โรงงานน้ำตาล ประกาศราคารับซื้ออ้อย 1,000 บาทต่อตัน ที่ความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. สร้างแรงจูงใจเกษตรกรหันมาเพาะปลูกอ้อยมากขึ้น พร้อมโชว์ความสำเร็จทำสถิติผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยสูงสุดในรอบ 30 ปี
โรงงานน้ำตาล เชิญสมาคมชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ หารือการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายอย่างยั่งยืน เสนอรับซื้ออ้อยสดคุณภาพดีในฤดูการผลิตปีถัดไปในราคาตันละ 1,000 บาท ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. หวังสร้างแรงจูงใจให้แก่เกษตรกรเพื่อสร้างความมั่นคงด้านการผลิตและดูแลคุณภาพผลผลิตอ้อย จากการปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปี 2563/64 ระบุทุกฝ่ายร่วมใจการส่งผลผลิตอ้อยสดเข้าหีบ ดันผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยอยู่ที่ 113.57 กิโลกรัมต่อตันอ้อย และค่าความหวานอยู่ที่ 12.91 ซี.ซี.เอส. สูงสุดในรอบ 30 ปี
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย หรือ TSMC เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ได้ส่งหนังสือเชิญสมาคมชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ เพื่อหาแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยอย่างยั่งยืน ในวันที่ 7 เมษายน 2564 ที่โรงแรมแชงกรี-ลา โดยจะหารือถึงประเด็นการสร้างความมั่นคงด้านผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี 2564/65 โรงงานน้ำตาลจะรับซื้ออ้อยสดที่มีคุณภาพในราคา 1,000 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. เพื่อกระตุ้นการส่งเสริมการเพาะปลูกอ้อยจัดส่งให้แก่โรงงานน้ำตาล ทั้งนี้ โรงงานพร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการเพาะปลูกให้แก่เกษตรกรรายใหม่ที่สนใจปลูกอ้อยยึดเป็นอาชีพสร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว
ส่วนภาพรวมการผลิตน้ำตาลปีนี้ โรงงานทั้ง 57 แห่ง ประกาศปิดหีบประจำฤดูการผลิตปี 2563/64 หลังจากเปิดรับผลผลิตจากชาวไร่มาตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 พบว่า ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) และค่าความหวานเฉลี่ยในปีนี้สูงที่สุดในรอบ 30 ปี โดยมียิลด์อยู่ที่ 113.57 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ค่าความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 12.91 ซี.ซี.เอส. เมื่อเทียบปีก่อนที่มียิลด์อยู่ที่ 110.46 กิโลกรัมต่อตันอ้อย และค่าความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 12.68 ซี.ซี.เอส. แม้ปีนี้ปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบเพียง 66.66 ล้านตัน ลดลง 8.20 ล้านตัน เทียบกับปีก่อนที่มีผลผลิตอ้อย 74.86 ล้านตัน ซึ่งมาจากสาเหตุสภาพปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็ตาม
ความสำเร็จในครั้งนี้มาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งชาวไร่และโรงงานน้ำตาลรวมถึงภาครัฐ แก้ปัญหาการเผาอ้อยอย่างจริงจัง ทำให้ชาวไร่จัดส่งอ้อยสดเข้าหีบเพิ่มขึ้นเป็น 49.05 ล้านตัน คิดเป็น 73.58% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด และมีอ้อยไฟไหม้ลดลงเหลือ 17.61 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 26.42% เทียบกับปีก่อนที่มีอ้อยไฟไหม้สูงถึง 37.18 ล้านตัน
"แม้ปีนี้ปริมาณอ้อยจะลดลง แต่มีอ้อยสดเข้าหีบมากขึ้นทำให้ยิลด์และค่าความหวานทำสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปี ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกฝ่าย และเราเชื่อมั่นว่าการเสนอรับซื้ออ้อยสดคุณภาพดีที่ 1,000 บาทต่อตันอ้อย ณ ค่าความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. เป็นอีกหนึ่งวิธีสร้างแรงจูงใจให้แก่เกษตรกรหันมาเพาะปลูกอ้อยให้มากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงด้านผลผลิตให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย" นายสิริวุทธิ์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit