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนในอีก  30 ประเทศ 

ทั้งนี้  Sputnik Light เป็นวัคซีนที่ใช้ในการฉีดกระตุ้นในผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดอื่น    มาก่อนหน้าได้ทุกชนิด  โดยข้อมูลเชิงบวกจากการศึกษาวิจัยทางคลินิกในประเทศอาร์เจนตินาและประเทศอื่น    ได้แสดงให้เห็นว่า  Sputnik Light มีความปลอดภัยและสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงเมื่อใช้ในการฉีดกระตุ้นในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนของผู้ผลิตรายอื่น

ประสิทธิภาพของวัคซีน  Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียวในการกระตุ้นภูมิคุ้นกันต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตาในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนอื่นจะใกล้เคียงกับประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาของวัคซีน  Sputnik V คือสามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากกว่า  83% และป้องกันการเจ็บป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลได้มากกว่า  94%

ในวันนี้ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย (The Russian Direct Investment Fund, RDIF หรือ Russia's Sovereign Wealth Fund) และ สถาบันวิจัยระบาดวิทยาและจุลชีววิทยากามาเลยา (Gamaleya National Research Center of Epidemiology and Microbiology) ได้ออกมาประกาศถึงผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีน Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียวในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลตา

โดยศูนย์กามาเลยา (Gamaleya Center) ได้ส่งบทความเกี่ยวกับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีน Sputnik Light ในการต้านไวรัสสายพันธุ์เดลตา ให้แก่ medRxiv: the preprint server for health sciences เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในสัปดาห์นี้

I. ประสิทธิภาพของ  Sputnik Light ในฐานะของวัคซีนเดี่ยว

บทความดังกล่าวระบุว่าการให้วัคซีน Sputnik Light เพียงอย่างเดียวแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลตาได้ถึง 70% ในช่วงสามเดือนแรกหลังได้รับวัคซีน โดยวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 75% เมื่อให้ในอาสาสมัครที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี Sputnik Light ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับวัคซีนแบบฉีดสองเข็มบางชนิดซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพลดลงอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา กล่าวคือ มีประสิทธิภาพเหลือน้อยกว่า 50% ที่ระยะเวลา 5 เดือนหลังได้รับวัคซีน

นอกจากนี้ การให้วัคซีน Sputnik Light ในฐานะวัคซีนเดี๋ยวยังมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการเกิดอาการรุนแรงของโรคและการนอนโรงพยาบาล 

โดยผลวิเคราะห์ได้จากข้อมูลที่ทำการศึกษาในอาสาสมัครจำนวน 28,000 รายที่ได้รับวัคซีน Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียว เทียบกับกลุ่มควบคุมจำนวน 5.6 ล้านรายซึ่งไม่ได้รับวัคซีน ทั้งนี้ ได้ทำการเก็บข้อมูลในการศึกษาวิจัยในกรุงมอสโควในเดือนกรกฎาคม 2021

II. ประสิทธิภาพของ  Sputnik Light ในฐานะวัคซีนกระตุ้น

สูตรการให้วัคซีนแบบเข็มเดียวของ Sputnik Light มีประโยชน์มากมาย ซึ่งรวมถึง ความง่ายในการให้วัคซีน การเฝ้าระวังความปลอดภัย และตารางการฉีดวัคซีนซ้ำที่ยืดหยุ่นได้เมื่อใช้เป็นวัคซีนกระตุ้น

ประสิทธิภาพของวัคซีน Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียวในฐานะวัคซีนกระตุ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาหลังจากที่ได้รับวัคซีนชนิดอื่นจะใกล้เคียงกับประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาของวัคซีน Sputnik V คือสามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากกว่า 83% และป้องกันการเจ็บป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลได้มากกว่า 94%

III. ข้อมูลจากการใช้งานจริงของ  Sputnik Light และการศึกษาวิจัยเมื่อให้ร่วมกับวัคซีนชนิดอื่น  

วัคซีน Sputnik Light ผลิตขึ้นจากอะดิโนไวรัสก่อโรคในมนุษย์ ซีโรไทป์ 26 (human adenovirus serotype 26) ซึ่งเป็นองค์ประกอบแรกของ Sputnik V - วัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรน่าชนิดแรกของโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียน วัคซีน Sputnik Light ได้รับอนุญาตให้ใช้ในมากกว่า 15 ประเทศ และอยู่ระหว่างขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนในอีก 30 ประเทศ โดยหน่วยงานพันธมิตรของ RDIF จากประเทศต่าง ๆ จะเป็นผู้ผลิตวัคซีน Sputnik Light ในมากกว่า 10 ประเทศ (อินเดีย จีน เกาหลีใต้ เวียดนาม เม็กซิโก อาร์เจนตินา เซอร์เบีย ตุรกี ฯลฯ) และรวมถึงสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (The Serum Institute of India) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก

Sputnik Light ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง จากข้อมูลการฉีดวัคซีนจริงในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพระหว่าง 78.6-83.7% ในผู้สูงอายุ ตามที่ได้รับการยืนยันจากกระทรวงสุขภาพแห่งกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา (Ministry of Health of Buenos Aires, Argentina)นอกจากนี้ กระทรวงสุขภาพ (Ministry of Health) ของประเทศปารากวัยยังพบว่า Sputnik Light มีประสิทธิภาพถึง 93.5% จากการเก็บข้อมูลระหว่างการรณรงค์ฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องภายในประเทศ 

ต้องขอบคุณประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียวที่ทำให้ในปัจจุบันวัคซีนดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบของวัคซีนเดี่ยวและยังมีการศึกษาถึงการใช้ร่วมกับวัคซีนจากผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในประเทศต่าง ๆ 

การฉีดกระตุ้นภูมิด้วยวัคซีนต่างชนิด ("ค็อกเทลวัคซีน (vaccine cocktail)" โดยใช้จากอะดิโนไวรัสก่อโรคในมนุษย์ ซีโรไทป์ 26 เป็นองค์ประกอบแรกและใช้จากอะดิโนไวรัสก่อโรคในมนุษย์ ซีโรไทป์ 5 (human adenovirus serotype 5) เป็นองค์ประกอบที่สองคือหัวใจหลักของ Sputnik V ซึ่งวิธีนี้ได้รับการพิสูจน์ถึงความสำเร็จในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ยาวนานกว่าและคงทนกว่า ทั้งนี้ RDIF ได้ริเริ่มโครงการความร่วมมือกับพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นเพื่อร่วมกันทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการใช้วัคซีนสูตรผสมระหว่างองค์ประกอบแรกของวัคซีน Sputnik V และวัคซีนชนิดอื่น ๆ 

โดยกำลังทำการศึกษาวิจัยดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในประเทศรัสเซีย อาร์เจนตินา อาร์เซอร์ไบจาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลอดจนประเทศอื่น ๆ 

โดยเฉพาอย่างยิ่ง RDIF, กระทรวงสุขภาพแห่งประเทศอาร์เจนตินา กระทรวงวิทยาศาสตร์แห่งประเทศอาร์เจนตินา(Ministry of Science of Argentina) และสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคนิคแห่งชาติอาร์เจนตินา (Consejo Nacional de Investigaciones Cient?ficas Y Tecnicas, CONICET) กำลังทำการศึกษาวิจัยเพื่อประเมินการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยของการใช้วัคซีนสูตรผสม ระหว่าง Sputnik Light และวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท AstraZeneca, Sinopharm และModerna ในเขตเมืองและจังหวัดของกรุงบัวโนสไอเรส รวมทั้งจังหวัดซานลุยส์ คอร์โดบา และลา ริโอจา โดยผลการศึกษาวิจัยเบื้องต้นยืนยันถึงข้อมูลความปลอดภัยในระดับสูงของการใช้วัคซีนสูตรผสม โดยไม่พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีน

ผลการศึกษาวิจัยเบื้องต้น จากการใช้วัคซีน AstraZeneca vaccine ร่วมกับ Sputnik Light ในการศึกษาวิจัยทางคลินิกในประเทศอาเซอร์ไบจานแสดงให้เห็นถึงการจับกันระหว่างแอนติบอดีกับโปรตีนหนาม (spiked protein, S-protein) ของไวรัส SARS-CoV-2 ในอาสาสมัคร 100% นอกจากนี้ การใช้วัคซีนสูตรผสมยังแสดงให้เห็นถึงข้อมูลความปลอดภัยในระดับสูงโดยไม่พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้ายแรงหรือการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหลังได้รับวัคซีน

Denis Logunov, รองผู้อำนวยการของศูนย์กาเมลายา ให้ความเห็นว่า:

"เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลตาคือหนึ่งในสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุดและมีอันตรายมากที่สุด ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ปรากฏในบทความโดยศูนย์กาเมลายาแสดงให้เห็นว่า Sputnik Light ยังคงมีประสิทธิภาพสูงหลังจากที่ได้รับวัคซีนผ่านไปหลายเดือน ผลที่ได้จากการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าวัคซีนบางชนิดอย่างมีนัยสำคัญ ตามที่ได้เผยแพร่ไปแล้วในสื่อด้านวิทยาศาสตร์ 

สูตรการให้วัคซีนแบบเข็มเดียวทำให้วัคซีนนี้กลายเป็นทางออกที่สำคัญของประเทศต่าง ๆ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้ง Sputnik Light ยังประสบความสำเร็จในการสร้างและรักษาภูมิคุ้มกันหมู่ที่มีอยู่เมื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น"

Kirill Dmitriev, ผู้บริหารระดับสูงของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย  (RDIF)กล่าวว่า:

"ผลด้านประสิทธิภาพของวัคซีน Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียวในการต้านเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลตาเหนือกว่าวัคซีนแบบฉีดสองเข็มหลายชนิดอย่างมีนัยสำคัญ และที่สำคัญ ข้อมูลจากศูนย์กาเมลายายืนยันว่าวัคซีน Sputnik Light ชนิดฉีดเข็มเดียวคือหนึ่งในวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรน่าที่ดีที่สุด ซึ่งข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากการศึกษาวิจัยจำนวนมาก

Sputnik Light ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงไม่ว่าจะให้ในรูปแบของวัคซีนเดี่ยวหรือใช้ร่วมกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ โดยวัคซีนดังกล่าวมอบความยืดหยุ่นในการสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มประชากร ส่งเสริมการฉีดวัคซีนเข็มแรกและมีประสิทธิภาพในการให้วัคซีนซ้ำสำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนชนิดอื่นมาก่อน เมื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยที่สูงและประสิทธิภาพที่ดีของวัคซีน Sputnik Light สามารถก้าวขึ้นมาเป็นวัคซีนกระตุ้นที่ดีที่สุดที่สามารถใช้ร่วมกับวัคซีนได้ทุกชนิดทั่วโลก และเป็นที่ต้องการอย่างสูงในทั่วทุกมุมโลก

RDIF ได้ให้การสนับสนุนการวิจัยในการใช้วัคซีน Sputnik Light ร่วมกับวัคซีนชนิดอื่นอย่างต่อเนื่อง และยังได้เชิญนักวิจัยอิสระระดับสากลและสถาบันทางวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกให้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรน่าจากการใช้งานจริง"

Russian Direct Investment Fund (RDIF) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 เพื่อการร่วมลงทุนอย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะในประเทศรัสเซีย ร่วมกับหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในระดับสากลด้านการลงทุนทางการเงินและการวางกลยุทธ์ RDIF ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวเร่งการลงทุนโดยตรงในระบบเศรษฐกิจของประเทศรัสเซีย บริษัทซึ่งทำหน้าที่บริหาร RDIF มีสำนักงานหลักตั้งอยู่ในเมืองมอสโคว ปัจจุบัน RDIF มีประสบการณ์จากความสำเร็จในโครงการร่วมทุนและร่วมดำเนินงานในมากกว่า 80 โครงการซึ่งดำเนินการร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2.1 ล้านล้านรูเบิล และครอบคลุม 95% ภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย บริษัทต่าง ๆ ในเครือของ RDIF มีการจ้างงานประชากรมากกว่า 1 ล้านคน และสร้างรายได้เทียบเท่ากับ 6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (Gross Domestic Product, GDP) ของประเทศรัสเซีย RDIF ได้จัดตั้งพันธมิตรเพื่อการร่วมวางกลยุทธ์กับผู้ลงทุนร่วมระดับสากลจากมากกว่า 18 ประเทศ คิดเป็นมูลค่ารวมมากกว่า 40 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ  สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ rdif.ru