กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และนครศรีธรรมราช ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน (21 ธันวาคม 2563 เวลา 06.00 น.) รวม 3 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา รวม 23 อำเภอ 125 ตำบล 602 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,003 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย (ยะลา) จุดอพยพ 5 จุด อพยพประชาชน 124 ครัวเรือน 412 คน (นราธิวาส) โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 3 จังหวัด รวม 23 อำเภอ 125 ตำบล 602 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,003 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้
นราธิวาส น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแว้ง อำเภอศรีสาคร อำเภอระแงะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุไหงปาดี อำเภอบาเจาะ อำเภอจะแนะ อำเภอสุไหง - โกลก อำเภอสุคิริน อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอรือเสาะ อำเภอยี่งอ และอำเภอตากใบ รวม 71 ตำบล 401 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,836 ครัวเรือน
ปัตตานี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอมายอ อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอสายบุรี แลอำเภอเมืองปัตตานี รวม 34 ตำบล 104 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,304 ครัวเรือน
ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง อำเภอธารโต และอำเภอรามัน รวม 20 ตำบล 74 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 863 ครัวเรือน
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 1 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ดินสไลด์ปิดทับบ้านเรือนประชาชนในอำเภอเบตง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่ง ปภ.ร่วมกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน โดยระดมเครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำ เข้าพื้นที่เพื่อเร่งระบายน้ำ และให้การดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบในเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม อิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำไหลหลาก และวาตภัย
ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2563 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย รวม 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราชตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 101 อำเภอ 538 ตำบล 4,222 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 734,230 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 30 ราย (นครศรีธรรมราช 21 ราย พัทลุง 3 ราย สุราษฎร์ธานี 2 ราย ตรัง 2 ราย และสงขลา 2 ราย) ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในจังหวัดนครศรีธรรมราช 1 อำเภอ 14 ตำบล 122 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,105 ครัวเรือน โดย ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจพื้นที่ และประเมินความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป