บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) หรือ DITTO ชูศักยภาพธุรกิจให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจร ตอบสนององค์กรที่ต้องการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลและเปลี่ยนผ่านสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital Transformation) พร้อมเคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 7.50 บาท เตรียมเปิดจองซื้อวันที่ 23, 26 - 27เมษายนนี้ ก่อนเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai ชูผลประกอบการปี 2561 - 2563 ทำรายได้และกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่ง วางแผนลงทุนขยายเครือข่ายศูนย์กระจายการให้บริการ เพิ่มขีดความสามารถรองรับลูกค้าทั่วประเทศ รุกลงทุนระบบจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO ผู้ให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจร (Document & Data Management Solutions) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2544 ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจร ให้แก่ลูกค้าที่เป็นหน่วยงานราชการและองค์กรเอกชนในภาคธุรกิจต่างๆ โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะนำบริษัทฯ เป็นผู้นำการให้บริการระบบจัดการเอกสารแบบครบวงจร สู่วิวัฒนาการ Digital Transformation
สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
กลุ่มแรกคือ ธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสาร ประกอบด้วย การให้บริการรับบริหารระบบงาน (Business Process Outsourcing หรือ BPO) ในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล เป็นตัวแทนจำหน่ายระบบบริหารจัดการเอกสาร (Document Management Solutions) ให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ให้บริการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลด้วยระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานของลูกค้า โดยล่าสุด บริษัทฯได้ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูล รวมถึงพัฒนาบุคลากรด้านไอทีเพื่อผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพและเปิดโอกาสให้เข้าร่วมงานกับบริษัทฯ
"เราเป็นผู้ออกแบบและพัฒนาการจัดการเอกสารและข้อมูลเพื่อให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันระบบการจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ จะเป็นรูปแบบเอกสารกระดาษ ซึ่งในแต่ละองค์กรจะมีปริมาณการจัดเก็บเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและมักมีปัญหาในการค้นหาและนำไปใช้ ทาง DITTO จึงได้ออกแบบระบบการจัดเก็บเอกสารและข้อมูล ตั้งแต่การนำเข้าเอกสารหรือข้อมูลไปจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆ สามารถนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ประหยัดทรัพยากร และมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล" นายฐกรกล่าว
"Ditto มีศักยภาพในการจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารอย่างครบวงจร โดยเราทำตั้งแต่การออกแบบและวางโครงสร้างการจัดเก็บข้อมูล จัดหาหรือพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารที่เหมาะสม รวมถึงฮาร์ดแวร์หรือบุคลากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญตามที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ส่วนเทคโนโลยีนั้นเราเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ชั้นนำของโลกหลายรายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละรายด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจใหม่สำหรับประเทศไทยและกำลังเป็นที่ต้องการขององค์กรและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่ง DITTO ถือเป็นรายแรกๆ ที่เข้ามาจับธุรกิจนี้"
ถัดมาเป็นกลุ่มธุรกิจให้เช่า จำหน่าย และให้บริการด้านเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ และสินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ ครอบคลุมบริการให้เช่าและบำรุงรักษาเครื่องถ่ายเอกสารแก่หน่วยงานราชการและเอกชน จำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ และสินค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ จอ LED อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย ฯลฯ นอกจากนี้ในปี 2561 ได้ขยายธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์และระบบไดร์ฟทรูแบรนด์ HME หนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของโลก และขยายธุรกิจระบบจำหน่ายสินค้าหน้าร้าน (Point of Sales หรือ POS)
กลุ่มสุดท้ายเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้บริษัทย่อยของดิทโต้ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโครงการวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการของหน่วยงานราชการต่างๆ โดยมุ่งเน้นในโครงการที่มีเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม (Innovation) และเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง ได้แก่ บริการทางวิศวกรรม ออกแบบ จัดหาและติดตั้งระบบท้องฟ้าจำลองและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งเป็นระบบฉายภาพที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญพิเศษ การให้บริการออกแบบ จัดหา และติดตั้งระบบโทรมาตร (SCADA) สำหรับการชลประทาน เช่น ระบบตรวจวัดสภาพน้ำทางไกลอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า เป็นต้น ให้บริการงานระบบเทคโนโลยีภายในอาคาร และโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยี เช่น
การก่อสร้างระบบการจัดการขยะเพื่อผลิตเชื้อเพลิง RDF และปุ๋ยอินทรีย์ เป็นต้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DITTO กล่าวต่อว่า ธุรกิจของบริษัทฯ จึงมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรสู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยความสะดวกรวดเร็วในการจัดเก็บและค้นหาข้อมูล ลดต้นทุนกระดาษและพื้นที่จัดเก็บเอกสาร ตอบโจทย์การทำงานแบบ Digital Workplace ซึ่งเป็นเทรนด์การทำงานในอนาคต โดยบริษัทฯ วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูล และธุรกิจให้เช่า จำหน่ายและให้บริการด้านเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์และสินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ จะมุ่งนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายแบบครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า นำเสนอบริการที่มีคุณภาพโดยทีมงานที่เชี่ยวชาญและบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ ส่วนธุรกิจรับเหมาโครงการวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการของหน่วยงานราชการต่างๆ จะมุ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ ใช้จุดเด่นด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมและมีประสบการณ์จากผลงานโครงการต่างๆ ที่ผ่านมา
บริษัทฯ มีแผนลงทุนขยายเครือข่ายจัดตั้งศูนย์กระจายการให้บริการอีก 9 แห่ง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เพื่อกระจายทีมงานและเพิ่มศักยภาพการให้บริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น พร้อมทั้งวางแผนลงทุนพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสาร เพื่อให้บริการในรูปแบบ Software as a Service (SaaS) ที่ให้บริการบนระบบคลาวด์และสามารถเข้าถึงเอกสารที่จัดเก็บจากที่ใดก็ได้ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต
ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2561 - 2563 เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 422.3 ล้านบาท 773.0 ล้านบาท 986.3 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 52.8% และมีกำไรสุทธิ 13.4 ล้านบาท 56.3 ล้านบาท และ 114.2 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปี 192.3% เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสาร และธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยี
นายศิต ตันศิริ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อพิจารณาอนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ปัจจุบันได้รับการอนุมัติคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และ Filing มีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ของ DITTO ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเพิ่มศักยภาพและฐานะการเงินรองรับแผนงานขยายการลงทุน โดย DITTO มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2544 จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เป็นหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรม อาทิ ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ สถาบันการเงินชั้นนำ ฯลฯ ซึ่งต้องการพัฒนาระบบจัดการข้อมูลจากเอกสารสู่รูปแบบดิจิทัล รองรับการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ระบบดิจิทัล จึงเชื่อว่าธุรกิจของ DITTO จะได้รับประโยชน์จากยุค New Economy
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า DITTO ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่หุ้นละ 7.50 บาท เตรียมเปิดจองซื้อวันที่ 23, 26 - 27 เมษายนนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ โดย DITTO จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 80 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 18.18 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวมทั้งสิ้น 600 ล้านบาท ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ขยายเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ลงทุนพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารเพื่อให้บริการบนระบบคลาวด์และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ
จุดเด่นของ DITTO คือ เป็นผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูล บริการรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีแบบครบวงจร โดยมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของหน่วยงานต่างๆ มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องและไม่ได้พึ่งพารายได้จากธุรกิจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง รวมถึงมีผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 10 - 20 ปี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit