"แพคริม" กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผู้นำและองค์กรชั้นนำของประเทศไทย ชี้บทเรียนสำคัญจากโควิด-19 ผู้นำไทย "แกร่งขึ้น" แต่ยังเผชิญหน้ากับความท้าทายในหลายมิติ แนะฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ปรับมุมมองใหม่สู่การทำงานเป็นพันธมิตรกับผู้บริหารในสายงานต่างๆ และเน้นการพัฒนาที่ตอบโจทย์เป้าหมายของหน่วยธุรกิจ
นางพรทิพย์ อัยยิมาพันธ์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ แพคริมกรุ๊ป กล่าวว่าจากการที่ตนได้พูดคุยกับผู้นำองค์กรหลายแห่งในประเทศไทยพบว่า หลายคนมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างมากและมีความแข็งแกร่งมากขึ้นนับจากเกิดวิกฤตโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา
"หนึ่งปีที่ผ่านมาสัมผัสได้เลยว่าผู้นำหลายคนเปลี่ยนไปคือถ่อมตนมากขึ้น และก็มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น เพราะเรารู้ว่าเรากำลังอยู่ในโลกที่มันไม่เหมือนเดิมจริงๆ เรายอมรับว่าเราไม่ได้เก่งทุกเรื่อง เราฟังเก่งขึ้น ให้เกียรติคนอื่นมากขึ้น เราให้คุณค่าเรื่องของความแตกต่างหลากหลายมากขึ้น"
อย่างไรก็ตามวิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้หลายองค์กรตระหนักถึงความท้าทายในการยกระดับขีดความสามารถของคนในองค์กรที่มีเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก หลายองค์กรจึงนำเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญขององค์กร เพราะเป็นปัจจัยที่ตัดสินความอยู่รอด และความสามารถในการแข่งขันที่แท้จริงขององค์กร จึงเป็นโอกาสและความท้าทายของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ที่จะได้แสดงบทบาทในเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาทักษะที่เรียกว่า Soft Skills หรือ Power Skills ควบคู่ไปกับการพัฒนา Hard Skills หรือทักษะทางเทคนิคต่างๆให้กับบุคลากรในองค์กร
"Hard Skills บางทีหมดอายุเร็ว เพราะสิ่งต่างๆ มันเปลี่ยนแปลงมาก เราต้องอัพเกรดตลอดเวลา ตัว Power Skills มันสร้างยากกว่าเยอะ ต้องอาศัยความมุ่งมั่น อดทนและกระบวนการในการสร้าง แต่สร้างแล้วมันอยู่กับเราตลอดชีวิต ตัวอย่างเช่น วินัยการวางแผนหรือจัดการเวลา ทักษะการสื่อสาร สร้างแล้วมันอยู่กับตัวเราเอง ทำให้คนของเรามีความสามารถในการยืดหยุ่นปรับตัว มีความอดทน ไม่ยอมแก้กับอุปสรรค"
อีกแนวโน้มหนึ่งที่กำลังมาแรงคือในเรื่องของเทคโนโลยี จากผลสำรวจของแพคริมพบว่าองค์กรต่างๆ มองว่าคนในองค์กรของเขาเพียงประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่มีขีดความสามารถเพียงพอที่จะรองรับความท้าทายในธุรกิจทั้งในวันนี้และในอนาคต เทคโนโลยี เช่น PacD หรือ All Access Pass จึงเป็นสิ่งที่เข้ามาตอบโจทย์ใหญ่นี้ ในการช่วยเสกล ยกระดับขีดความสามารถของคนจำนวนมากให้ได้ในระยะเวลาสั้นและงบประมาณที่จำกัด
"การฝึกอบรมแบบดั้งเดิมซึ่งได้ผลในอดีต แต่ปัญหาในวันนี้คือมันไม่สามารถเสกลได้ เพราะต้นทุนสูงจึงจำกัดทำได้ไม่กี่คน 3-4 ปีที่ผ่านมา แพคริมจึงได้เริ่มก้าวไปสู่ อี-เลิร์นนิ่ง ซึ่งหลายครั้งเนื้อหามันเยอะจนผู้เรียนไม่รู้จะเอาไปใช้กับชีวิตจริงได้อย่างไร และจะเอาไปเชื่อมโยงกับเป้าหมายหรือผลประกอบการของธุรกิจได้อย่างไร
"วันนี้วงการ Learning & Development จึงมีการพูดถึง Capability Academies ปัจจุบันมีลูกค้าหลายเจ้ามาปรึกษาแพคริมทำเรื่องนี้อยู่ หัวใจของเรื่องนี้คือการบูรณาการการพัฒนาคนเข้ากับเนื้องาน ที่เรียกว่า Learning in the flow of work"
นางพรทิพย์กล่าวว่าด้วยโจทย์และความท้าทายดังกล่าวข้างตน ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์จำเป็นต้องปรับวิธีคิดและกระบวนการทำงานไปสู่การทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยธุรกิจหรือผู้นำสายงานต่างๆ ในองค์กร ให้เป็นเจ้าภาพในการทำงานพัฒนาคน โดยที่ฝ่ายบุคคลเป็นผู้สนับสนุน
โดยมุ่งเน้นที่การสร้างผลกระทบตรงต่อผลงานหรือเป้าหมายในการดำเนินงานของหน่วยธุรกิจ
"ถ้าเราคิดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม ผลงานจะแย่กว่า เพราะข้างนอกมันยากกว่าเดิม วันนี้เราบอกว่าด้วยโจทย์ใหม่ที่มันไม่เหมือนเดิม เป้าหมายที่ยากกว่าเดิม วันนี้คนของเราต้องเก่งขึ้นเยอะเลย" ซีอีโอแพคริมกล่าวในที่สุด
ข้อมูลเกี่ยวกับ PacRim Group
PacRim มุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ของธุรกิจและองค์กร เพื่อปรับอัตราเร่งการทำทรานส์ฟอร์เมชั่นและเพิ่มผลลัพธ์ทางธุรกิจ เราเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกในการพัฒนาผู้นำและการปรับวัฒนธรรมองค์กร ที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำกว่า 1,000 แห่งในประเทศไทย พร้อมทีมที่ปรึกษามืออาชีพ คอนเทนต์ เทคโนโลยี และเครือข่ายจากพันธมิตรในระดับโลกของเราที่ครอบคลุมกว่า 150 ประเทศ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit