บริษัท เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ให้บริการฟิตเนสคลับเพื่อสุขภาพชั้นนำของโลก พร้อมกลับมาเปิดให้บริการทุกสาขาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมสร้างความมั่นใจในการใช้บริการผ่าน 3 กลยุทธ์เพิ่มการเติบโตพร้อมสนับสนุนให้คนไทยออกกำลังกายสร้างความแข็งแรงและเสริมภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ คาดธุรกิจฟิตเนสในประเทศไทยจะกลับมาเติบโตต่อเนื่องตามเทรนด์ต่างประเทศ
ดร.วุธรวี จารุวัฒนะ ผู้จัดการใหญ่ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า "ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากจะยังคงรักษามาตรฐานการให้บริการเดียวกันกับทุกประเทศ เวอร์จิ้น แอคทีฟ ยังได้ปรับตัวให้เกิดความพร้อมทุกด้านเพื่อรองรับการเปิดบริการหลังประกาศคลายล็อก ทั้งการให้บริการและรักษามาตรฐานความสะอาดของสถานที่และอุปกรณ์ออกกำลังกาย การปฏิบัติตามหลักระยะห่างทางสังคมภายในคลับและระหว่างคลาสให้มีความรัดกุม เพื่อป้องกันความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิก นอกจากนี้ ยังจัดโปรแกรมอบรมเพิ่มศักยภาพความสามารถและความยืดหยุ่นในการทำงานของเทรนเนอร์และพนักงาน รวมทั้งพัฒนาการให้บริการผ่านช่องทาง On Demand และคลาสออกกำลังกายทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ที่ช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้ทั้งสมาชิกและคนทั่วไปได้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายทางสุขภาพได้อย่างมั่นใจ"
ทั้งนี้ จากการสำรวจของเวอร์จิ้น แอคทีฟ ในช่วงสถานการณ์โควิด การที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้าน และมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน ในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าสมาชิกของเวอร์จิ้น แอคทีฟ มีพฤติกรรมในการออกกำลังกายน้อยลงกว่าปกติ 53% ซึ่งเป็นการถูกดิสรัปต์จาก 3 ปัจจัยที่ส่งผลถึงการดำเนินธุรกิจฟิตเนส ได้แก่ 1) ไม่มีสิ่งเร้าใจในการออกกำลังกาย ทำให้อยากกิน อยากนอน 2) ไม่มีความพร้อมด้านสถานที่ อุปกรณ์ รวมทั้งโอกาสที่ไม่อำนวยในการออกกำลังกาย เช่น มีลูก พ่อ แม่ ฯลฯ ให้ต้องดูแล และ 3) ไม่รู้วิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เวอร์จิ้น แอคทีฟ จึงพัฒนารูปแบบและเพิ่มช่องทางในการให้บริการผ่าน 3 กลยุทธ์เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้กลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเสริมภูมิคุ้มกันในการดำเนินชีวิตวิถีใหม่
"ยิ่งสถานการณ์เปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งคนและธุรกิจจึงยิ่งต้อง keep fit ต่อเนื่อง เวอร์จิ้น แอคทีฟ จึงนำ 3 กลยุทธ์มาใช้ต่อยอดการเติบโตและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง พร้อมสนับสนุนให้สมาชิกได้รับความพึงพอใจมากขึ้น และดึงดูดใจให้คนไทยออกกำลังกายต่อเนื่อง สร้างความแข็งแรงและเสริมภูมิคุ้มกันอยู่เสมอ
กลยุทธ์ที่ 1 การนำเสนอบริการและการออกกำลังกายที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล (Hyper-personalization) ซึ่งเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญของเวอร์จิ้น แอคทีฟ ทุกประเทศ ด้วยการศึกษาความต้องการเฉพาะบุคคลของสมาชิกแบบลงลึก นำมาพัฒนาและนำเสนอคลาสรูปแบบใหม่ พร้อมสร้างสรรค์คอนเทนต์ออนไลน์ที่น่าสนใจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์ที่ 2 การจับมือพันธมิตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมาชิก (Partnership Value-Creation) โดยส่งมอบประสบการณ์การออกกำลังกายและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้สมาชิก โดยผนึกกำลังกับซูปเปอร์สปอร์ต ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คัดสรรอุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกายที่บ้าน VA Homekit เพื่อยกระดับการออกกำลังกาย และเป็นจุดเริ่มสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยเริ่มและสนุกกับการออกกำลังกายแบบมีประสิทธิภาพดังแนวทางของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ด้วยราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
กลยุทธ์ที่ 3 ก้าวสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Digital Transformation) ด้วยการมุ่งมั่นนำเสนอเนื้อหาคลาสออนไลน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกโดยใช้ Data Analytics Tool มาวิเคราะห์เนื้อหาที่ตรงใจสมาชิก ต่อยอดจากความสำเร็จของคลาสแบบออนดีมานด์ และคลาสออกกำลังกายทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เช่น กิจกรรม Meet the Doctor เพื่อให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการดูแลทั้งสุขภาพใจและสุขภาพกายให้สมบูรณ์แข็งแรง และสร้างแรงบันดาลใจได้ทุกที่ทุกเวลา"
"ท่ามกลางการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ การออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันที่ดีเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นสำหรับทุกคน พิสูจน์แล้วจากหลายประเทศทั่วโลกที่เปิดให้บริการฟิตเนสว่า หลังช่วงล็อกดาวน์ ผู้คนจะกระตือรือร้นมาออกกำลังกายกันมากขึ้น จากการสำรวจของเวอร์จิ้น แอคทีฟ พบว่ากว่า 47% ของสมาชิกจะกลับมาออกกำลังกายอย่างแน่นอน เราจึงมั่นใจว่าธุรกิจฟิตเนสไทยจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หากได้รับอนุญาตให้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ซึ่ง เวอร์จิ้น แอคทีฟ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยได้มีความสนุกในการออกกำลังกายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยบริการที่ได้มาตรฐานระดับโลก อุปกรณ์อันทันสมัยที่สร้างบรรยากาศในการออกกำลังกาย รวมทั้งการให้บริการของเทรนเนอร์และพนักงานเวอร์จิ้น แอคทีฟ ทุกสาขา ที่จะช่วยสนับสนุนให้ทุกท่านไปถึงเป้าหมายการออกกำลังกายที่ต้องการได้" ดร.วุธรวีกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ คลับของ เวอร์จิ้น แอคทีฟ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี ทั้ง 7 แห่ง พร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 21.00 น. โดยกิจกรรมที่เปิดให้บริการตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ลงวันที่ 28 กันยายน 2564 สำหรับกิจการและกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ซึ่งกิจกรรมและบริการภายในคลับที่ได้รับการอนุญาตประกอบด้วย คลาสโยคะ คลาสพิลาทิส ยิมฟลอร์ สระว่ายน้ำ และบริการผู้สอนการออกกำลังกายส่วนบุคคล ทั้งนี้ เวอร์จิ้น แอคทีฟ ได้จัดเตรียมสถานที่และการเว้นระยะห่างทางสังคมและลดการแออัดของสมาชิกที่มาใช้บริการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้มีการจำกัดจำนวนการเข้าคลาสและพื้นที่ในการออกกำลังกาย โดยสามารถสำรองประเภทและช่วงเวลาการออกกำลังกายได้ผ่านทาง My Locker ภายในแอปพลิเคชัน Virgin Active
เกี่ยวกับ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ
เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เปิดคลับแรกที่ประเทศอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2542 เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทเวอร์จิ้น ที่ก่อตั้งโดย เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน ปัจจุบันเวอร์จิ้น แอ็คทีฟเป็นหนึ่งในผู้นำการออกกาลังกายเพื่อสุขภาพในโลก โดยมีสมาชิกกว่า 1.4 ล้านคน จาก 240 คลับที่ตั้งอยู่ในแปดประเทศ ในสี่ทวีปทั่วโลก (แอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักร อิตาลี ออสเตรเลีย ประเทศไทย และสิงคโปร์) เป้าหมายของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ คือทำให้คนไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของการออกกาลังกายได้ ด้วยบริการชั้นนำ อุปกรณ์แปลกใหม่ และคลับที่ดีที่สุด
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคลับเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ อุปกรณ์ และอัตราค่าบริการ ได้ที่ www.virginactive.co.th หรือ facebook.com/virginactivethailand
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคลับต่าง ๆ ของเราทั่วโลก กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.virginactive.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit