เจ เวนเจอร์ส เดินหน้าเปิด "JNFT" แพลตฟอร์ม NFT สัญชาติไทย โชว์ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ครีเอเตอร์ และคริปโตคอมมูนิตี้ พร้อมรับการเติบโตของวงการ NFT เพื่อสร้างพื้นที่ระหว่างนักสร้างสรรค์ และนักสะสมผลงานให้เติบโตสู่ระดับโลก
ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์, CEO บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนา JNFT กล่าวว่า "ในยุคดิจิทัลดิสรัปชันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกส่วนของชีวิตประจำวัน รวมถึงงานศิลปะ เราจึงต้องการสนับสนุนให้นักสร้างสรรค์ชาวไทยมีโอกาสผลิตผลงานในรูปแบบดิจิทัลได้ง่ายขึ้น รวมถึงเป็นอีกช่องทางที่จะนำนักสะสมทั้งไทย และต่างชาติได้เข้าถึงผลงานศิลปะเหล่านั้นอย่างกว้างขวาง จึงเกิดเป็น JNFTแพลตฟอร์มที่นำนักสร้างสรรค์ และนักสะสมมาพบกันในรูปแบบ Marketplace"
JNFT Marketplace สามารถซื้อ ขาย ประมูล ผลงานศิลปะที่เป็นดิจิทัล บนระบบบล็อกเชนแบบไร้ศูนย์ (Decentralized) ผ่านการยืนยันสิทธิ์แทนการเป็นเจ้าของด้วยเหรียญที่ไม่สามารถแทนค่าหรือทำซ้ำได้ (Non-Fungible Token) รองรับงานศิลปะที่เป็นไฟล์ดิจิทัล ได้แก่ รูปภาพความละเอียดสูงที่เป็นฟอร์แมต JPG หรือ PNG รูปภาพเคลื่อนไหวในฟอร์แมต GIF หรือ MP4
โดยจุดเด่นของ แพลตฟอร์ม JNFT ได้แก่ (1) Local Community Global Buyer ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตลาดกลางของคนไทย ศิลปินไทย และผู้ชื่นชอบที่จะสะสมงานศิลปะ รวมไปถึงนักลงทุนจากทั่วโลก เข้ามามีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนการขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงผลงานศิลปะได้อย่างกว้างขวาง (2) Professional Listing ด้วยการทำงานบนมาตรฐาน ERC721 เทียบเท่ากับแพลตฟอร์ม NFT ระดับโลก และ (3) Low network Fee เนื่องจากแพลตฟอร์มพัฒนาบนบล็อกเชนของ Binance Smart Chain ที่มีความรวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมในการใช้งานราคาถูก
JNFT Marketplace เปิดให้นักสร้างสรรค์ หรือครีเอเตอร์ ที่สนใจนำเสนอขายงานศิลปะ สมัครเข้าใช้งานแพลตฟอร์ม JNFT ได้ด้วยตนเอง เพียงมีกระเป๋าเงินในระบบบล็อกเชน (Metamask) และเชื่อมต่อเข้าระบบ และยืนยันตัว ซึ่งทำได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถสร้างเหรียญ NFT เพื่อตั้งขาย หรือเปิดประมูล และ
ส่งมอบสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อได้
ซึ่ง JNFT ได้แบ่งกลุ่มของครีเอเตอร์ออกเป็น 1) Selected Artist 2) Corporate NFT และ 3) Open Market โดยส่วนของ Selected Artist ในการเปิดตัวชุดแรกนี้จะมีศิลปินจากหลากหลายสายทั้งนักร้อง นักแสดง และศิลปะ เข้าร่วมสร้างสรรค์ผลงาน NFT เป็นครั้งแรกของทุกคน ได้แก่ โน้ต-อุดม แต้พานิช, บอย ท่าพระจันทร์-อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย, ปาล์มมี่-อีฟ ปานเจริญ, ปั๊ป โปเตโต้, ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล, มัดหมี่-พิมดาว พานิชสมัย, Suntur-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล, Yak (ยักษ์) คาแรกเตอร์ จากภาพยนตร์ The Giant King รวมทั้งยังได้ครีเอเตอร์ผู้มีชื่อเสียงและประสบการณ์ ที่จะนำผลงานของพวกเขามาอยู่บน JNFT อย่างเกียรติอนันต์ เอี่ยมจันทร์ หรือ Line Censor ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน NFT และสามารถสร้างรายได้หลักล้าน , ชุมพล วงศ์มติกุล หรือ Bittoon และสุรบถ หลีกภัย ที่ครั้งนี้ได้นำเอาผลงานของชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาสร้างสรรค์เป็น NFT ครั้งแรก
สำหรับ Corporate NFT เป็นการร่วมมือระหว่าง JNFT กับองค์กรธุรกิจที่จะสร้างสรรค์งาน NFT ระดับองค์กร ไม่ว่าจะเป็น บริษัท BECI Corporation จำกัด บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และ The Moon : Crypto & NFT Cafe ซีคอนสแควร์
ในส่วนของ Open Market เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักสร้างสรรค์ชาวไทยได้มีพื้นที่ขายงานมากขึ้น โดยช่วงแรกจะใช้รูปแบบ Authorization กับครีเอเตอร์ที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมกับ JNFT และครีเอเตอร์ 3 อันดับแรกจากกิจกรรม JNFT POPULAR VOTE 2021 ที่ได้จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นเดือนมกราคมจึงจะเริ่มเปิด Open Market สำหรับบุคคลทั่วไป
ด้าน Collectors หรือ ผู้สนใจซื้อ หรือประมูลงานศิลปะ สามารถเข้าใช้งาน JNFT ได้โดยใช้เพียงแค่มีกระเป๋าเงิน Metamask ทำให้สะดวก ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัวสูง ระบบ JNFT มอบทางเลือกในการแสดงความเป็นเจ้าของผู้ซื้อผลงานในหลายรูปแบบ ทั้งแบบเปิดเผยหรือปกปิดตัวตน โดยแสดงเพียงบางส่วนของเลขกระเป๋าเงิน เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของของผลงานนั้นๆ
JNFT มุ่งเน้นที่จะสร้างพื้นที่ให้กับศิลปะหลากหลายรูปแบบ และต้องการที่จะสนับสนุนศิลปินให้มีพื้นที่แสดงผลงาน และสามารถสร้างรายได้แม้จะถูกดิจิทัลดิสรัปต์ รวมทั้งยังมีระบบคัดกรองศิลปิน และความเหมาะสมของชิ้นงาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจกับการเลือกชม และเสนอซื้อขายงานศิลปะที่ต้องการได้ทุกที่ทุกเวลา โดยผู้ที่สนใจใช้งาน JNFT Marketplace สามารถเข้าชมและสร้างสรรค์ผลงานได้ที่ https://jnft.digital
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit