คัตสึยะ (KATSUYA) หนึ่งในผู้นำตลาดทงคัตสึยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น รสชาติแท้ เจแปนนิส สไตล์ บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ก้าวสู่ปีที่ 7 ในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าธุรกิจมุ่งสร้างการเติบโต รุกเดลิเวอรี่เต็มพิกัด เร่งขยายสาขาฝ่าวิกฤตโควิดในปีนี้ (2021) ตั้งเป้าเปิด 12 สาขา พร้อมจับมือพันธมิตรร่วมกันขยายช่องทางขายใหม่ มั่นใจเติบโต 30-40 %
เด่นชัย เพชรชมรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจอาหารญี่ปุ่น บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แบรนด์คัตสึยะตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดทงคัตสึอันดับ 1 ที่ลูกค้านึกถึง ด้วยกลยุทธ์มุ่งเน้นถึงความคุ้มค่าของอาหารกับเงินที่ลูกค้าจ่าย (value for money) เป็นสำคัญ จัดเสิร์ฟทงคัตสึรสเลิศในความอร่อยแบบดั้งเดิม ด้วยวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม สดใหม่ ทุกชิ้น กับเนื้อหมูคุณภาพดี ผ่านกระบวนการ Tenderizer ทำให้หมูนุ่มละมุนลิ้น และเทคนิคการทอดในแบบเฉพาะตัว ทำให้ทุกเมนูที่เสิร์ฟ มอบประสบการณ์การทานทงคัตสึที่อร่อยไม่เหมือนใคร จึงได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทงคัตสึเป็นอย่างดีเสมอมา รวมถึงการรุกขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เน้นโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของคัตสึยะ และพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ทุก 2 เดือน ทั้งเมนูที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น และเมนูที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทย แต่ยังคอนเซ็ปต์ความเป็นทงคัตสึต้นตำรับจากญี่ปุ่น ทำให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเมนูใหม่ ๆ จากคัตสึยะได้แบบไม่มีเบื่อ
ภาพรวมของแบรนด์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยรวมการเติบโตยังคงมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าในส่วนของหน้าร้านจะได้รับผลกระทบจากการปิดศูนย์การค้า แบรนด์จึงปรับแผนมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ พร้อมทั้งพัฒนาเมนูทุกเมนูที่จัดส่งถึงลูกค้า ให้ยังคงมีคุณภาพดี อร่อย และคุ้มค่า ไม่ต่างกับที่ลูกค้ามาทานที่ร้าน ส่งผลให้แบรนด์มีการเติบโตในส่วนของตลาดเดลิเวอรี่เป็นอย่างมาก และเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 50% ของยอดขายรวมทั้งหมดของคัตสึยะ
โดยในปีที่ผ่านมา (63) มีการเติบโตกว่า 60% สูงเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นของกลุ่มซีอาร์จี และคาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30-40%
สำหรับแผนงานในปี 2564 แบรนด์ตั้งธงลุยในช่องทางเดลิเวอรี่แบบเต็มพิกัด ขยายไปยังทุกแพลตฟอร์ม เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้ง Grabfood, Line Man, Food Panda, Gojek, True Food, Robinhood รวมถึงแพลตฟอร์มของ ซีอาร์จี Food hunt 1312 นำเสนอเมนูพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะในช่องทางเดลิเวอรี่ และโปรโมชั่นสุดคุ้มที่เน้นให้ความสำคัญถึงแม้ไม่ได้มาทานที่ร้าน แต่ความคุ้มค่า ราคา รสชาติ ไม่ต่างกับการมาทานที่ร้านคัตสึยะ
ในขณะเดียวกัน ยังจับมือกับแบรนด์ในเครือ ลุยกลยุทธ์ Cross Sale เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ ๆ และตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนมากขึ้น อาทิ ร่วม Collaboration กับแบรนด์ บราวน์ ทั้งในส่วนของการทำโปรโมชั่นพิเศษ และนำเมนูซิกเนเจอร์อย่างชานมไข่มุก จำหน่ายที่คัตสึยะทั้งในแบบทานที่ร้าน, ซื้อกลับ (Take away) และ เดลิเวอรี่ นอกจากนี้ ยังมีแผนนำเมนูพิเศษของแบรนด์ไปจำหน่ายที่ร้าน มิสเตอร์ โดนัท ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้อีกด้วย
ส่วนแผนการขยายสาขา เน้นกลยุทธ์การขยายสาขาโมเดลใหม่ที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้า ไปยังโลเคชั่นใหม่ ๆ รวมถึงขยายไปยังจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ ที่มีกลุ่มลูกค้าของคัตสึยะอยู่ เช่น ขอนแก่น, อุดรธานี เป็นต้น และเน้นการเปิดสาขาในรูปแบบที่เอื้อต่อรูปแบบเดลิเวอรี่ อาทิ ไฮบริด คลาวด์ คิทเช่น (Hybrid Cloud Kitchen) และ คลาวด์ คิทเช่น (Cloud Kitchen) โดยความแตกต่างของร้านในแต่ละรูปแบบ จะอยู่ที่ขนาดร้าน จำนวนที่นั่งในร้าน รูปแบบการบริการ รวมไปจนถึงเมนูอาหาร ซึ่งปัจจุบันร้านคัตสึยะมีจำนวนสาขาทั้งหมด 42 สาขา แบ่งเป็นร้านแบบ Full Shop จำนวน 37 สาขา, แบบ ไฮบริด คลาวด์ คิทเช่น จำนวน 4 สาขา และ แบบ คลาวด์ คิทเช่นจำนวน 1 สาขา โดยมีแผนการที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมในปีนี้ทั้งหมด 12 สาขา รวมสิ้นปีนี้จะมี 54 สาขา
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit