ทำอย่างไรดี เมื่อตลาดเป็น Sideways ไม่มีเทรนด์?
ในช่วงที่ทิศทางตลาดไม่แน่นอน แบบนี้นักลงทุนจะยังสามารถทำกำไรจากอนุพันธ์ได้ไหม?
คำถามที่หลายคนถามกับตัวเอง และยังลังเลไม่ได้ตัดสินใจลงทุนซะที วันนี้เรามีคำตอบให้กับคุณแล้ว!
TFEX Options Workshop From Home ในหัวข้อ "ตลาด Sideway เลือก Options เทรดอย่างไร ในโปรแกรม Streaming" โดยคุณนิมิต วิทย์ศลาพงษ์ ผู้อำนวยการ สายงานผลิตภัณฑ์หลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ บล. กรุงศรี เป็น Session ที่จะทำให้คุณรู้ว่าการทำกำไรในช่วงตลาด Sideways จะไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป หากคุณใช้สินค้า Options เป็น
การจะเทรดทำกำไรในช่วง Sideways ได้นั้น ก่อนอื่นต้องดูทิศทางและแนวโน้มของตลาดให้เป็นเสียก่อน โดยดูได้จากกราฟราคาของดัชนีอ้างอิง SET50 ซึ่งแยกแนวโน้มเทรนด์ได้ออกเป็น 2 แบบหลักๆ คือ มีทิศทางและไม่มีทิศทาง เมื่อเรารู้แนวโน้มก็จะเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมได้
- มีทิศทาง : แยกเป็นขาขึ้นและขาลง โดยขาขึ้นจะมีราคาที่ทำจุดสูงสุด สูงขึ้นเรื่อยๆ และจุดต่ำสุดที่ยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนขาลงนั้นก็จะมีราคาที่ทำจุดต่ำสุด ต่ำลงเรื่อยๆ และจุดสูงสุดที่ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ เช่นกัน
- ไม่มีทิศทาง : ไม่แสดงทิศทางขึ้นหรือลงอย่างชัดเจน ราคามีการย้ำๆ อยู่ที่เดิม
ตลาด Sideways
เกิดขึ้นจาก ฝั่งซื้อ-ขาย ยังลังเลไม่เลือกทางทั้งคู่ในช่วงเวลานั้นๆ ไม่มีใครรู้ว่าตลาด Sideways จะเกิดขึ้นตอนไหน ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะจบลงเมื่อใด จนกว่าจะเกิดการ Break เปลี่ยนเป็นทิศทางขาขึ้น/ลง
กลยุทธ์ที่เลือกใช้ตอนตลาด Sideways คือ Straddle, Strangle และ Short Options
เลือกเข้า Position เมื่อราคาเคลื่อนที่อยู่กรอบบนหรือกรอบล่างของ Sideway โดยหากคาดว่าราคาจะยังอยู่ในกรอบที่เป็น Sideway เช่นเดิม ก็เลือกใช้กลยุทธ์เทรดที่อยู่ในกรอบตามแนวรับแนวต้าน แต่หากคาดว่าราคาจะ Break Out ก็ใช้กลยุทธ์เทรดแบบ Break Out โดยมองจุดขาดทุนที่เรารับได้เป็นสำคัญ
เราจะดูราคา Options ในโปรแกรม Streaming อย่างไร
เลือกเมนู TFEX > เลือก Options Summary เพื่อแสดงราคา Options > เลือกเดือนที่หมดอายุ > Apply เพื่อแสดงราคา Options ในเดือนที่เลือก
ทำความเข้าใจ Payoff Chart
เครื่องมือที่ควรสนใจมากที่สุดตัวหนึ่งสำหรับการเทรด Options ใน Streaming ก็คือ Payoff Chart เป็นเครื่องมือช่วยวาดกราฟกำไรขาดทุนรวมทั้งสรุปผล Summary เพื่อให้เราเห็นภาพกลยุทธ์ที่เราเตรียมไว้แบบง่ายๆ และเห็นภาพกำไรขาดทุนอย่างชัดเจน คุณจะทราบจุดคุ้มทุนว่าดัชนีต้องปรับตัวเป็นเท่าไร หรือวิ่งอยู่ในกรอบไหนถึงจะสามารถทำกำไรได้
เทรด Options ต้องให้ความสำคัญกับค่า Delta
ค่า Delta คือค่าที่บอกว่าราคา Options ตัวนั้นๆ จะวิ่งตามดัชนีมากแค่ไหน ณ เวลานั้น อย่าง Options ที่เป็น In-The-Money ซึ่งมีค่า Delta สูงก็หมายความว่าราคา Options ตัวนั้นจะเปลี่ยนแปลงใกล้เคียงกับดัชนี โดยเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อบอกถึงความน่าจะเป็นว่า Options ตัวนั้นๆ มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะเป็น In-The-Money ภายในอายุการเทรดของ Options ตัวนั้น ยกตัวอย่างเช่น หากค่านี้ต่ำ สมมติ 0.3680 ก็คือมีโอกาสแค่ 36.8% ที่ Options ตัวนี้จะกลายเป็น In-The-Money ภายในอายุสัญญาได้
หากราคาวิ่งอยู่ในกรอบและขึ้นมาทดสอบระดับแนวต้าน แต่เรามองว่าราคาน่าจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Sideway เช่นเดิม ไม่ได้ Beak Out เราสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ Short Call ที่ระดับแนวต้านได้ เพื่อรับค่า Premium หรือหากตลาดปรับตัวลงมาและราคามีการเคลื่อนไหวทดสอบระดับแนวรับ เราก็สามารถเลือกใช้กลยุทธ์ Short Put ได้เช่นกัน
Bear Call Spread
จากกรณีข้างต้นหากเรา Short Call แต่ไม่อยากรับความเสี่ยง อยากจำกัดขาดทุนด้วย เราสามารถ Long Call ที่ Strike Price สูงขึ้นเพื่อจำกัดขาดทุนได้หากตลาดไม่เป็นไปตามที่คาด เพราะการ Short Call นั้นจำกัดกำไร แต่ไม่จำกัดขาดทุน ดังนั้นการ Long Call เพิ่มก็จะช่วยจำกัดขาดทุนได้ แต่ภาพรวมของผลตอบแทนเราก็จะได้รับค่า Premium ลดลงตามไปด้วย
กลยุทธ์ Short Strangle และ Short Straddle
สองวิธีนี้เหมาะแก่การใช้ในช่วงตลาด Sideways มากที่สุด เป็นการ Short ทั้ง Call และ Put พร้อมกัน แต่ความแตกต่างของสองกลยุทธ์นี้คือ Straddle จะ Short ที่ Strike Price เดียวกัน ขณะที่ Strangle จะ Short Strike Price ที่ต่างกันที่เป็น Out-of-the-Money เช่น Short Call Options ที่ราคาใช้สิทธิสูง พร้อมกับ Short Put Options ที่ราคาใช้สิทธิต่ำนั่นเอง ซึ่งข้อควรระวังก็คือเราสามารถขาดทุนได้ไม่จำกัดหากตลาดเริ่มวิ่งแบบมีเทรนด์ไม่ว่าจะขาขึ้นหรือขาลง
การทำกลยุทธ์ Strangle นั้นทำได้ทั้ง Long และ Short โดยเราใช้ Long Strangle เมื่อคาดว่าตลาดจะผันผวนมากและไม่แน่ใจว่าจะขึ้นหรือลง ส่วนกลยุทธ์ Short Strangle ใช้ในช่วงที่ตลาดไม่มีความผันผวนหรือ Sideways ในกรอบที่จำกัด
Iron Condor
หรือที่บางคนรู้จักกันในชื่อของ Iron Condor Spread จากตัวอย่าง Short Strangle ข้างต้น หากเราต้องการจำกัดความเสี่ยงเพิ่มเติม ก็สามารถทำได้ด้วยการ Long Call ที่ราคาใช้สิทธิที่สูงกว่าเดิม พร้อมกับ Long Put ที่ราคาใช้สิทธิที่ต่ำกว่าเดิม การทำลักษณะนี้ก็จะช่วยให้เราจำกัดการขาดทุนได้ทั้งสองฝั่ง เหมือนเป็นการเอาเงินค่า Premium ที่ได้รับมา จ่ายคืนออกไปบางส่วนเพื่อซื้อประกันความเสียหายให้พอร์ต ซึ่งกลยุทธ์นี้สามารถทำได้ในช่วงตลาด Sideway เช่นกัน
ตราบใดที่ยังไม่มีสัญญาณ ก็หมายความว่าตลาดยังจะเป็นแบบ Sideways ไปเรื่อยๆ เราสามารถกำหนดขอบเขตบน (Upper Bound) และขอบเขตล่าง (Lower Bound) เมื่อราคาวิ่งไปทดสอบแนวรับและแนวต้าน มันจะต้องเกิดเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น คือ จะกลับลงมาอยู่ในกรอบ หรือทะลุกรอบออกไป (Break Out)
กลยุทธ์เพิ่มผลตอบแทนช่วง Sideway
Yield Enhancement - Cover Called
แนวคิดของกลยุทธ์นี้ คือ หากเราลงทุนในสินค้าอ้างอิง เช่น กองทุน เอาไว้อยู่แล้ว เมื่อดัชนีวิ่งขึ้นมาทดสอบกรอบบนแล้วยังมองเป็น Sideway ซึ่งราคายังไม่ถึงเป้าหมายในการขายสินค้าอ้างอิงดังกล่าว เราสามารถมา Short Call Options ใน Strike Price ที่สูงขึ้นหรือใกล้เคียงราคาเป้าหมายที่อยากขาย เพื่อรับค่า Premium จาก Options ก่อนได้ ซึ่งผลที่อาจเกิดขึ้นจะเป็นไปได้หลายกรณีดังต่อไปนี้
- ถ้าราคาสินค้าอ้างอิงปรับตัวลง : เสียโอกาสขายสินค้าอ้างอิง แต่ได้ผลตอบแทนจาก Options เป็นค่า Premium มาทดแทน
- ถ้าราคาสินค้าอ้างอิงปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่ถึง Strike Price : ยังไม่ขายสินค้าอ้างอิง แต่ได้ผลตอบแทนจาก Options เป็นค่า Premium มาทดแทน
- ถ้าราคาสินค้าอ้างอิงปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า Strike Price : เราอาจถูกใช้สิทธิจากผู้ซื้อ Options แต่จะสามารถขายสินค้าอ้างอิงได้ในราคาที่ตั้งใจ ขณะที่ค่า Premium ที่ได้รับมาในตอนแรกก็นำมาชดเชยความเสียหายบางส่วนกรณีถูกใช้สิทธิได้ แต่ต้องระวังในกรณีที่ดัชนีวิ่งอย่างรุนแรง เราอาจเสียหายมากขึ้นจากการ Short Call Options ได้
การลุ้น Break Out
เมื่อราคามาถึงแนวรับแนวต้านสำคัญ หากมองว่าดัชนีเริ่มมีความผันผวนจนเตรียม Break Out เราสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ Long Strangle ได้ โดยไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นทิศทางใด
สุดท้าย หัวใจตัวหนึ่งของการเทรด Options ใน Streaming ก็คือ กราฟ Payoff Chart เพราะเราสามารถผสมกลยุทธ์ได้อย่างอิสระแบบเห็นภาพชัดเจน ซึ่งการที่ Options ค่อยๆ หมดอายุนั้นสำคัญมาก โดยต้องมองว่า Options จะมีมูลค่าเสื่อมลงเรื่อยๆ การ Short Options จะได้ประโยชน์สูงสุดจากจุดนี้ ยิ่งดัชนีไม่มีความผันผวนคน Short Options ไว้ยิ่งได้เปรียบ แต่ก็อย่าลืมว่าการ Short Options อย่างเดียวนั้นสามารถขาดทุนได้ไม่จำกัด การเลือก Strike Price ที่ความเสี่ยงน้อยกว่าอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ต่างกับฝั่ง Long Options ยิ่งถือนานยิ่งเสื่อมมูลค่าจาก Time Decay หากไม่มีทิศทาง เราเลือกใช้ Long Options เมื่อตลาดเริ่มมีทิศทางจะได้เปรียบกว่า
ปิดท้ายด้วยเทคนิคที่ว่าตลาด Sideways นั้น บางครั้งดูด้วยตาเปล่าอาจไม่แน่ใจ เราสามารถนำความรู้และใช้นิยามต่างๆ ที่เรียนวันนี้ไปช่วยได้ อย่างที่รู้กันว่าปีนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงธันวาคม กราฟราคาค่อนข้างมีลักษณะแบบ Sideways คือไม่ขึ้นไม่ลงมาตลอด สิ่งที่เราระบุได้นั้นก็คือนัยยะสำคัญของแนวรับ แนวต้าน หากราคาเคลื่อนไหวทะลุแนวใดแนวหนึ่งขึ้นมา นั่นหมายว่าคุณเจอสัญญาณของเทรนด์ใหม่แล้ว
รับชมสัมนาย้อนหลัง "ตลาด Sideway เลือก Options เทรดอย่างไร ในโปรแกรม Streaming" ได้ที่ https://setga.page.link/GxXoynw4Mt12KvMc9
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit