บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลและลดทุนจดทะเบียนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน รวมกว่า 400 ล้านบาท ลูกค้ารับพร้อมกัน 26 มี.ค.นี้ เผย COVID-19 ส่งผลกระทบต่อกองทุนทั้งทางตรงและทางอ้อม ในขณะที่กองทุนยังคงรักษาผลการดำเนินงานเพื่อข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้
นายวิทวัส อัจฉริยวนิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ลูกค้าผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของบลจ.กสิกรไทย เตรียมรอรับเงินจากการจ่ายปันผลและลดทุนจดทะเบียนของ 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยจ่ายปันผลในอัตรา 0.0800 และ 0.1175 บาทต่อหน่วย ตามลำดับ
สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลด์ (GOLDPF) ลดทุนในอัตรา 0.1000 บาทต่อหน่วย รวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) จ่ายปันผลในอัตรา 0.0526 บาทต่อหน่วย และลดทุนจดทะเบียนในอัตรา 0.5400 บาทต่อหน่วย โดยลูกค้าทั้ง 4 กองทุนจะได้รับเงินพร้อมกันในวันที่ 26 มีนาคม 2564 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 429 ล้านบาท
นายวิทวัสกล่าวต่อไปว่า กองทุน KPNPF มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารสำนักงาน และระบบสาธารณูปโภคของอาคารเคพีเอ็น ทาวเวอร์ ที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะผ่านหน้าโครงการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2566 ทำให้มีแนวโน้มความต้องการเช่าและมีอัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปีพ.ศ. 2556 กองทุนมีการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้น 31 ครั้ง เป็นเงิน 3.7268 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 4.85% ต่อปี
"สำหรับกองทุน MJLF มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารในโครงการ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และโครงการศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน รวมถึงโครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีลักษณะเป็นอาคารไลฟ์สไตล์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ โดยทั้ง 2 โครงการที่ตั้งอยู่รัชโยธินได้รับอานิสงส์จากการเปิดใช้งานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ทำให้การเดินทางไปมาสะดวกขึ้นมาก ประกอบกับลูกค้าเริ่มกลับเข้ามาใช้บริการร้านค้าต่างๆ มากขึ้น ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปีพ.ศ. 2550 กองทุนมีการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้น 53 ครั้ง เป็นเงิน 11.9855 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 8.85% ต่อปี
ด้านกองทุน GOLDPF มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ขนาด 162 ห้องของโครงการเดอะ เมย์แฟร์ แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเมนต์ ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต โดยในช่วงที่ผ่านมาโครงการได้รับผลกระทบโดยตรงจากการมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศลดลง อย่างไรก็ดี โครงการยังคงมีผู้เข้าพักที่ทำสัญญาระยะยาวอยู่ ซึ่งพอจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้บ้าง ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปีพ.ศ. 2550 มีการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้น 23 ครั้ง เป็นเงิน 5.7835 บาทต่อหน่วย และลดทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง เป็นเงิน 0.4748 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลและลดทุนจดทะเบียนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 4.76% ต่อปี" นายวิทวัสกล่าว
นายวิทวัสกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน ABPIF เป็นการลงทุนในสัญญาโอนผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ที่มีรายได้หลักมาจากการทำสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ซึ่งสัญญาโอนผลประโยชน์ของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 2 จะมีอายุคงเหลือจนถึงปีพ.ศ. 2565 ทำให้ในช่วงที่ผ่านมากองทุนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 อย่างจำกัด ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ABPIF เมื่อปีพ.ศ. 2556 ได้มีการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง รวมเป็นเงินอัตรา 4.4929 บาทต่อหน่วย และลดเงินทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง เป็นเงิน 7.9160 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลและลดทุนจดทะเบียนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 36.27% ต่อปี
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน KPNPF, MJLF, GOLDPF และ ABPIF สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit