ท่ามกลางวิกฤติของโรคระบาดตัวร้ายอย่างโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบทั่วทุกแห่ง แต่ก็ไม่สามารถหยุดประวัติศาสตร์แห่งความศรัทธาของพี่น้องชาวไทยได้ พิสูจน์ให้เห็นเป็นประจักษ์จากปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของธรรมชาติแห่งลุ่มแม่น้ำโขง "หนองคาย" กับงานเทศกาลออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 และความมหัศจรรย์บั้งไฟพญานาคโลก 1 เดียวเท่านั้น! งาน "ประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก" ประจำปี 2564 ที่เกิดขึ้นอย่างประทับใจ
โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก... นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ประธานเปิดงาน พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดหนองคาย,นายแพทย์ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย, นางสาววิภาดา รัตนโรจนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย รวมทั้งคุณเอ พศิน และ อาจารย์ก้อนคำ และแขกผู้มีเกียรติอีกมากมายร่วมงานฯ ณ ลานวัฒนธรรม พญานาคคู่ ริมโขง จังหวัดหนองคาย เมื่อเร็วๆนี้
นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดงาน"ประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก" ประจำปี 2564 กล่าวถึง งานประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก ว่าเป็นประเพณีสำคัญของชาวจังหวัดหนองคาย ซึ่งบั้งไฟพญานาคถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 และในพื้นที่แต่ละอำเภอจะมีกิจกรรมที่หลากหลายที่เป็น อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี ของชาวจังหวัดหนองคายอย่างแท้จริง เช่น พิธีรำบวงสรวงบูชาพญานาค,ไหลเรือไฟบูชาพญานาค และการลอยกระทงกาบกล้วย ซึ่งหนองคายมีการลอยกระทง 2 ครั้ง ใน 1 ปี เพื่อสักการะบูชาแม่น้ำโขง และองค์พญานาคราชซึ่งตามความเชื่อการปรากฏการณ์ของบั้งไฟพญานาคเป็นการสักการะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มายังโลกมนุษย์ ตลอดจนการทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ และการทำบุญสักการะขอพร ตามรอยองค์พญานาคราช ใน 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของจังหวัดหนองคาย คือ 1. หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง , 2. พระธาตุหล้าหนอง พระธาตุกลางน้ำ, 3.ประติมากรรมพญานาค 2 องค์ ริมแม่น้ำโขงหน้าวัดลำดวน, 4.พระธาตุบังพวน, 5.หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ วัดศรีชมพูองค์ตื้อ, 6.รูปหล่อขี้ผึ้งหลวงปู่เทสก์ เทศน์รังสี วัดหินหมากเป้ง, 7. ถ้ำดินเพียง วัดศรีมงคล, 8.ถ้ำพญานาค วัดไทย โพนพิสัย, 9. พระธาตุโพนจิกเวียงงัว
ทั้งนี้ วันออกพรรษาในปี2564นี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 21 ต.ค. ซึ่งจังหวัดหนองคายยังคงดำเนินการจัดกิจกรรมที่เป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี ให้คงอยู่สืบไปคู่กับคนจังหวัดหนองคาย รวมถึงให้ประชาชนคนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมและประเพณีที่มีการสืบสานกันมาอย่างยาวนาน โดยทางพื้นที่ในแต่ละอำเภอได้กำหนดจุดพื้นที่และจำนวนผู้เข้าร่วมรับชมบั้งไฟพญานาคไว้อย่างชัดเจน พร้อมรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล ทางจังหวัดหนองคายจึงยังคงดำเนินการจัดกิจกรรมนี้ ในการเตรียมความพร้อมและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ ให้ทุกท่านเตรียมความพร้อมของตนเอง ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทาง หากจะเข้าชมบั้งไฟพญานาคตามจุดต่างๆ นั้น ต้องเช็คข้อมูล ลงทะเบียน เพื่อเข้าชมบั้งไฟพญานาคในจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น เพื่อควบคุมจำนวนผู้เข้าชมไม่ให้เกิดความแออัด และให้ปฏิบัติตามาตรการอย่างเคร่งครัดด้วยด้วย
นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งได้มีการท่องเที่ยววิถีใหม่ แบบ "นิว นอร์มอล" ซึ่งนักท่องเที่ยวฯ จะต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ ATK หรือ Rapid Test ที่มีผลเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง มีเอกสารรับจากสถานพยาบาล เพื่อยืนยันก่อนเช้าชมบั้งไฟพญานาค ณ จุดคัดกรองของแต่ละพื้นที่ รวมถึงการมีมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ตาม D-M-H-T-T-A จากสาธารณสุขจังหวัดหนองคาย คือ1) Distancing :การเว้นระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร 2)Mask wearing: การสวมหน้ากากผ้า 3)Hand washing: การหมั่นล้างมือบ่อยๆ ทั้งน้ำสบู่ และ เจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 4)Temperature: ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย 5)Testing: การตรวจหาเชื้อ 6)Application: Thai Cha na การสแกนแอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" ทุกครั้งที่เดินทางไปสถานที่ต่างๆ
เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตของตนเอง ครอบครัวและคนที่เรารัก เชิญร่วมสักการะ บูชาองค์พญานาค -ร่วมทำบุญ 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป...
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit