นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร มีนโยบายในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาพื้นที่การเกษตรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งบริการด้านท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการเรียนรู้ด้านการเกษตร วิถีชีวิตของชุมชนเกษตร และเลือกซื้อสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยโดยตรงจากเกษตรกร ซึ่งเป็นการสร้างงานและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรหลายแห่งที่ได้รับการพัฒนาให้มีมาตรฐานทั้งที่พัก อาหาร และการเดินทาง โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 กรมส่งเสริมการเกษตร ขอเชิญชวนประชาชนมาเยี่ยมเยือนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรทั่วไทย ภายใต้แนวคิด "เที่ยวเกษตร วิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม"
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า สำหรับตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรดังกล่าว เมื่อพิจารณาจากจุดเริ่มต้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 เส้นทาง ประกอบด้วย 1) เส้นทางขึ้นเหนือ ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ วิสาหกิจชุมชนพอเพียงก็เพียงพอ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้การปลูกผัก และอุดหนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นของที่ระลึก และ จังหวัดพิจิตร วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถีชุมชนคนเนินปอ มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม และพุทธสถานตั้งอยู่ใกล้เคียง ที่จุดนี้นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้การทำเกษตรผสมผสาน อุดหนุนของที่ระลึกผ้าทอชุมชน ผลไม้เมืองหนาว และสินค้าเกษตรแปรรูป
2) เส้นทางสายอีสาน ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์เพชรจินดา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เหมาะกับผู้ที่ชอบด้านโบราณคดี เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวแหล่งขุดค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ มีจุดบริการกางเต็นท์ และจำหน่ายสินค้าเกษตรทั้งผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม รวมทั้งผ้าไหมแพรและผ้าย้อมครามของขึ้นชื่อของเมืองกาฬสินธุ์ และจังหวัดนครราชสีมา วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรอำเภอวังน้ำเขียว แหล่งสูดโอโซนระดับโลก มีบริการครบรูปแบบโดยกลุ่มเกษตรกร ทั้งโรงแรมที่พักและโฮมสเตย์ มีสินค้าเกษตรทั้งสดและแปรรูปหลากหลายชนิดมากมาย
3) เส้นทางล่องใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลคลองน้อย นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือสัมผัสวิถีชุมชนริมสองฝั่งคลอง และอุดหนุนของที่ระลึกสินค้าเกษตรแปรรูปหลากหลายชนิด ทั้งกับข้าวอาหารคาว แกงไตปลา และขนมหวาน ไอศกรีมผลไม้ และจังหวัดเพชรบุรี วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพเกลือทะเลกังหันทอง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเกลือสปา มีบริการนวดผ่อนคลายวิถีสโลว์ไลฟ์ พร้อมจำหน่ายที่ระลึกสินค้าแปรรูปจากเกลือทะเลไทยทั้งเกลือสำหรับบริโภคและเกลือสปาฝีมือเกษตรกรตัวจริง
4) แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรใกล้กรุงเทพฯ ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วิสาหกิจชุมชนโฮมสเตย์คลองรางจระเข้ มาที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือชมวิถีชีวิตของผู้คนริมสองฝั่งคลอง ช๊อปสินค้าเกษตรพืชผักปลอดภัย และสินค้าหัตถกรรมจักรสานของชุมชน จังหวัดสุพรรณบุรี วิสาหกิจชุมชนกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงเกษตรสร้างสรรค์สมหวังที่วังยาง เกษตรกรจะพานักท่องเที่ยวนั่งรถอีแต๋นชมทุ่งเกษตรนาข้าว นอนโฮมสเตย์สัมผัสวิธีชุมชน และซื้อของที่ระลึกสินค้าเกษตรแปรรูปนานาชนิดติดไม้ติดมือกลับบ้าน และจังหวัดชัยนาท วิสาหกิจชุมชนริเช่ฟาร์ม โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปจะได้สนุกกับกิจกรรมผจญภัยในพื้นที่เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) ขับ jet ski ขี่ banana boat ขับรถ ATV และได้ช่วยอุดหนุนของที่ระลึกสินค้าเกษตรทั้งผักและผลไม้ปลอดสารพิษอีกด้วย
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ขอเชิญชวนผู้สนใจเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร "เที่ยวเกษตร วิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม" ติดตามชมคลิปบรรยากาศของแหล่งท่องเที่ยวได้ทางช่อง YouTube "กรมส่งเสริมการเกษตร" และสามารถหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ Application "ท่องเที่ยวเชิงเกษตร" ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขอแนะนำให้ที่ผู้สนใจเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โทรติดต่อแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
HTML::image(