บมจ. ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) ตอกย้ำศักยภาพการเติบโต งวด 9 เดือนแรก โชว์กำไรแตะ 52 ล้านบาท รายได้รวม 873 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน ชี้อานิสงส์การฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจโตโดดเด่น ทั้ง ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ โตเพิ่มขึ้น 29% ธุรกิจอสังหาฯ โต 87 % ธุรกิจลีสซิ่ง โต 45% พร้อมรับปันผลจาก 2 บริษัทย่อยเข้ากระเป๋า 108.92 ล้านบาท จ่อบุ๊กเป็นกำไรในไตรมาส4/64นี้ ด้าน CEO AIRA Group " นลินี งามเศรษฐมาศ " เร่งสยายปีกต่อยอดธุรกิจการลงทุน เตรียมเสิร์ฟข่าวดีส่งท้ายปี จ่อปิดดีล 2 โปรเจ็กต์ยักษ์ (ซื้อโครงการอสังหาฯ และ ดีลร่วมลงทุนกับพันธมิตรแดนปลาดิบ เพิ่ม) ตอกความเชื่อมั่นการเป็นผู้นำธุรกิจ Non-Bank ครบวงจร ภายใต้การให้บริการทางการเงินแบบ One stop service ทุกมิติการลงทุน
บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวด 9 เดือนแรกของปี 2564 เติบโตอย่างโดดเด่น แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบสอง แต่ AIRA กลับมีผลการดำเนินงานเชิงบวก โดยมีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 74.74 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 873 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นเนื่องจาก การรับรู้รายได้จากค่านายหน้าจากธุรกิจหลักทรัพย์ ที่มีสัดส่วนรายได้ 405 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการซื้อขายของลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการรับรู้รายได้จากการให้เช่าและบริการ จำนวน 144 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่าจากสัญญาเช่าดำเนินงานของธุรกิจลีสซิ่ง 48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และรายได้ค่าเช่าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริทรัพย์ 96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 87 จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากอาคารสำนักงานให้เช่าที่ดำเนินการในนาม บจก.แอสไพเรชั่น วัน ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการให้เช่าพื้นที่ได้ตั้งแต่ปี 2563 โดยมีอัตราการเช่าที่เพิ่มขึ้นตามแผนงานที่วางไว้
อีกทั้งยังรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ และรายได้ดอกเบี้ยรับทั้งสิ้น 167 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากธุรกิจแฟคตอริ่ง ซึ่งลดลงร้อยละ 15 เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดปริมาณการรับซื้อลูกหนี้ลดลง สาเหตุจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบสอง ซึ่งส่งผลกระทบทำให้เกิดการชะลอตัวลงของภาคอุตสาหกรรม แต่บริษัทยังสามารถทำกำไรและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ตามประมาณการที่วางไว้
นอกจากนี้ บริษัทฯยังรับรู้รายได้ของบริษัทร่วมทุนในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 1,225 ล้านบาท หลังหักค่าใช้จ่ายดำเนินงานแล้วคงส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 46 ล้านบาท ซึ่ง AIRA รับรายได้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจดังกล่าวตามสัดส่วนเงินลงทุนที่ 30% หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 14 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวโดยตรงทำให้มีผลขาดทุนเล็กน้อย
นางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 ว่า จากการประเมินภาพรวมในเบื้องต้น บริษัทฯมีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบจากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯมีการบันทึกกำไรจากเงินปันผลของบริษัทย่อย 2 บริษัท ที่ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ประจำปี 2564 เป็นเงินรวม จำนวน 108.92 ล้านบาท จากบริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) ที่จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ0.025 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 28.62 ล้านบาท และบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.073 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 80.30 ล้านบาท โดยเงินปันผลดังกล่าวจะบันทึกรับรู้เป็นกำไรเข้ามาในไตรมาส4/2564 นี้
ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายปีนี้ บริษัทฯ เตรียมปิดดีลการลงทุนเพิ่มอย่างน้อย 2 ดีล ทั้ง ดีลการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ประเภทสำนักงานเพิ่ม 1 แห่ง มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อบริหารจัดการเป็นสำนักงานให้เช่า โดยคาดหวังในการสร้างมูลค่าเพิ่มรายได้ในระยะยาว ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามแผนที่จะมีการผลักดันการนำทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ในลำดับถัดไป รวมทั้งเตรียมปิดดีลกรณีการดึงพันธมิตรต่างชาติ จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนเพิ่ม ภายใต้กลุ่มธุรกิจในเครือAIRA ซึ่งจากแผนกลยุทธ์การขยายการลงทุนของบริษัทฯเป็นการตอกย้ำในการยกระดับการให้บริการทางการเงินแบบ One Stop Service ครบวงจรทุกมิติของการลงทุน สู่เป้าหมายในการเป็นผู้นำธุรกิจ Non-Bank ชั้นนำของประเทศ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit