บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM ปักธงผลงานปี 65 ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 50% ภายใต้แผนกลยุทธ์ LEADING CHANGE ชูศักยภาพการบริหารงาน ภายใต้ 4 แนวทาง มุ่งขับเคลื่อนด้วยพลังแบรนด์ การตลาดดิจิทัล ระบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจของลูกค้า รุกสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 7-8 ผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับกระแสเทรนด์รักสุขภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร กล่าวว่า ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในรูปแบบเครือข่าย หรือ Multi-Level Marketing (MLM) โดยแบ่งได้เป็น 3 ธุรกิจหลักได้แก่ 1. ธุรกิจเครือข่ายเพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศและต่างประเทศ 2. ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจเครือข่ายและรับจัดงานสัมมนา และ 3. ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และโรงงานผลิตสินค้า เราดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในลักษณะเครือข่ายขายตรง (Multi-level Marketing หรือ MLM) โดยบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท และปัจจุบันมีบริษัทย่อย ทั้งหมด 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ แล็บบอราทอรี่ จำกัด (SML) บริษัท ซัคเซส สปิริต จำกัด (SPT) และ SCM Spirit (Myanmar) Co., Ltd. (SPM) ดำเนินธุรกิจใน 3 ธุรกิจ ได้แก่ธุรกิจแบบเครือข่าย ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจเครือข่าย การรับจัดงานสัมมนา และธุรกิจโรงงานผลิตสินค้า ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในการดูแลสุขภาพ จึงตระหนักถึงปัญหาเรื่องสุขภาพของคนไทย ที่จะทำอย่างไรให้คนไทยหันมาดูแลและใส่ใจในเรื่องสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ
จากแนวโน้มของตลาดผลิตภัณฑ์ในภาพรวมของบริษัทที่เติบโตมากขึ้น ซัคเซสมอร์ จึงวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นหลากหลายผลิตภัณฑ์ในไตรมาตร 3 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันไป โดยกลยุทธ์หลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะเน้นในเรื่องนวัตกรรมและคุณภาพของสินค้าทีมีผลลัพธ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างชัดเจนได้แก่
ผลิตภัณฑ์ 2 รายการนี้ จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ โภชนบำบัด หรือ นูทราซูคิคอล (Nutrition + Pharmaceuticals) คือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากอาหารที่ผ่านการสกัดหรือแยกเป็นสารบริสุทธิ์ ที่มีสรรพคุณคล้ายยา ช่วยป้องกันโรค ฟื้นฟูโรค และชะลอความชรา และกำลังเป็นกระแสสุขภาพใหม่ของโลก เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมาก และมีผลงานวิจัยหลายงานวิจัยรองรับ ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยสนับสนุนยอดขายในไตรมาส 4 นี้และปีหน้า
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเน้นกลุ่มผู้บริโภครายใหม่ในด้านการดูแลสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ในช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถกระตุ้นการบริโภคของลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง การเติบโตของรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ ทั้งประเทศกัมพูชาและสิงคโปร์มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่กัมพูชามียอดขายเติบโตจากการที่ตราสินค้าของบริษัทฯ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น นายแพทย์สิทธวีร์ กล่าว
นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและการบริการรวม 873.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.90 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านนักธุรกิจ 791.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 85.3 และรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย 68.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.4 ทั้งนี้ เป็นผลจากยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และเป็นผลเติบโตในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทางการเกษตรที่เติบโตถึงร้อยละ 191
ขณะที่กำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 ทำได้อยู่ที่ 149.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 299.2 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.5 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ดีขึ้น
และในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 50% ภายใต้ธีม LEADING CHANGE 2022 การนำสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งมุ่งเน้นในการขับเคลื่อนด้วยพลังแบรนด์ การตลาดดิจิทัล ระบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจของลูกค้า ผ่านการเติบโตในประเทศและต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์สร้างการเติบโต 4 กลยุทธ์ด้วยกัน คือ
ในตลาดต่างประเทศปัจจุบัน ประเทศที่มีโมเมนตัมดีของเราคือ ประเทศกัมพูชา เติบโตกว่า 100% และตามมาด้วยประเทศสิงคโปร์และมาเลเชีย เติบโตกว่า 50% พร้อมกันนี้บริษัทฯ วางแผนขยายไปในโซนยุโรปอย่างต่อเนื่องภายในปี 2565 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการขยายตลาด รองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค โดยใช้จุดแข็งของไทยตอบรับ เทรนด์สุขภาพของโลก พร้อมปรับกลยุทธ์ในตลาดต่างประเทศนั้น เราใช้กลยุทธ์ Local Marketing โดยการปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและการแข่งขันในตลาดแต่ละประเทศ ที่เชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกัน พร้อมผลักดัน สินค้า Flagship และพัฒนา digital platform และระบบบริหารฐานข้อมูลครบวงจร เสริมด้วยโปรโมชั่นที่จูงใจพร้อมการสื่อสารควบคู่กันไป
"เรามีวิสัยทัศน์ที่สำคัญคือการเป็นเครือข่ายแห่งการสร้างความสำเร็จ ความสุข และการบรรลุจุดมุ่งหมายแห่งตน ซึ่งปัจจัยความสำเร็จในปี 65 มาจากความสามารถของบุคลากรภายในและนักธุรกิจที่ยกระดับขึ้นจนสามารถแข่งขันได้ รวมถึงการยกระดับเทคโนโลยีที่ช่วยในการบริหารงาน การให้บริการลูกค้าและการมีเครื่องมือดิจิทัลและบริหารการตลาดดิจิทัลที่ช่วยขยายตลาดได้ และการบริหารการเปลี่ยนแปลงที่ได้ผลทั่วทั้งองค์กร ซึ่งรวมถึงทีมนักธุรกิจด้วยพลังคุณค่าของแบรนด์ที่ชัดเจนและการสื่อสารแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ ยอมรับและสนับสนุนจากกลุ่มคนที่อยู่ในตำแหน่งวางของแบรนด์ จนถึงขั้นเกิดแบรนด์และโปรดักส์เลิฟเวอร์จำนวนมาก พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้แก่นักธุรกิจและลูกค้าได้อย่างคงเส้นคงวาในทุกๆ จุดสัมผัสกับแบรนด์" นายนพกฤษฏิ์ กล่าวทิ้งทาย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit