กิฟฟารีน ครบรอบ 25 ปี จุดพลุ New TVC "ไฮยา พรี-ซีรั่ม" ฉลองยอดขาย 2 ล้านขวด ดึง 'อั้ม-พัชราภา' ต่อสัญญาพรีเซ็นเตอร์

17 Mar 2021

กิฟฟารีน ผู้นำแบรนด์สุขภาพและความงามสัญชาติไทย ครบรอบ 25 ปี จุดพลุ New TVC "ไฮยาพรี-ซีรั่ม" ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด ฉลองยอดขาย 2 ล้านขวด เซอร์ไพรส์เปิดตัว อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ผู้หญิงที่สาวๆ ทั่วประเทศยกให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์เบอร์หนึ่ง ในเรื่องความสวยสดใสและการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ลุยต่อสัญญาพรีเซ็นเตอร์ สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค

กิฟฟารีน ครบรอบ 25 ปี จุดพลุ New TVC "ไฮยา พรี-ซีรั่ม" ฉลองยอดขาย 2 ล้านขวด ดึง 'อั้ม-พัชราภา' ต่อสัญญาพรีเซ็นเตอร์

พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า "ความสำเร็จและความภาคภูมิใจของกิฟฟารีนในวาระครบรอบ 25 ปี จากการตั้งปณิธานในวันแรกไว้ว่า กิฟฟารีนต้องการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดี เพื่อคนไทยอย่าแท้จริง คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ผ่านกระบวนการผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานระดับสากล ราคายุติธรรม มอบให้คนไทยทั่วประเทศได้ซื้อใช้แล้วซื้อซ้ำ และทุกคนสามารถซื้อใช้ได้อย่างยั่งยืน ในรูปแบบการตลาด Multi-Level Marketing หรือ MLM คือให้ผู้ขายเป็นผู้แนะนำสินค้า และสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราภูมิใจ เพราะกิฟฟารีนทำให้คนไทยมีรายได้หลักและรายได้เสริมจากจากการเข้ามาร่วมทำธุรกิจกิฟฟารีนไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท กระจายไปสู่ครอบครัวหลายแสนครัวเรือน และตลอด 25 ปี มีนักธุรกิจกิฟฟารีนไม่น้อยที่เข้ามาทำธุรกิจตั้งแต่ลูกๆ อายุ 4-5 ขวบ จนปัจจุบันลูกเรียนจบปริญญา แม้ตอนเริ่มต้นอาจจะลำบาก แต่ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น และอีกหนึ่งความภาคภูมิใจคือ กิฟฟารีนเป็นแบรนด์ที่แข็งแรง ได้รับการต้อนรับจากคนไทยทั่วประเทศว่า เป็นแบรนด์ที่ไม่เอาเปรียบใคร และมีสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ ซึ่งเราพูดมาเสมอว่า ยอดขายไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เราให้กับคนไทยทั้งประเทศมากกว่า

การวางแผนสร้างยอดขายสินค้าในปี 2564 นับว่ายากกว่าปีที่แล้วมาก เนื่องจากโควิด-19 ยังเรื้อรังต่อเนื่อง แต่โชคดีที่บริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาก่อนหน้านี้ ด้วยการฝึกอบรมให้นักธุรกิจทำธุรกิจออนไลน์ ให้รู้จักการทำงานในหลายๆ แพลตฟอร์ม และบริษัทฯ ได้เตรียมเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของเราเอง ให้นักธุรกิจเสิร์ชหาข้อมูลสินค้าต่างๆ มีการให้บริการที่รวดเร็วทันใจ ซึ่งปีนี้เราต้องมุ่งมั่นพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก หากมองภาพรวมการตลาดในปีที่ผ่านมาหลายแบรนด์ยังตั้งรับไม่ทัน แต่ปีนี้หลายแบรนด์มีการตั้งรับที่ดีขึ้น ในสถานการณ์ที่กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงและแต่ละอุตสหกรรมมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งความท้าทายของกิฟฟารีนในปีนี้ คือ ทำอย่างไรให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคประทับใจในการบริการที่รวดเร็ว มีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนตรงใจผู้บริโภค ทำอย่างไรที่จะพัฒนานักธุรกิจของเราให้ปรับตัวเข้ากับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ซึ่งในปีที่ผ่านมานักธุรกิจของเรามีทั้งปรับตัวได้และบางส่วนยังต้องการการเทรนนิ่ง แต่ปีนี้ถ้าจะแข็งแกร่งกว่าเดิมและสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนได้ ก็ต้องปรับตัวให้ได้ทุกคน และต้องทำงานอย่างรวดเร็ว ฉับไว

ด้านผลิตภัณฑ์ "กิฟฟารีน ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม" โดยมี อั้ม-พัชราภา เป็นพรีเซ็นเตอร์ พญ.นลินี กล่าวว่า "คุณอั้มเป็นบุคคลที่สร้างความน่าสนใจให้ผลิตภัณฑ์ และมีสปิริตของพรีเซ็นเตอร์จริงๆ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยความชอบ ความพึงพอใจจริงๆ และบ่อยครั้งก็แสดงความชื่นชอบผ่านการรีวิวในช่องทางโซเชียลมีเดียด้วยตัวเอง โดยที่เราไม่ได้ขอให้โพสต์ ซึ่งตอนนี้ได้ร่วมกันถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะอยากให้คนไทยที่เคยใช้ มีความมั่นใจ มีความภูมิใจมากขึ้น หรือคนที่ไม่เคยลองใช้ก็อาจจะตัดสินใจลองใช้ ขณะเดียวกัน กิฟฟารีน ไฮยา พรี-ซีรั่ม ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่พิสูจน์ด้วยคุณภาพสินค้าและวัตถุดิบที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และให้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ โดยสามารถยืนยันด้วยข้อมูลทางสถิติถึงยอดการซื้อใช้ และซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่องจริงๆ จากผู้บริโภครายเดิม และปัจจุบันสามารถสร้างยอดขายทะลุ 2 ล้านขวด นอกจากนี้ยังเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย เพราะมีผู้ใช้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป จนถึงผู้ใช้วัยกว่า 60 ปี กิฟฟารีน ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราอยากยึดเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของกิฟฟารีนที่อยากให้ทุกคนได้ใช้ และสร้างความไว้วางใจในการลองใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของกิฟฟารีนตามมา"

"คุณหมอต้อย" กล่าวปิดท้ายว่า "ภาพรวมการเติบโตของ กิฟฟารีน ในช่วงโควิด-19 เมื่อปี 2563 เติบโตกว่าปี 2562 ประมาณ 7% ซึ่งเกิดจากนักธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศที่พร้อมใจ พร้อมเพรียงกันเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และการตอบรับของผู้บริโภค ในปีนี้เราลงทุนด้านไอที พัฒนาแพลตฟอร์มหลายอย่าง เพื่ออำนวยความสะดวกตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค New Normal ที่ชื่นชอบการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว รวมทั้งเน้นการทำการตลาดทางออนไลน์เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และเชื่อว่าหากโควิด-19 คลี่คลาย ทุกอย่างคงยังไม่กลับมาเหมือนเดิม 100% เพราะคนไทยยังเคยชินกับการใช้ชีวิตบางอย่างไปแล้ว ดังนั้น กิฟฟารีน จึงยังคงเป็นแบรนด์ที่พร้อมตั้งรับและปรับกลยุทธ์เชิงรุกสำหรับการปรับเปลี่ยนในทุกแพลตฟอร์มทางการตลาด เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดแด่ผู้บริโภคต่อไป"

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นักธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ หรือ โทรกิฟฟารีน 1101 และสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Facebook: giffarineofficial, Line@giffarinethailand, www.giffarine.com, Shopee และ Lazada

เกี่ยวกับ "กิฟฟารีน"
"ทุกครั้งที่คุณใช้กิฟฟารีน นั่นคือความรับผิดชอบของเรา…ทุกครั้งที่คุณเชื่อมั่นในกิฟฟารีน นั่นคือ ความภูมิใจของเรา" กิฟฟารีนก่อกำเนิดจากความมุ่งมั่นของคณะแพทย์ และเภสัชกรที่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการรับรองที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ด้วยปณิธานยึดมั่นในความจริงใจ และความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคอันเต็มเปี่ยม "กิฟฟารีน" มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องอันเกิดจากการวางแผนการตลาดที่มีวิสัยทัศน์ แผนการขายที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีน พร้อมทั้งการสนับสนุนด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในฐานะผู้นำธุรกิจเครือข่ายที่พร้อมจะตอบสนอง และสร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภคในระยะยาว ปัจจุบัน "กิฟฟารีน" มีโรงงานที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก ด้วยเงินลงทุนสูงกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุด รวมไปถึงสามารถควบคุมต้นทุนการผลิต ตลอดจนคัดเลือกคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีที่สุด

HTML::image(