แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของครอบครัวเดี่ยวและการอาศัยอยู่คนเดียวที่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ของไทย ในปี 2565 ทำให้อัตราประชากรพึ่งพิงจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแล หรือผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้แต่ต้องอาศัยเครื่องมือ/อุปกรณ์ที่จำเป็นและช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันรักษาเบื้องต้นและอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุในไทย จึงมีโอกาสเติบโตตามความต้องการบริการสุขภาพและการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี ตลาดก็ยังมีข้อจำกัดทั้งทางด้านกำลังซื้อและการพัฒนารูปแบบสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้สูงอายุมากยิ่งขึ้น โดยมีประเด็นโอกาสและความท้าทายของธุรกิจ ดังนี้
โดยตลาดอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุที่จะได้รับอานิสงส์จากความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันรักษาเบื้องต้น เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด เครื่องวัดออกซิเจน เครื่องดูดเสมหะ เป็นต้น และ 2) อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย เช่น เตียง รถเข็น ราวจับช่วยพยุง พื้นกันลื่นลดแรงกระแทก ทางลาด ลิฟท์ยกรถเข็น และอุปกรณ์ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์เซนเซอร์แจ้งเตือนการหกล้ม เป็นต้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า มูลค่าการใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุในไทย ปี 2564 จะอยู่ที่ 8,000 - 9,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8-10% ของตลาดอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ทั้งหมดของไทย โดยสัดส่วนมูลค่าตลาดส่วนใหญ่ยังเป็นเม็ดเงินในภาคธุรกิจ (B2B) เป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเฉพาะหน้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ผู้สูงอายุบางส่วนต้องพักรักษาตัวที่บ้าน เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้ตามปกติ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อจึงมีความต้องการอุปกรณ์เพิ่มขึ้นในระยะนี้ด้วย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในระยะ 5 ปีข้างหน้า มูลค่าการใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์เพื่อผู้สูงอายุน่าจะเติบโตได้เฉลี่ย 7.8% ต่อปี และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยจะเป็นกลุ่มอุปกรณ์ที่น่าจะเติบโตได้มากกว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันรักษาเบื้องต้น โดยเฉพาะการเติบโตตามการเพิ่มขึ้นของธุรกิจสถานดูแลผู้สูงอายุและที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุ ทำให้มีความต้องการติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวก ซึ่งจะตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อได้
ทั้งนี้ กลุ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่น่าสนใจ ได้แก่ อุปกรณ์ช่วยเคลื่อนที่ที่มีระบบอำนวยความสะดวกมากขึ้น โดยสินค้าในกลุ่มนี้จัดเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งผู้ผลิตในประเทศส่วนใหญ่ยังผลิตอุปกรณ์พื้นฐานและยังมีความซับซ้อนของเทคโนโลยีไม่มากนัก เช่น รถเข็นและเตียงธรรมดา ส่วนอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นอาจยังต้องพึ่งพาการนำเข้าหรือนำเข้าบางชิ้นส่วนเข้ามาประกอบในประเทศ ซึ่งเป็นโจทย์ท้าทายของผู้ผลิตในประเทศที่ต้องยกระดับการผลิต เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อที่มองหาอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น อย่างรถเข็นไฟฟ้าที่สามารถปรับยืนหรือช่วยพยุงการลุกขึ้นของผู้สูงอายุ รวมถึงเตียงไฟฟ้าปรับระดับความสูง ท่านั่งท่านอน และมีกลไกช่วยพลิกตัว
ในขณะเดียวกันอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ช่วยเหลือเพื่อติดตั้งในที่อยู่อาศัยก็น่าจะเติบโตได้ เพื่อตอบโจทย์การปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมและช่วยสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้สูงอายุ เช่น ราวจับช่วยพยุง ทางลาดกันลื่น พื้นลดแรงกระแทกในที่อยู่อาศัย ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการในธุรกิจการแพทย์ สุขภาพ และธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่เข้าสู่ตลาดสินค้าอุปกรณ์เพื่อผู้สูงอายุมากขึ้น รวมไปถึงอุปกรณ์ติดตามตัวผู้สูงอายุเพื่อแจ้งเตือนและขอความช่วยเหลือฉุกเฉินที่เชื่อมต่อกับผู้ดูแลหรือศูนย์ช่วยเหลือได้ทันที ในรูปแบบอุปกรณ์สำหรับติดตั้งตามพื้นที่ต่างๆ ในบ้าน และ Smart IoT Devices อย่างสมาร์ทวอช เซนเซอร์ติดตามตัว ก็เป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีการพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุได้ทันท่วงที ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
ปรับปรุงพื้นที่มากนัก สามารถใช้งานร่วมกันได้ทุกวัย ส่วนกลุ่มสินค้ารถเข็นไฟฟ้า เตียงไฟฟ้า อาจมีระยะเวลารับประกันที่ยาวขึ้น หรือสามารถซื้อประกันเพิ่มเติมสำหรับการขยายระยะเวลารับบริการหลังการขาย เพื่อลดความกังวลด้านค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุลง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit