กรมพินิจฯ และ ก.ล.ต. ร่วมส่งเสริมความรู้และทักษะบริหารจัดการเงิน ให้แก่เด็กและเยาวชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมต่อยอดการลงทุน

10 Sep 2021

กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือเรื่อง "การส่งเสริมความรู้เรื่องการเงินการลงทุน" ให้แก่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานในสังกัด รวมทั้งบุคลากรของกรมพินิจฯ กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจ และเครือข่ายยุติธรรมชุมชน เพื่อให้ความรู้และพัฒนาทักษะการบริหารจัดการเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะการดำเนินชีวิตที่จำเป็น และสามารถต่อยอดสู่การลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลต่อไป

กรมพินิจฯ และ ก.ล.ต. ร่วมส่งเสริมความรู้และทักษะบริหารจัดการเงิน ให้แก่เด็กและเยาวชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมต่อยอดการลงทุน

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และ ก.ล.ต. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ผ่านระบบประชุมทางไกล (Video Conference) เรื่อง "การส่งเสริมความรู้เรื่องการเงินการลงทุน" เพื่อร่วมกันพัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับการเงินการลงทุนสำหรับเด็กและเยาวชน ในการให้ความรู้และพัฒนาทักษะการบริหารจัดการเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะการดำเนินชีวิตที่จำเป็น และสามารถต่อยอดสู่การลงทุนได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ โดยมีรูปแบบการให้ความรู้ผ่านกลุ่มวิทยากร (trainer) หรือ train the trainer ซึ่งประกอบด้วยบุคลากรของกรมพินิจฯ กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจ และเครือข่ายยุติธรรมชุมชน เนื่องจากเป็นผู้ใกล้ชิดกับเด็กและเยาวชน ทำให้มีความเข้าใจและสามารถส่งต่อความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กรมพินิจฯ มีศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนกระจายอยู่ทุกภูมิภาค การให้ความรู้ผ่าน trainer จะช่วยขยายผลการส่งต่อความรู้ไปในวงกว้างและครอบคลุมยิ่งขึ้น

พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า กรมพินิจฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ภารกิจหน้าที่ของกรมพินิจฯ คือ การพิทักษ์คุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และดำเนินการตามคำสั่งศาล ในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของกรมพินิจฯ โดยเน้นกระบวนการดำเนินงานตามแนวคิด 4 ฝึก คือ ฝึกกาย ฝึกจิต ฝึกความคิด ฝึกอาชีพเพื่อมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพฤตินิสัย ก่อให้เกิดทักษะชีวิต และมีต้นทุนความรู้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งเมื่อเยาวชนมีโอกาสทางอาชีพ เยาวชนจะมีชีวิตที่ดี สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ เหตุในการกระทำผิดซ้ำภายหลังปล่อยก็ลดน้อยลง จึงจำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดการขับเคลื่อนงานไปด้วยกัน และขอขอบคุณ ก.ล.ต. ที่จะร่วมกันให้ความรู้และพัฒนาศักยภาพด้านการเงินการลงทุนแก่เด็ก เยาวชน เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนต่อไป

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. มีความยินดีและขอขอบคุณกรมพินิจฯ ที่ให้ ก.ล.ต. ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการฝึกทักษะและพัฒนาเยาวชนด้วยการเสริมสร้างทักษะชีวิตด้าน "การบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล" ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นให้แก่เด็กและเยาวชน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มและเตรียมความพร้อมให้บริหารจัดการเงินเป็น มีเงินออม และสามารถนำไปต่อยอดการลงทุนได้อย่างเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังมีการให้ความรู้แก่บุคลากรของกรมพินิจฯ กรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน และเครือข่ายยุติธรรมชุมชน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถส่งต่อความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการอบรมจะมีทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติการ (workshop) เพื่อสร้างทักษะผ่านการลงมือปฏิบัติจริง เช่น การตรวจสุขภาพการเงิน การจดบัญชีรับ-จ่าย และการตั้งเป้าหมายการเงิน

HTML::image(