ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ฉลองครบรอบ 25 ปีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการเป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปข้างหน้า
นับตั้งแต่ฟอร์ด ประเทศไทย ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 ฟอร์ดได้ลงทุนและขยายฐานการผลิตในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและตลาดส่งออก ตามแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยานยนต์ของบริษัทผู้ผลิตระดับนานาชาติ
ปัจจุบัน ฟอร์ดเป็นหนึ่งในบริษัทยานยนต์ผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนสะสมรวมกว่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 80,000 ล้านบาท และยังเดินหน้ายกระดับกระบวนการผลิตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการผลิตอันล้ำสมัยและพัฒนาทักษะแรงงานอยู่เสมอ เพื่อรักษามาตรฐานการผลิตในประเทศไทยให้สมกับเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลกของฟอร์ด
"เรามีความภาคภูมิใจในบทบาทของฟอร์ดตลอดระยะเวลา 25 ปี ที่ได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย" นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว "การลงทุนอย่างต่อเนื่องของฟอร์ด ผนวกกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตมาตรฐานระดับโลกและการพัฒนาทักษะของบุคลากรชาวไทย ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เราเป็นฐานการผลิตรถยนต์ระดับโลกอย่างแท้จริง"
ปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ตั้งแต่ฟอร์ดเริ่มก่อตั้งในประเทศไทย โรงงานทั้งสองแห่งของบริษัท ได้แก่ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (เอฟทีเอ็ม) และโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) ทำหน้าที่เป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญ โดยได้ผลิตรถฟอร์ดแล้วกว่า 1,900,000 คัน ทั้งเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังตลาดสำคัญทั่วโลก ปัจจุบัน โรงงานทั้งสองแห่งเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์สองรุ่นหลักของฟอร์ด นั่นคือ รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ยอดนิยม ฟอร์ด เอเวอเรสต์
ทั้งสองโรงงานในจังหวัดระยองมีการจ้างงานรวมกว่า 8,000 ตำแหน่ง อีกทั้งยังส่งเสริมให้มีการจ้างงานในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายอีกกว่า 20,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ โดยฟอร์ดจะยังคงต่อยอดการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับแรงงานไทยอย่างต่อเนื่อง จากการที่ประเทศไทยยังคงทวีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางทางธุรกิจในกลุ่มตลาดนานาชาติของฟอร์ด
สานต่อความสำเร็จของฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์
นับตั้งแต่ฟอร์ดได้เริ่มสายการผลิตรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ และรถยนต์นั่งฟอร์ด เอเวอเรสต์ ในประเทศไทย รถทั้งสองรุ่น ได้ครองตำแหน่งผลิตภัณฑ์เรือธงของฟอร์ดสำหรับทั้งการจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังอีกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
รถฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยสมรรถนะอันเหนือชั้น การใช้งานที่หลากหลาย และรูปลักษณ์ที่แตกต่าง อัดแน่นด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ไม่เคยมีมาก่อนในแต่ละเซ็กเม้นต์
ฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นรถกระบะนิรภัยที่ผลิตในประเทศไทยรุ่นแรกที่มาพร้อมถุงลมนิรภัย คานนิรภัยด้านข้าง และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) อีกทั้งยังเป็นแบรนด์แรกที่นำเสนอรถกระบะตอนครึ่งแบบ 'โอเพ่นแค็บ' ออกสู่ตลาด จนเป็นรูปแบบรถกระบะที่เป็นมาตรฐานและได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย
ฟอร์ด เรนเจอร์ ได้รับการพัฒนาต่อมาอีกหลายรุ่น จนกระทั่งปี พ.ศ. 2554 ที่มีการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ซึ่งนับเป็นอีกครั้งของการบุกเบิกของฟอร์ด ด้วยการนำเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะมากมายมานำเสนอในตลาดรถกระบะ รวมถึงฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ซึ่งนับเป็นรถกระบะที่หรูหราที่สุดในเวลานั้น และได้พลิกโฉมตลาดรถกระบะ จากรถเพื่อการใช้งานสู่การเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวและผจญภัย และในปี พ.ศ. 2561 ฟอร์ดยังสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดรถกระบะของไทยอีกครั้งด้วยการเปิดตัวสุดยอดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
"ฟอร์ด เรนเจอร์ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะในประเทศไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่การผลิตและเปิดตัวครั้งแรกในประเทศ" นายวิชิต กล่าว "เรายังเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของทั้งเรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพื่อมอบรถยนต์คุณภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานอันหลากหลาย และเป็นเพื่อนคู่ใจที่พร้อมพาลูกค้าของเราเดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตได้อย่างเหนือชั้น"
ในโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 25 ปี ของฟอร์ด ประเทศไทย ฟอร์ดยังเผยโฉมรถฟอร์ด เรนเจอร์ XL Street Special Edition รุ่นพิเศษล่าสุด กระบะตอนครึ่ง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากทีมแข่งรถฟอร์ด ไทยแลนด์ เรซซิ่ง สำหรับลูกค้าคนรุ่นใหม่ และยังเป็นการรำลึกถึงต้นกำเนิดของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เมื่อปี พ.ศ. 2446 ที่ได้สร้างชื่อเสียงในวงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกมาอย่างยาวนาน
ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
อีกหนึ่งความมุ่งมั่นที่ฟอร์ดให้ความสำคัญสูงสุดเสมอมา คือ การมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเป็นเจ้าของรถให้แก่ลูกค้าครอบครัวฟอร์ด ด้วยการเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและรองรับลูกค้าฟอร์ดทั่วประเทศที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันฟอร์ดมีผู้จำหน่าย 180 แห่งทั่วประเทศ และได้พัฒนาการบริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมด้านบริการใหม่ ทั้งในโชว์รูมและผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อดูแลและมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าฟอร์ดเสมือนคนในครอบครัว
นอกเหนือจากโปรแกรม 'ฟอร์ดการันตีความใส่ใจ' ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงแก่ลูกค้าฟอร์ดแล้ว ฟอร์ดยังขยายบริการผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน อาทิ นวัตกรรมใหม่ล่าสุด Ask Ford แพลตฟอร์มการให้บริการข้อมูลต่างๆ ของฟอร์ด โดยลูกค้าสามารถสืบค้นข้อมูลจากระบบฐานข้อมูลของฟอร์ด ผ่านเว็บไซต์ฟอร์ดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว รวมถึงโครงการ Talk to the Experts ด้วยการนำทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์จากโรงงานผลิต เดินทางไปยังหัวเมืองหลักทั่วประเทศเพื่อพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นจากการใช้งานจริง พร้อมให้ข้อมูลทางเทคนิคที่ถูกต้องแก่ลูกค้าได้อย่างเข้าถึง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าฟอร์ด
สร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วประเทศไทยในหลากหลายมิติ อาทิเช่น โครงการที่ให้ความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการทุนการศึกษา และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้บริจาครถยนต์ฟอร์ด สิ่งของจำเป็น ทรัพยากรบุคคล และเงินสนับสนุน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติในประเทศไทยเสมอมา
ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฟอร์ด ประเทศไทย ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมในหลากหลายกิจกรรม ในปีพ.ศ. 2563 วิศวกรและบุคลากรฟอร์ดได้จัดทำหน้ากากป้องกันใบหน้า 126,000 ชิ้น เพื่อส่งมอบให้แก่กระทรวงสาธารณสุข และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฟอร์ดได้ร่วมกับโพลีเน็ต ในการผลิตแว่นตานิรภัยทางการแพทย์ 13,000 ชิ้น ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19
ล่าสุด ฟอร์ด ยังได้มอบรถพยาบาลบริการการแพทย์ฉุกเฉินรุ่น RESCUE T1 ซึ่งดัดแปลงจากรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ครบครันจำนวน 10 คัน ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานทางการแพทย์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์อื่นที่จำเป็นหรือเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ฟอร์ดได้จัดทำโครงการ Ford Driving Skills for Life หรือ ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมของฟอร์ดทั่วโลกที่ให้ความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัย สำหรับประเทศไทย ฟอร์ดได้จัดอบรมให้กับผู้สนใจโดยไม่มีค่าใช้จ่ายรวมแล้วกว่า 13,000 ราย ทั่วประเทศ
ฟอร์ดยังสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมของนักเรียนไทย ภายใต้โครงการทุนการศึกษา Go Further Innovator Scholarship และส่งเสริมอาชีวศึกษาผ่านโครงการ 'เปลี่ยนความรู้…สู่อาชีพ' ที่ฟอร์ดจัดทำร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยกิจกรรมเพื่อสังคม 'Water Go Green' กิจกรรมอนุรักษ์เต่าทะเลและปลูกป่าชายเลนคืนธรรมชาติ ในจังหวัดระยอง เป็นต้น
เมื่อปี พ.ศ. 2562 กองทุน ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี หน่วยงานเพื่อสังคมของ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ยังได้เปิดตัวศูนย์การเรียนรู้ฟอร์ดเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม หรือ ศูนย์ FREC กรุงเทพฯ ณ ย่านนางเลิ้ง ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของกรุงเทพฯ ด้วยเงินทุน 1.75 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 55 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการทำงานต่อเนื่องถึง 5 ปี โดยศูนย์ FREC กรุงเทพฯ เป็นศูนย์ FREC แห่งแรกในเอเชีย ที่เกิดจากความร่วมมือของกองทุนฟอร์ด และพันธมิตรองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มุ่งมั่นแสวงหาทรัพยากรและบริการสาธารณะที่ตรงตามความต้องการและวัฒนธรรมของชุมชนโดยรอบ เพื่อช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่รอบที่ตั้งหน่วยงาน ในปีที่ผ่านมา ศูนย์ FREC ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรจัดทำโครงการ Covid Relief Bangkok เพื่อแจกจ่ายอาหารและของใช้จำเป็นให้แก่ 32,000 ครอบครัวในชุมชนยากไร้ในกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และยังมีการดำเนินงานเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลืออีก 10,000 ครอบครัวในปีนี้
รับชมวิดีโอ 25 ปี ฟอร์ด ประเทศไทย ได้ที่นี่ https://youtu.be/EwY2tcufcow
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit