Shipsy ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาและให้บริการซอฟต์แวร์จากอินเดีย วางแผนเสริมความแข็งแกร่งของกลยุทธ์เชิงธุรกิจระดับโลกด้วยการขยายการให้บริการสู่ประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดย Shipsy ตัดสินใจล่องเรือเข้าสู่น่านน้ำแห่งตลาดอาเซียนซึ่งโดดเด่นเรื่องการขนส่งสินค้า หลังได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Sequoia Surge & InfoEdge
การตัดสินใจลงทุนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Shipsy ในการยืนหยัดท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยบริษัทมีรายได้ทะยานขึ้นกว่า 50% ในช่วงที่มีการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว และยังสามารถเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับลูกค้ารายใหญ่ทั่วโลกมากมาย หลังเกิดกระแสการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบอัตโนมัติและทำงานจากระยะไกล
Shipsy ได้ยึดอินเดียเป็นฐานที่มั่นมาตลอด โดยเป็นผู้จัดการขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์กว่า 10% ของการขนส่งในอินเดีย และร่วมงานกับผู้ส่งออกชั้นนำ 5 รายจาก Top 10 ภายใน 3 เดือนหลังจากขยายการให้บริการเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียน Shipsy ก็ประกาศว่าได้เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์, ผู้ส่งออกปูนซีเมนต์, และผู้ผลิตสินค้าปิโตรเคมีรายใหญ่ที่สุดของโลก รวมถึงผู้ส่งออกเคมีภัณฑ์ระดับสากล ในการผลักดันวงการโลจิสติกส์สู่การทำงานด้วยระบบดิจิทัล
คุณ Soham Chokshi ซีอีโอของ Shipsy กล่าวว่า "การขยายการให้บริการสู่ภูมิภาคอาเซียนนั้นนับว่าเป็นไปตามการวางแผนของเรา ทั้งในเรื่องความต้องการและความพร้อมของตลาด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคได้ส่งผลให้บริษัทต่างๆ มีความกระตือรือร้นที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลาดอาเซียนนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศส่วนมากมีการเดินทางผ่านภูมิภาคนี้ เรามั่นใจว่าจะสามารถให้บริการในฐานะพันธมิตรและมอบสิทธิประโยชน์ให้กับองค์กรต่างๆ ได้ ด้วยระบบการจัดการด้านโลจิสติกส์ที่ล้ำยุคของเรา"
แพลตฟอร์มของ Shipsy นำเสนอชุดเครื่องมือในระบบอัตโนมัติ EXIM แบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการจัดซื้อสินค้า ที่ผู้จัดส่งจะสามารถทำงานกับผู้ให้บริการขนส่งและตัวแทนต่างๆ ได้ผ่านระบบดิจิทัลเพื่อเจรจาต่อรองเรื่องอัตราค่าบริการขนส่ง จากนั้น โมดูลสำหรับฝ่ายจัดการการขนส่งสินค้า ซึ่งมีการบูรณาการระบบเข้ากับผู้ให้บริการขนส่งและฝ่ายต่อรองอัตราค่าบริการขนส่งจากทั่วโลกนั้น จะดูแลเรื่องกำหนดเวลาส่งสินค้าให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวยังมีโมดูลสำหรับการประสานงาน ซึ่งช่วยให้สามารถกำหนดขั้นตอนการทำงานได้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้มองเห็นภาพรวมของการขนส่งในแต่ละขั้นตอน การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการสื่อสารระหว่างตัวแทนต่างๆ
ผู้จัดส่งสินค้าสามารถลดต้นทุนในการขนส่งได้มากที่สุดถึง 5% จากการทำงานของระบบที่ช่วยต่อรองอัตราค่าบริการขนส่งสินค้าแบบหลายรอบ และยังอ้างอิงข้อมูลอัตราค่าบริการขนส่งได้อย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ เมื่อผู้จัดส่งมองเห็นกระบวนการโดยรวมได้ชัดเจนขึ้น ก็จะสามารถประหยัดเวลาในการวางแผนกำหนดเวลาส่งสินค้าและการออกใบตราส่งสินค้า พร้อมกับหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ แพลตฟอร์มที่สามารถนำไปบูรณาการได้แบบสมูบรณ์ของ Shipsy นี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยลดชั่วโมงการทำงาน และสร้างความพึงพอให้ลูกค้าของผู้จัดส่งสินค้ารายหลักของโลกได้อย่างดี และเป็นแพลตฟอร์มแนวหน้าในวงการระบบอัตโนมัติด้านโลจิสติกส์ระดับสากล
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นนี้ ความต้องการในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศนั้นมีมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมกับอุปสรรคที่มากขึ้นตามไปด้วย ทั้งอัตราค่าบริการขนส่งสินค้าที่แพงขึ้น ปัญหาเส้นทางขนส่งติดขัด และการขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า เทคโนโลยีอันทันสมัยของ Shipsy ออกมาแบบมาเพื่อให้สามารถฝ่าฟันอุปสรรค์เหล่านี้ และช่วยให้ผู้จัดส่งสินค้าสามารถทำงานได้โดยใช้ระบบดิจิทัลและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ: [email protected]; +91-9867999866
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit