บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก สานต่อความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน โดยเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ลงทุนในบัญชีเงินฝากสีเขียว (Green Deposit) ของธนาคารเอชเอสบีซีซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ เพื่อสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG (Environmental, Social and Governance) อันจะเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม
ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย จะนำเงินจากบัญชีเงินฝากสีเขียวไปลงทุนสนับสนุนธุรกิจและโครงการต่างๆ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แก้ปัญหาภาวะโลกร้อน และส่งเสริมเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ตามเกณฑ์ที่กำหนด อาทิ โครงการพลังงานทดแทน การสร้างอาคารสีเขียว โครงการการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน รวมถึงโครงการอื่นๆ ขององค์กรภาคธุรกิจที่จะช่วยลดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
นายซันเจย์ อาฮูจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า "บัญชีเงินฝากสีเขียวเป็นอีกก้าวสำคัญของวาระด้านความยั่งยืนของอินโดรามา เวนเจอร์ส ด้วยบริษัทฯ ต้องการมีบทบาทมากขึ้นในการสนับสนุนความมุ่งมั่นของประชาคมโลกที่กำลังมุ่งสู่เป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์"
นายกฤษฎา แพทย์เจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนสนับสนุนอินโดรามา เวนเจอร์สในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน และเราจะสานต่อความร่วมมือดีๆ เช่นนี้
เพื่อทำให้ความมุ่งมั่นในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม"
ทั้งนี้ ความมุ่งมั่นของไอวีแอลด้านความยั่งยืนได้รับการยอมรับระดับโลก โดยในปี 2563 บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันด้วยคะแนนการประเมินด้าน ESG ที่พัฒนาขึ้นจากเดิม นอกจากนี้ ไอวีแอลยังได้รับสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (sustainability-linked loan) และสินเชื่อสีน้ำเงิน (Blue Loan) เป็นรายแรกในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายกำลังการรีไซเคิลของบริษัทฯ การลงทุนในการใช้พลังงานทดแทน และโครงการพัฒนาการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผล
ไอวีแอลยังได้ตั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนและความเป็นกลางทางคาร์บอนที่ท้าทาย อาทิ การเพิ่มกำลังการรีไซเคิลเป็น 750,000 ตันต่อปีภายในปี 2568 การลดอัตราการใช้พลังงาน 5% ภายในปี 2568 การลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
10% ภายในปี 2568 และการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน 25% ภายในปี 2573 โดยบริษัทฯ กำลังลงทุน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการที่มีวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้