สทนช.เร่งขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดเล็ก ตอบสนองความต้องการใช้น้ำของประชาชนทุกพื้นที่ หวังยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้ท้องถิ่นมีบทบาทร่วมแก้ไขปัญหาด้านน้ำในทุกมิติได้อย่างยั่งยืน
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็ก ครั้งที่ 3/2564 ร่วมกับ ผู้แทนจากมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ Gistda และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อาทิ สำนักงบประมาณ กรมทรัพยากรน้ำ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงโครงการแหล่งน้ำขนาดเล็กที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยได้ดำเนินการ 3 ส่วน ประกอบด้วย
1.การจัดทำทะเบียนแหล่งน้ำ เพื่อจัดเป็นข้อมูลกลางด้วยระบบสารสนเทศ และปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าลงทะเบียนแหล่งน้ำในระบบ Thai Water Resource (TWR) รวมแล้วกว่า 61,486 แห่ง ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมา พบว่ามีปัญหาอุปสรรคในบางจุด เช่น ข้อมูลแหล่งน้ำไม่ครบถ้วน บัญชีแหล่งน้ำซ้ำซ้อนในหลายหน่วยงาน ซึ่ง สทนช.จะได้หารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินการร่วมกันในระยะต่อไป
2.การจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็กในคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ตามข้อสั่งการของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติที่มีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน ซึ่งคณะทำงานชุดนี้จะมีบทบาทหน้าที่ในการสำรวจข้อมูล สภาพปัญหาในพื้นที่ กำหนดพื้นที่เป้าหมาย จำแนกรูปแบบโครงการหรือกิจกรรมที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ กำหนดหน่วยงานหลักและรองในการดำเนินการ และกำหนดแนวทางการจัดลำดับความสำคัญของแผนงาน/โครงการ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งในชุมชนระดับตำบล ด้านเทคนิค และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งช่วงเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา สทนช. ได้ดำเนินการจัดประชุมคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด โดยมีคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดพิจารณาเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานฯ แล้ว จำนวน 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ตาก กำแพงเพชร แพร่ สุโขทัย แม่ฮ่องสอน พะเยา เชียงราย น่าน อุตรดิตถ์ พิจิตร และพิษณุโลก สำหรับการแต่งตั้งคณะทำงานฯ อีก 63 จังหวัด จะเร่งดำเนินการโดยเร็วต่อไป
3.การจัดทำคู่มือขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็กด้านทรัพยากรน้ำ เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นในการพิจารณาเสนอโครงการและกิจกรรมการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กให้เป็นระบบยิ่งขึ้น โดยจะจัดทำคู่มือขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็กด้านทรัพยากรน้ำเพื่อใช้เป็นกรอบมาตรฐานการดำเนินการพัฒนา บำรุงรักษา และการจัดตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำสำหรับแหล่งน้ำขนาดเล็ก ที่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และยกระดับการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตลอดจนใช้เป็นกรอบในการพัฒนาและบำรุงรักษาแหล่งน้ำขนาดเล็กด้วยฐานข้อมูล และสนับสนุนการจัดทำแผนงาน/โครงการและกิจกรรม พร้อมทั้งงบประมาณที่มีการจัดลำดับความสำคัญตามหลักวิชาการ สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางของการพัฒนาประเทศ นอกจากนั้น ยังเป็นการยกระดับการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำสำหรับแหล่งน้ำขนาดเล็ก โดยกลไกและศักยภาพขององค์กรผู้ใช้น้ำ ด้วยความรู้ความเข้าใจองค์รวม รู้เท่าทัน และพร้อมรับปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
"ปัจจุบัน สทนช. อยู่ในระหว่างดำเนินการจัดทำกรอบแนวทางการจัดทำคู่มือดังกล่าว พร้อมทั้งจะดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินการให้สัมฤทธิ์ผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยจะได้รายงานผลการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็กทั้งหมดให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) รับทราบในการประชุมครั้งที่ 4/2564 ในวันที่ 9 ธันวาคม 2564 นี้ด้วย และ สทนช. จะเร่งดำเนินการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมต่อไป" เลขาธิการ สทนช. กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit