บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และคณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงทางด้านวิชาการร่วมกันเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อสนับสนุนการจัดการผลิตผักแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อนำมาแปรรูปส่งออก
ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือนี้ คณะเกษตร กำแพงแสน จะสนับสนุนด้านวิชาการและความรู้เรื่องการจัดการผลิตผักแบบเกษตรอินทรีย์และแปรรูปผักเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ส่งออกของ บจ. ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม ขณะที่ บจ. ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรมจะสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาสำหรับการเรียนรู้ด้านการจัดการฟาร์มแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา และเกษตรกรในท้องถิ่น
ระยะเวลา 1 ปีของข้อตกลงนี้ ทางมหาวิทยาลัยจะช่วยไทยยูเนี่ยนในการสร้างฟาร์มต้นแบบสำหรับผลิตผัก เพื่อทดลองรูปแบบของการปลูกผัก ซึ่งหากประสบความสำเร็จ ฟาร์มต้นแบบนี้จะดำเนินการผลิตเต็มกำลังทันที
นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมมือทางด้านวิชาการในรูปแบบอื่นๆ เช่น งานวิจัย การเยี่ยมชมดูงานเพื่อการศึกษาและวิทยากรบรรยาย ตลอดจนการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของทั้งมหาวิทยาลัยและบริษัท ทั้งนี้ มูลนิธิบ้านสุขใจ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสจะได้รับการสนับสนุนผักสดจากโครงการนี้ด้วย
บันทึกข้อตกลงนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ไทยยูเนี่ยนได้ดำเนินการตามความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้คนและชุมชนที่อาศัยและทำงานในพื้นที่ที่เรามีการดำเนินธุรกิจ โดยโครงการนี้จะสนับสนุนเกษตรกรในจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดอื่นๆ เพื่อช่วยพัฒนาฟาร์มของเกษตรกรและสามารถส่งผักให้กับไทยยูเนี่ยนได้ นอกจากนี้ผักจากฟาร์มของบริษัทจะส่งมอบให้กับมูลนิธิบ้านสุขใจด้วย เพื่อนำไปประกอบอาหารให้กับเด็กที่อยู่ในมูลนิธิ
"ความร่วมมือนี้ จะเป็นประโยชน์ไม่เพียงเฉพาะมหาวิทยาลัยและไทยยูเนี่ยนเท่านั้น แต่จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร และชุมชนในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดอื่นๆ รวมถึงมูลนิธิบ้านสุขใจอีกด้วย" รองศาสตราจารย์ ดร. ปภพ สินชยกุล คณบดีคณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กล่าว
นายนคร นิรุตตินานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า "บริษัทยินดีอย่างมากที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่องความรู้และการจัดการผลิตผักแบบเกษตรอินทรีย์ และยังช่วยเราในเรื่องการจัดทำฟาร์มแบบเกษตรอินทรีย์ที่จังหวัดนครสรรค์อีกด้วย สำหรับฟาร์มนี้จะช่วยให้เราได้ผักที่มีคุณภาพและมาตรฐาน อีกทั้งจะช่วยสร้างงานให้กับชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวด้วย"
ความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารประเภทออร์แกนิคในสินค้าของคนและของสัตว์เพิ่มสูงขึ้น ผู้คนหันมาใส่ใจคุณค่าทางโภชนาการในอาหารของตนเองและของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น นายพรชัย ตติยชัยทวีสุข รองประธานบริหารด้านพัฒนาลูกค้า กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยยูเนี่ยน กล่าว "ด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะมอบอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการให้กับชุมชนต่างๆ ทั่วโลก เราจึงมีความริเริ่มที่จะเปลี่ยนประเภทของผักที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงปัจจุบันเป็นผักแบบเกษตรอินทรีย์"