นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเห็นโอกาสจากการลงทุนในสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจกำลังเติบโต จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้น ยูเอส เอ็นดีคิว (SCB US Equity NDQ Fund : SCBNDQ) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวที่ต้องการกระจายการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี NASDAQ เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 20 - 26 สิงหาคม นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยเปิดให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) ชนิดสะสมมูลค่า - SCBNDQ(A) สามารถซื้อได้ในทุกช่องทางรวมถึงผู้สนับสนุนการขายทุกราย ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อเฉพาะช่วงเสนอขายครั้งแรก และ 2) ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ - SCBNDQ(E) ในรูปแบบ e-class ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการจัดการ โดยต้องลงทุนผ่าน SCBAM Fund Click เท่านั้น
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า สหรัฐฯ นับว่าเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกและมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 โดยจากภาพรวมเศรษฐกิจของที่มีการฟื้นตัวหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายวันในประเทศลดลงและมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนสูงขึ้น ประกอบกับนาย โจ ไบเดน ได้ลงนามและบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ได้รับเงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่รัฐบาลมีการเตรียมเพิ่มเงินอัดฉีดเป็นจำนวน 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในอนาคต
บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงโอกาสจากปัจจัยเหล่านี้ที่จะเป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนดัชนี NASDAQ ซึ่งก่อนหน้าได้นำเสนอกองทุนดัชนี S&P 500 และดัชนี Dow Jones ไปแล้ว โดยเราเป็นเพียง บลจ.เดียวในประเทศไทยที่มีครอบคลุมทุกดัชนีหลักในสหรัฐฯ เพื่อให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนอย่างหลากหลาย สำหรับดัชนี NASDAQ เป็นดัชนีที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและเติบโตสูงมีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว เน้นการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำที่มีชื่อเสียงและมีผู้ใช้งานทั่วโลก โดยปัจจุบัน NASDAQ มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกด้วยมูลค่า 20 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และให้ผลตอบแทนย้อนหลังสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 13 ก.ค. 2564) ดังนั้น กองทุน SCBNDQ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนจากหุ้นเทคโนโลยีได้" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับกองทุน SCBNDQ เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Invesco NASDAQ 100 ETF (QQQM) (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (ETF) จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐฯ บริหารโดย Invesco Capital Management LLC ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ
ส่วนกองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF (QQQM) จะลงทุนในหุ้นของบริษัททั้งในและนอกประเทศสหรัฐฯ ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุด จำนวน 100 บริษัท และเป็นส่วนประกอบของดัชนี NASDAQ-100 โดยเน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Apple, Microsoft, Amazon, Alphabet, Facebook และ Tesla สูงกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นอื่นของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี NASDAQ-100 นอกจากนี้ กองทุนหลักยังมี Expense ratio ต่ำ และมีผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี Nasdaq 100 อีกด้วย ทั้งนี้ กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังอยู่ที่ 24.35% เทียบกับดัชนีอ้างอิง NASDAQ-100 อยู่ที่ 24.50% ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน (ที่มา: Invesco ณ 31 กรกฎาคม 2564)
ผลการดำเนินงานในอดีต มิใช่สิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือ https://scbam.info/3iTmnXG สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.info/3dEjSFD
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit