บนใบหน้าของสาวๆ ส่วนที่บอบบางและน่าทะนุถนอมที่สุด คงต้องยกให้บริเวณรอบดวงตา โดยผู้เชี่ยวชาญจาก รมย์รวินท์ คลินิก (Romrawin Clinic) ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ริ้วรอยรอบดวงตาเริ่มมาเยือนตั้งแต่อายุยังน้อยเพียง 20 ต้นๆ ส่วนริ้วรอยและร่องลึกพบมากในวัย 30 สำหรับสาวๆ วัย 40 หนีไม่พ้นปัญหาถุงใต้ตา และปัญหาความหมองคล้ำเป็นปัญหาของทุกช่วงวัย ขึ้นอยู่กับการดูแลและป้องกัน แต่ปัญหาเหล่านี้สาวๆ หลีกเลี่ยงได้ หากดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นประจำ
แพทย์หญิงธิรดา จิตตการ ได้แชร์ถึงวิธีการดูแลผิวรอบดวงตา พร้อมวิธีป้องกันเบื้องต้นว่าสาวๆ ควรเริ่มดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะสาเหตุการเกิดริ้วรอยแต่ละปัจจัยมีความแตกต่างกัน แต่มีพื้นฐานที่ใกล้เคียงกันมาก ฉะนั้นการป้องกันเบื้องต้น คือต้องหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงบริเวณรอบดวงตา บางปัญหาอาจต้องปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ดีที่สุด
"จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าปัญหาผิวรอบดวงตาที่เจอเยอะ จะพบตั้งแต่อายุยังน้อย มี 4 สาเหตุหลัก เริ่มจาก รอยหมองคล้ำ ถัดไปคือริ้วรอยบริเวณหางตาและหน้าผาก พออายุเข้าเลข 3 ก็เริ่มเป็นปัญหาความหย่อยคล้อยและร่องลึก สุดท้ายเมื่อเข้าสู่เลข 4 ปัญหาถุงใต้ตาเริ่มมาเยือนอย่างเห็นได้ชัด"
โดยปัญหาทั้ง 4 สามารถป้องกันได้ตามแบบฉบับคุณหมอ ดังนี้
1.ปัญหาหมองคล้ำรอบดวงตา เกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย ปัจจัยที่มีผลหลักเลยก็คือ กรรมพันธุ์อย่างโรคภูมิแพ้ หรือการขยี้ตาบ่อยๆ เมื่อมีอาการระคายเคืองบริเวณรอบดวงตา ซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นขยายตัว จนเกิดเป็นรอยหมองคล้ำขึ้นได้ หรือปัจจัยร่วมอย่างการนอนดึก การพักผ่อนน้อย ความหมองคล้ำก็ทยอยมาเยือนโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว
วิธีป้องกัน ง่ายที่สุดเลยเราก็อาจจะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมเพิ่มความกระจ่างใส ซึ่งเป็นพื้นฐานของการดูแลทุกปัญหารอบดวงตา จะช่วยบำรุงป้องกันได้ตั้งแต่ปัญหายังไม่เกิด แต่ก็จะมีหลากหลายผลิตภัณฑ์ให้เลือก แก้ปัญหาแต่ละจุดไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรศึกษาก่อนนำมาบำรุง
2.ปัญหาริ้วรอยริ้วๆ รอบดวงตา อายุ 20 ต้นๆ ก็เริ่มมีกันแล้ว สาเหตุหลักเกิดจากการที่ขยับกล้ามเนื้อบริเวณนั้นบ่อยๆ หรือการเกร็งกล้ามเนื้อเมื่อมีอาการเครียด ส่งผลให้มีริ้วรอยชัดขึ้น บวกกับอายุที่มากขึ้น เป็นเหตุให้คอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณนั้นเสื่อมถอยลง ทำให้เกิดริ้วรอยเล็กๆ ขึ้นมาได้ และถ้าหากไม่ดูแลป้องกันจะเกิดริ้วรอยขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากบริเวณหางตา และลามไปถึงบริเวณหน้าผาก
วิธีป้องกัน นอกจากผลิตภัณฑ์บำรุงที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินแล้ว การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยการ เลเซอร์ ก็จะช่วยในการกระตุ้นผิวด้านบน อย่างเช่น คลื่นวิทยุทำให้ผิวด้านบนมีการกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ริ้วรอยแลดูบางลง หรืออีกวิธีคือ การฉีดท็อกซินเข้าเส้น เพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณนั้นให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
3.ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อยและมีร่องลึก สาเหตุเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงภาวะการหย่อนในทุกๆ ส่วนของชั้นผิว ตั้งแต่กระดูกที่ทรุดตัวลง พังผืดใต้ผิวมีความหย่อนคล้อย ก็เลยทำให้พังผืดที่ควรจะตึงมันหย่อนลง จึงต้องมีการช่วยด้วยเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้พังผืดบริเวณเนื้อตึงขึ้น
วิธีป้องกัน อย่างที่ย้ำว่าเกิดจากทรุดตัวในทุกชั้นผิว เพราะฉะนั้นอย่างแรกอาจใช้เครื่องมือแพทย์ในการแก้ปัญหา เช่น การทำ Thermage กับ Ulthera คือการส่งคลื่นวิทยุ เพื่อช่วยในการกระตุ้นความแข็งแรงของชั้นใต้ผิว รวมทั้งพังผืดใต้ตาที่มันหย่อนลงให้มีความแข็งแรงขึ้น และอาจจะใช้กลุ่มฉีดอย่างเช่น Hyaluronic Acid หรือ HA (Filler) ฉีดเพื่อเติมเต็มในจุดที่หย่อนลงไป เพื่อหนุนบริเวณที่หายไปแล้วให้มันมีความตื้นขึ้น
4.ปัญหาถุงใต้ตา ที่เจอกันบ่อยมากเลยก็เรื่องของกรรมพันธุ์ เนื่องจากมีไขมันมาสะสมบริเวณใต้ตา การรักษาดีที่สุดคือ การศัลยกรรมดีที่สุดเลย แต่การดูแลเบื้องต้นคือการใช้เครื่องมือ Thermage กับ Ulthera ช่วยให้ถุงใต้ตาดูกระชับขึ้น และอาจจะใช้ฟิลเลอร์หรือ HA ช่วยในการอำพรางถุงใต้ตาได้
จะเห็นว่าแต่ละปัญหาเริ่มต้นไล่ไปตามอายุ เพราะฉะนั้นการป้องกันปัญหาต่างๆ คือเราต้องดูแลตัวเองได้ทุกวัน นั่นคือการบำรุงด้วยอายครีม หรือเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลด้วยการมาส์ก หรือการทำทรีทเม้นท์ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน สำหรับปัญหาบางปัญหาที่ไม่สามารถช่วยได้ด้วยตัวเอง ก็อาจจะมาปรึกษาแพทย์ เพื่อใช้เครื่องมือในการช่วยป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นก่อนวัยอันควร
สามารถติดตามรายละเอียดโปรแกรมต่างๆ ได้ที่ Facebook : Romrawin Clinic หรือ https://www.romrawin.com/
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit