นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์โรค เมลิออยโดสิส ในเขตสุขภาพที่ 12 ข้อมูลจาก รง.506 กองระบาดวิทยา ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2564 พบผู้ป่วยโรคเมลิออยโดสิส จำนวนทั้งสิ้น 12 ราย เสียชีวิต 1 ราย (จังหวัดสงขลา) สูงสุดในจังหวัดพัทลุง จำนวน 7 ราย, จังหวัดสงขลา จำนวน 4 ราย และจังหวัดปัตตานี จำนวน 1 ราย พบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยพบเพศชาย 8 ราย เพศหญิง 4 ราย กลุ่มอายุ ที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 55 - 64 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 65 ปี ขึ้นไป และกลุ่มอายุ 25 - 34 ปี อาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ อาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 50 รองลงมาคือ อาชีพงานบ้าน และอาชีพรับจ้าง ร้อยละ 16.67 และ จากการสำรวจข้อมูลความรู้และพฤติกรรมของผู้ป่วยคลินิกโรคเบาหวานของโรงพยาบาลในจังหวัดสงขลา (6 โรงพยาบาล) จำนวน 144 คน ช่วงเดือนธันวาคม 2563 พบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกคนที่ตอบแบบสำรวจ ไม่เคยได้ยินชื่อโรคเมลิออยโดสิส และไม่รับรู้ถึงโอกาสเสี่ยง ความรุนแรงของโรคเมลิออยโดสิส เช่น ร้อยละ 90.28 ไม่ทราบว่าโรคเมลิออยโดสิส ถ้าป่วยทำให้เสียชีวิตได้, ร้อยละ 77.78 ไม่ทราบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาการของโรคมีความรุนแรงกว่าคนปกติ ส่วนด้านการปฏิบัติตัว พบว่ามีการปฏิบัติตัวถูกต้องค่อนข้างต่ำ เช่น ขณะทำงานหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดิน ไม่สวมถุงมือ ร้อยละ 43.75, ไม่ใช้ผ้าปิดจมูก ขณะทำงานหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดิน ร้อยละ 47.22
สคร.12 สงขลา ขอแนะนำวิธีการป้องกันโรคเมลิออยโดสิส ได้แก่ 1.ผู้ที่มีบาดแผลให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือสัมผัสดินและน้ำโดยตรง หากจำเป็นขอให้สวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาวหรือชุดลุยน้ำและรีบทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำสะอาดและสบู่ 2.หากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทำความสะอาดด้วยยาฆ่าเชื้อ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำจนกว่าแผลจะแห้งสนิท 3.ทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำต้มสุก 4.หลีกเลี่ยงการสัมผัสลมฝุ่น และการอยู่ท่ามกลางสายฝน หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 ?
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit