ร้านวัสดุก่อสร้างกำลังปรับเทรนด์เข้าสู่การค้าบนออนไลน์มากขึ้น ในขณะที่ผู้บริโภคยุคใหม่นิยมทำ DIY ตกแต่งบ้านของตนเอง ช่วงโควิดเทรนด์นี้พุ่งแรง โอกาสของการเป็นตัวแทนรายย่อยในธุรกิจดังกล่าวจึงน่าสนใจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในปี 2564 ยอดขายร้านค้าวัสดุก่อสร้างอาจฟื้นตัวเล็กน้อยจากปีก่อนประมาณ 0.2%-1.9% หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 8.03-8.17 แสนล้านบาท โดยประเภทร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีกว่ากลุ่มอื่น คือ กลุ่มร้านค้าวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (Modern Trade) ที่พยายามหาโอกาสสร้างยอดขายผ่านช่องทางที่หลากหลายและผสมผสานระหว่างหน้าร้านสาขาและช่องทางออนไลน์ ควบคู่ไปกับสินค้าตกแต่งบ้านอื่นๆ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคคนเมืองยุคใหม่ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการดึงฐานลูกค้ามาจากร้านค้าปลีกรายย่อยดั้งเดิม
จากแนวโน้มดังกล่าวทางบริษัท ทีแม็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เห็นทิศทางการเปลี่ยนแปลงของตลาดวัสดุก่อสร้าง จึงได้ปรับตัวพร้อมที่จะพัฒนาสินค้าใหม่และพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ให้เป็นไปตามเทรนด์ของผู้บริโภคนั่นคือการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และการขายผ่านระบบแฟรนไชส์
"ทันข่าว Today" คอลัมน์ "SME Talk" ได้พูดคุยกับคุณมนตรี อิทธิชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีแม็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และคุณคณิสร ช้างรู้กิจ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เปิดเผยถึงแผนการขยายตลาดด้วยการหาตัวแทนขายออนไลน์ภายในสิ้นปีนี้ และการเปิดรับแฟรนไชส์ในกลางปีหน้า เพื่อเป็นช่องทางโอกาสทางธุรกิจให้กับนักลงทุนขนาดเล็กที่สนใจ
ประวัติความเป็นมาของบริษัท
บริษัทเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2546 ภายใต้ชื่อบริษัท เวลฟิกซ์ จำกัด เริ่มต้นจากการนำเข้าสินค้าจำพวกฟาสเทนนิ่ง (Fastening) อุปกรณ์ยึดติดประเภทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง น้ำยาเจาะเสียบเหล็ก พุกเหล็กรับกำลังสูง เครื่องมือช่าง รวมถึงงานบริการรับเจาะและติดตั้ง เมื่อ 18 ปีที่ผ่านมาเน้นการขายเข้าสู่โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ประสบความสำเร็จก็ได้ขยายสาขาคลังสินค้าให้บริการไปยังหัวเมืองใหญ่ ๆ ตามภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี บริการได้ครอบคลุมทั้งประเทศ รวมถึงขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทเริ่มคิดว่าการเป็นเพียงผู้ซื้อมาขายไปด้วยการนำเข้าจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแข่งขันในท้องตลาดได้ จึงได้ต่อยอดเป็นผู้ผลิต และได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทีแม็กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เริ่มต้นผลิตชิ้นงานขึ้นรูปเหล็กที่เกี่ยวกับงานระบบไฟฟ้าและประปา เพื่อป้อนตลาดผู้รับเหมา ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิม โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดขายผ่านโลโก้ เวลฟิกซ์ (Welfix) ต่อมาก็ผลิตต่อยอดในกลุ่มของปูนซีเมนต์เฉพาะทาง ได้แก่ ปูนซีเมนต์ชนิดรับกำลังสูง(ปูนเกราท์) ตลอดจนงานฉาบบาง(ปูนสกิม) และงานปูกระเบื้อง(ปูนกาว) ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มโครงการขนาดใหญ่ เช่น ก่อสร้างอาคารสูง งานสร้างสะพาน งานโครงการหมู่บ้าน เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดขายผ่านโลโก้ตรามังกร (Dragon) สีต่างๆ เช่น มังกรน้ำเงิน (Blue Dragon) สำหรับงานซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีต มังกรแดง (Red Dragon) สำหรับงานปูกระเบื้อง มังกรเขียว (Green Dragon) สำหรับงานฉาบบาง และกาวยาแนว
ต่อมาบริษัทก็เข้าสู่การเพิ่มไลน์สินค้าประเภทน้ำยาที่ใช้ในคอนกรีต เช่น น้ำยาประสานคอนกรีต น้ำยาบ่มคอนกรีต น้ำยาทาแบบที่มีทั้งชนิดน้ำและชนิดน้ำมัน กาวอีพ๊อกซี่สำหรับเสียบเหล็ก สีรองพื้นกันสนิม ทั้งหมดนี้เพื่อป้อนให้กับลูกค้าโรงหล่อ และโครงการขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก และในปัจจุบันบริษัทฯ ได้ก้าวสู่ความเป็นมาตรฐานระดับสากลด้วยระบบบริหารคุณภาพ ISO9001:2015
ปัจจุบันนี้บริษัทดำเนินธุรกิจอะไรบ้าง
ปัจจุบันนี้บริษัทดำเนินธุรกิจแบ่งประเภทสินค้าออกเป็น 4 หมวดใหญ่ ดังนี้
แผนในอนาคตเป็นอย่างไร
เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI ในปี 2567 บริษัทจึงตั้งเป้าขยายธุรกิจใหม่ ๆ ดังนี้
1.กลุ่มของการต่อยอดสินค้าใหม่ ๆ โดยบริษัทตั้งเป้าเข้าสู่กลุ่มเกษตรกรรม ทั้งนี้ด้วยเห็นว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมา พฤติกรรมผู้บริโภคส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มในเมือง หันมาให้ความสำคัญกับงานด้านการเพาะปลูกเลี้ยงต้นไม้มากขึ้น ทั้งต้นไม้ในกลุ่มไม้ประดับ และงานสวนครัว ทางบริษัทจึงเริ่มนำเครื่องมือทางการเกษตรเข้ามาจำหน่ายทั้งในกลุ่มในเมือง และกลุ่มที่เป็นมืออาชีพ
บริษัทมีทรัพย์สินที่เป็นที่ดินอยู่ประมาณ 50 ไร่ อยู่ที่ อ.แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี จึงได้ดำเนินการผลิตดินพร้อมสำหรับปลูก แพ็คใส่ถุง (ภายใต้แบรนด์ ไรโน่) ขายให้กับผู้บริโภคกลุ่มสนใจปลูกต้นไม้ในเมืองและร้านขายต้นไม้
นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการที่จะจับมือกับยักษ์ใหญ่ด้านการเกษตร เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ด้านการเกษตรแพ็คเป็นถุง ๆ เพื่อส่งขายโมเดิร์นเทรด ร้านฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด เมื่อเข้ามาร้านฮาร์ดแวร์ เกษตรกรส่วนใหญ่ก็ต้องการหาซื้ออุปกรณ์ด้านการเกษตร หรือสินค้าเพื่อการเพาะปลูกในร้านประเภทนี้เบ็ดเสร็จในที่เดียวกัน พร้อมกันนี่ก็มีโครงการปลูกกัญชงเพื่อป้อนกับลูกค้าที่ต้องการนำไปวัตถุดิบประกอบการผลิตเป็นอาหารต่อไป
ทางด้านการพัฒนาการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายบริษัทก็มีโครงการ รับสมัครตัวแทนขายออนไลน์ ให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ และการเปิดแฟรนไชส์ให้สำเร็จภายในกลางปีหน้า
รายละเอียดของการเป็นตัวแทนขายออนไลน์เป็นอย่างไร
จากสถานการณ์โควิด เกิดปัญหาเรื่องข้อจำกัดและการปิดร้านฮาร์ดแวร์ โมเดิร์นเทรด ขนาดใหญ่ ลูกค้าไม่สามารถเดินช็อปสินค้าจำพวก Home Use ได้ในขณะที่คนอยู่กับบ้าน นอกเหนือจากงานที่ต้อง Work From Home แล้ว ส่วนหนึ่งคนให้ความสนใจด้านการซ่อมแซมบ้านในส่วนที่เสียหาย ตกแต่งบ้านให้น่าอยู่มากขึ้น หาเวลาทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับบ้านเพื่อการผ่อนคลาย ดังนั้น ตลาดกลุ่มนี้มีการเติบโตที่ดีในช่วงโควิดที่ผ่านมา และคาดว่าจะเป็นเทรนด์ของคนยุคใหม่ในอนาคต ในขณะที่การเปิดร้านขายฮาร์ดแวร์เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ต้องใช้เงินหลายล้านบาท ต้องมีแรงงาน การจัดการ เรื่องของโลจิสติกส์ การจดทะเบียนบริษัท การเสียภาษี ซึ่งล้วนแต่เป็นอุปสรรคของการเปิดร้านฮาร์ดแวร์สักร้าน
ดังนั้นทาง TMAX เห็นทั้งปัญหาและโอกาสดังกล่าว ด้วยเห็นว่าทางบริษัทมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่พร้อมป้อนเข้าสู่ธุรกิจร้านฮาร์ดแวร์มากกว่า 1,000 รายการ มีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการหลังบ้านต่าง ๆ จึงคิดโครงการขายผ่านทางออนไลน์ เพื่อเป็นอาชีพที่สองให้กับผู้ประกอบการที่สนใจ ด้วยมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ คุณภาพสินค้า และความเข้มแข็งของแบรนด์ ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี ตลอดจนมีเป้าหมายพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าแบรนด์ TMAX สามารถขายบนออนไลน์ได้อย่างแน่นอน พร้อมกับตั้งมั่นว่า คู่ค้าชนะ TMAX ก็ชนะ
หน้าที่ของการเป็นตัวแทนขายออนไลน์มีอะไรบ้าง
หน้าที่ของตัวแทนออนไลน์ของทาง TMAX คือ เป็นเจ้าของร้าน ขาย และปิดการขาย โดยทำการตลาดผ่านเพจตัวแทน มิสเตอร์ที ฮาร์ดแวร์ ออนไลน์ โพสต์ Content ที่ทางสำนักงานใหญ่มีให้ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่คิดว่ามีศักยภาพ นอกจากนี่ยังสามารถสร้าง Content ของตัวเองให้ถูกใจกับกลุ่มเป้าหมายที่ตัวเองจับอยู่ ทำการตลาดและขายอยู่บนแพลตฟอร์มโซเชียล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเพจเฟซบุ๊ก Market Place หรือบน Line Official ให้สำเร็จ ส่วนงานหลังบ้าน บริษัทมีระบบหลังบ้านที่ตัวแทนสามารถ จัดการออเดอร์ได้ 24 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่คอยซัพพอร์ต ตอบข้อสงสัยให้กับตัวแทน ประสานการจ่ายเงิน การออกใบเสร็จ ตลอดจนการขนส่งไปถึงหน้างานหรือหน้าบ้านลูกค้า เป็นหน้าที่ของทาง TMAX
ในการทำธุรกิจระหว่างตัวแทนกับบริษัท ตัวแทนสามารถเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำธุรกิจกับบริษัทได้ 100% เพราะก่อนเริ่มธุรกิจ จะมีการเซ็นสัญญาทำข้อตกลงร่วมกันอย่างชัดเจน บริษัทถือว่าตัวแทนเป็นพาร์ทเนอร์ที่ทำธุรกิจร่วมกันไม่ใช่ลูกค้า ค่าใช้จ่ายในการเป็นตัวแทนหรือเริ่มต้นธุรกิจ มีค่าใช้จ่ายจำนวน 50,000 บาท ซึ่งสิ่งที่ตัวแทนจะได้รับคือ แท็ปเลต 1 เครื่อง(ลงโปรแกรมและลงระบบจัดการออเดอร์ไว้ให้เรียบร้อย) สิทธิ์ในการประกอบธุรกิจหรือใช้ตรา หรือเครื่องหมายการค้า / บริการ ของบริษัทฯ
สิทธิการเป็นเจ้าของเพจ มิสเตอร์ที ฮาร์ดแวร์ ออนไลน์ แพลตฟอร์มที่บริษัทฯ สร้างให้ สิทธิการเข้าถึงระบบการจัดการออเดอร์ ความรู้ (Know How) ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ ความรู้การทำการตลาดออนไลน์ พร้อมกับ Content พื้นฐานและรูปภาพที่จะนำไปโพสต์ นอกจากนี้ยังมีการอบรม และคลิปการอบรมความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ ความรู้เรื่องสินค้า ที่ตัวแทนสามารถเข้าไปเรียนรู้และดูย้อนหลังได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดอายุของการเป็นตัวแทน
สำหรับส่วนแบ่งรายได้อยู่ที่ 8% ของยอดขายที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่รวมค่าจัดส่ง ทาง TMAX เชื่อมั่นว่ารายได้ขั้นต่ำที่ทางตัวแทนค้าออนไลน์จะได้รับตกอยู่ประมาณ 5,000-8,000 บาทต่อเดือน หรือมียอดขายประมาณ 70,000-80,000 บาท และหากขายได้ 500,000 บาทต่อเดือนจะมีรายได้ 45,000 บาท ทางบริษัทจะเพิ่มโบนัสอีก 15,000 บาท คาดว่าประมาณ 3 เดือนจะคุ้มทุน
การขายผ่านตัวแทนออนไลน์ไม่มีการแบ่งเขตการขาย ตัวแทนสามารถขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้ทั่วประเทศรวมถึงทั่วโลก โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อคือ กลุ่มคนทั่วไปและกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคุ้นเคยซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ พ่อบ้าน แม่บ้านที่ต้องการซ่อมบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ผู้รับเหมารายเล็ก ช่าง เกษตรกร เป็นต้น ตั้งเป้าว่าในไตรมาสสุดท้ายจะรับตัวแทนขายออนไลน์ประมาณ 100 ราย ส่วนจำนวนที่ต้องการทั้งหมดไม่เกิน 200 ราย
ทางด้านการสนับสนุนงานหลังบ้าน ทางบริษัทได้ลงทุนเกี่ยวกับการเชื่อมโยงคำสั่งซื้อทางออนไลน์ไปยังสาขาขายต่าง ๆ ระบบบัญชี ระบบประสานงานด้านโลจิสติกส์ โดยกระบวนงานต่าง ๆ ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการของ ERP SAP-B1 ด้านกำลังคนหลังบ้านมีเจ้าหน้าที่แอดมิน 10 คน วิศวกรอีก 5 คนช่วยงานสนับสนุน
มีการขยายช่องทางขายอื่นอีกหรือไม่
ทาง TMAX มีแผนการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์มาแล้ว 2 ปี คาดว่าจะสามารถเปิดรับสมัครแฟรนไชส์ซีได้ในกลางปี 2565 ซึ่งขณะนี้มีโมเดลคร่าว ๆ ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีกิจการเป็นของตัวเอง มีเงินทุน มีวิสัยทัศน์ และพร้อมที่จะลงมาบริหาร เปิดเป็นร้านฮาร์ดแวร์ ป้อนความต้องการของคนในชุมชน งบการลงทุนระหว่าง 2.5-3.5 ล้านบาท มีขนาดของร้านฮาร์ดแวร์หลายรูปแบบคือ
1) ขนาด 1 คูหาหรือพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร
2) ขนาด 2 คูหาหรือ 40 ตารางเมตร
3) ลักษณะเหมือนโกดัง ขนาดพื้นที่ 150 ตารางเมตร
สิ่งที่แฟรนไฃส์ซีจะได้รับคือสต๊อกสินค้าในร้าน ระบบการบริหารในร้านตั้งแต่หน้าร้าน หลังร้าน นอกจากนี้ยังมีสิทธิการขายทั้งหน้าร้าน และขายบนออนไลน์ ในช่องทางการขายแฟรนไชส์ บริษัทกำหนดชัดเจนจะต้องมีเซลล์หรือพนักงานขายออกตลาดด้วย ส่วนนโยบายจากส่วนกลางจะเน้นความช่วยเหลือด้านการอบรม และยึดนโยบายการขายราคาเดียวทุกช่องทาง คาดการณ์ว่าภายใน 5 ปีสามารถคืนทุนได้ ส่วนระยะเวลาการทำสัญญายังไม่ชัดเจน ต้องขอตกผลึกเงื่อนไขส่วนอื่น ๆ ก่อน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ระบุว่า ประเมินทิศทางตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 ฟื้นตัวได้ดีทั้งนี้เนื่องจากภาครัฐทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง ทั้งการเปิดโมเดิร์นเทรด และห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง หนุนกิจกรรมการก่อสร้างเริ่มเดินหน้า ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและบรรยากาศการซื้อสินค้ามีความคึกคักมากขึ้น รวมไปถึง การปรับปรุงที่อยู่อาศัยจากสถานการณ์น้ำท่วม ตลอดจนความมั่นใจของกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ ๆ รองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่และเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการรถไฟฟ้าและการก่อสร้างทางพิเศษสายใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง ส่งผลดีต่อความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit