ทำลายการผูกขาด A.I. ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้วยระบบนิเวศนักพัฒนา Multiverse(TM)

"ปัญญาประดิษฐ์การเรียนรู้ของเครื่อง (A.I./ML) จะกลายเป็นพลังทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในสังคม โดยจำเป็นต้องอยู่ในลักษณะกระจายศูนย์เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมได้มากขึ้น แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครประสบความสำเร็จ" Cliff Szu ผู้ร่วมก่อตั้ง Multiverse Labs ซึ่งเป็นทีมที่มีฐานอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์และสิงคโปร์ที่ทำหน้าที่พัฒนา Multiverse กล่าว

"A.I./ML ถูกควบคุมโดยบริษัทและสถาบันชั้นนำเพียงไม่กี่แห่ง ทีมเทคโนโลยีของเราเคยมีตำแหน่งอาวุโสที่บริษัทต่าง ๆ เช่น Google และมีความรู้โดยตรงในเรื่องว่าช่องว่างเทคโนโลยีที่ว่านี้ขยายตัวเร็วเพียงใด A.I. จำเป็นต้องอยู่ในลักษณะกระจายศูนย์และพร้อมให้ผู้คนใช้มากขึ้น"

"คน 99.9% เขียนโค้ด A.I./ML ไม่เป็น ผู้คนจำนวนมากมีความคิดดี ๆ เกี่ยวกับว่า A.I. จะช่วยชุมชนของตัวเองอย่างเสมอภาคได้อย่างไร แต่ข้อจำกัดทางเทคนิคและการขาดแคลนเงินทุนทำให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายของตัวเองไม่ได้ นั่นคือสาเหตุที่เราสร้าง Multiverse เพื่อช่วยให้เริ่มต้นโปรเจกต์ของตนเองได้ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดหรือระดมทุนครั้งใหญ่"

"แต่ละโปรเจกต์มีผลิตภัณฑ์ โทเคน ตลาดการซื้อขายแบบกระจายศูนย์ (DEX) เศรษฐกิจ และรูปแบบการกำกับดูแลของตนเอง เบื้องต้นกำหนดโดยผู้ก่อตั้งโดยไม่ต้องใช้โค้ด"

"เราเรียกโปรเจกต์เหล่านี้ว่า 'โลก' (planet) ดี ๆ นี่เอง เพราะมีการออกแบบและการจัดการในลักษณะปกครองและควบคุมเอง เราไม่ได้ตั้งกฎ สิทธิคนงาน หรือเศรษฐกิจใด ๆ บนโปรเจกต์โลกเหล่านี้ แต่ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์เป็นคนทำ และกฎเหล่านี้จะโปร่งใสต่อทุกคน"

"ตลาดการซื้อขายแบบกระจายศูนย์ของแต่ละโปรเจกต์จะให้ชุมชน stake เหรียญ Multiverse และได้รับโทเคนของโปรเจกต์ตอบแทนในสัดส่วนที่เหมาะสม ผู้ทำ stake นั้นไม่ใช่นักลงทุนหรือหุ้นส่วน ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ไม่สามารถใช้เหรียญของคุณได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณ stake เหรียญ อัตราแลกเปลี่ยนของโปรเจกต์ก็จะเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ ถ้าคุณเปลี่ยนใจ คุณสามารถยกเลิก stake และได้เหรียญกลับคืนได้เสมอ โดยสัดส่วนที่ได้จะกำหนดโดยอัตราแลกเปลี่ยนของ DEX ในตอนนั้น ผู้ก่อตั้งมีการควบคุมที่เข้มงวดต่อการยกเลิก stake การใช้จ่าย และให้สิทธิ์ดำเนินการของพวกเขา ทุกอย่างต้องโปร่งใสและเขียนฮาร์ดโค้ดลงในสัญญาอัจฉริยะของโปรเจกต์ เพื่อให้สามารถทำการตัดสินใจได้ เรากำลังลดอุปสรรคในการเข้าถึง พร้อมยกระดับมาตรฐานคุณภาพโปรเจกต์ในคราวเดียวกัน"

"การ stake เป็นเพียงวิธีหนึ่งในการเข้าร่วม คุณเสนอคำแนะนำและความเห็นแก่ผู้ก่อตั้งได้ เป็นอาสาสมัครในโปรเจกต์การกุศลได้ หรือจะเริ่มโปรเจกต์ของตนเองก็ได้"

โปรเจกต์ต่าง ๆ เป็นแบบแยกส่วน และอนุญาตให้ผู้ก่อตั้งใช้ประโยชน์จากโปรเจกต์ Multiverse อื่น ๆ ได้ (เช่น พื้นที่จัดเก็บแบบกระจาย การฝึกอบรมแบบจำลอง A.I. และโปรเจกต์แหล่งข้อมูล) และสร้างแอปพลิเคชัน AI/ML ระดับสูงขึ้นมา โดยแทบไม่ต้องเสียแรงและเวลาคิดใหม่ตั้งแต่ต้น Multiverse ไม่เหมือนกับแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้ว เพราะประสิทธิภาพเครือข่ายและแพลตฟอร์มแบบเปิดของ Multiverse กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือกัน และเร่งการพัฒนาและการให้ประโยชน์ซึ่งกันและกันของโปรเจกต์

โปรเจกต์ Multiverse ได้ให้บริการลูกค้าจากกลุ่มบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกและแก่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ Multiverse สร้างบนเทคโนโลยีบล็อกเชนแบบคู่ขนาน Proof-of-Stake ที่มีประสิทธิภาพสูงและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยช่วยให้ทุกคนสร้างหรือสนับสนุนโปรเจกต์ A.I. ได้ Multiverse ได้รับการสนับสนุนจาก Matrix Partners, Huobi Ventures, KuCoin, Arrington XRP และ Fenbushi Capital

เกี่ยวกับ Multiverse(TM)

Multiverse(TM) เป็นระบบนิเวศ A.I. แบบกระจายศูนย์ ช่วยให้ชุมชนระดมทุน ฝึกอบรม และใช้งานแอปพลิเคชันการเรียนรู้ของเครื่อง (planet) ได้อย่างง่ายดาย ด้วยโทเคนและระบบเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์ของตนเอง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Multiverse ได้ที่ https://multiverselabs.com/

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1513578/1.jpg
คำบรรยายภาพ - โลโก้ Multiverse

• ข่าวยักษ์
• ข่าวการเรียนรู้
• ข่าวปัญญาประดิษฐ์
• ข่าวประดิษฐ์
• ข่าวปัญญา
• ข่าว Multiverse
• ข่าวนักพัฒนา
• ข่าวยักษ์ใหญ่