บมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ยังคงรับรู้รายได้หลักจากโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมตุนเงินจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ TRITN-W3 เพื่อลงทุนขยายกิจการของกลุ่มบริษัท
นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN ผู้ดำเนินธุรกิจการลงทุนในบริษัทอื่นเป็นหลัก (Holding Company) โดยเน้นการลงทุนในธุรกิจด้านวิศวกรรมเฉพาะทาง (Specialized Engineering) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 294.34 ล้านบาท ลดลง 5.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 เพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านบาท โดยบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 11.75 ล้านบาท
บริษัทมีรายได้ไตรมาส 2/2564 จากธุรกิจก่อสร้าง 241.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 โดยรับรู้รายได้หลักจากกลุ่มงานโครงการก่อสร้างระบบท่อขนส่งน้ำมันภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ลดลง 17.81% เมื่อเทียบกับช่วงกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้บริษัทยังรับรู้รายได้ในธุรกิจพลังงานจากบริษัท ไทรทัน พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เข้าลงทุนในบริษัท อัครวัฒน์ พลังงานพืชหมุนเวียน ในสัดส่วน 75% ขนาดกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 4.9 เมกกะวัตต์ ผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพในไตรมาส2/2564 จำนวน 22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 335% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ก่อนหน้านี้บริษัทได้ขายเงินลงทุนในบริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด(มหาชน) 153.33 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 8.0157% และได้รับเงินจากการใช้สิทธิแปลงสภาพตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบริษัท TRITN-W3 เป็นเงิน 369.80 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้สำหรับการลงทุนขยายกิจการของกลุ่มบริษัทและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการของกลุ่มบริษัท
และเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 บริษัทได้ใช้สิทธิเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด(FPT) 10 ล้านหุ้น เพราะเล็งเห็นโอกาสที่ดีที่จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งในด้านการลงทุน รวมถึงด้านความสัมพันธ์ในทางธุรกิจต่อไปในอนาคตกับ FPT
"ในไตรมาสนี้ เรามีโครงสร้างการเงินที่แข็งแรงมากขึ้นจากการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ์จำนวนประมาณ 370 ล้านบาท เราได้เงินรับจากการขายเงินลงทุนบางส่วนเข้ามาจำนวนประมาณ 122 ล้านบาท เงินบางส่วนเราได้หักชำระหนี้ของกิจการ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนเจ้าของจะอยู่ที่ 0.58 เท่า และถือเงินสดคงเหลือ 823 ล้านบาท ทำให้เราสามารถใช้เงินสดในกิจการพัฒนาโครงการในมือ และมีความพร้อมสำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการเข้าแข่งขันในงานที่มีมูลค่างานมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเราคาดหวังว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดจะเบาลงและจะมีโครงการก่อสร้างใหม่ๆในกลุ่มงานก่อสร้างที่เกี่ยวกับท่อขนส่งน้ำมันและงานรถไฟและระบบอาณัติสัญญานออกมาในตลาดมากขึ้น" นางสาวหลุยส์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit