- ไอร์แลนด์กำลังเปลี่ยนโลกให้เป็นสีเขียว และไม่ใช่แค่ในวันเซนต์แพทริกเท่านั้น
ในขณะที่โลกเปลี่ยนเป็นสีเขียวเนื่องในวันเซนต์แพทริก (17 มีนาคม) ทาง Enterprise Ireland ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการค้าและนวัตกรรมของรัฐบาลไอร์แลนด์ และนักลงทุนในธุรกิจร่วมลงทุน (VC) อันดับหนึ่งของโลก ได้ประกาศเปิดตัวแคมเปญส่งเสริมนวัตกรรมสีเขียวระดับโลก "Ready for a Green Future"
หน่วยงานด้านการค้าแห่งนี้เตรียมจัดกิจกรรมการค้าเสมือน (virtual trade) กว่า 50 กิจกรรมทั่วโลก เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพันธมิตรจากนานาประเทศ และสนับสนุนการเติบโตของบริษัทไอร์แลนด์บนเวทีโลก โดยนายไมเคิล มาร์ติน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ นายลีโอ วารัดการ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายโรเบิร์ต ทรอย รัฐมนตรีกระทรวงส่งเสริมการค้า จะทำกิจกรรมเสมือนร่วมกับลูกค้าของ Enterprise Ireland และพันธมิตรจากทั่วโลกทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป สหราชอาณาจักร อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมถึงเอเชียแปซิฟิก ตลอดเทศกาลวันเซนต์แพทริก
สำหรับแคมเปญระดับโลก "Ready for a Green Future" ให้ความสำคัญกับวาระด้านสภาพภูมิอากาศ และเนื่องจากทั่วโลกกำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 จึงจำเป็นต้องรื้อฟื้นหลายสิ่งหลายอย่างให้กลับมาดียิ่งกว่าเดิม โดยมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนและการจัดการความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมนานัปการที่เรากำลังเผชิญ เพื่อสร้างการฟื้นตัวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green recovery)
แคมเปญนี้นำเสนอผลงานของนักนวัตกรรมสีเขียวจากไอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ผู้แก้ปัญหาทางเทคนิคอันซับซ้อน ตลอดจนส่งมอบโซลูชันที่ยั่งยืนและปล่อยคาร์บอนต่ำ เพื่อทำให้พลังงานหมุนเวียนมีการใช้งานจริงอย่างแพร่หลาย ลดขยะจากพลังงานในเมืองด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ลดขยะจากการเกษตร และยกระดับการก่อสร้างให้สะอาดมากขึ้น
รับชมวิดีโอแคมเปญ Ready for a Green Future ได้ที่ https://youtu.be/2bfGAtoVsHI
บริษัทไอร์แลนด์ส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมแคมเปญประกอบด้วย
- KEENAN พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องผสมและเตรียมอาหารสัตว์ ช่วยให้ฟาร์มทุกขนาดกลายเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ กำจัดของเสีย และลดการปล่อยมลพิษอย่างมีนัยสำคัญ
- CitySwift ต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศด้วยการใช้ข้อมูลในการยกระดับระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้รูปแบบการขนส่งที่ยั่งยืนที่สุดมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
- Ecocem จัดการกับ "ซีเมนต์" หนึ่งในต้นตอที่ปล่อยคาร์บอนมากที่สุด ด้วยการผลิตซีเมนต์ที่ปล่อยคาร์บอนน้อยลงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
- Ocean Energy ดักจับและเปลี่ยนพลังงานคลื่นทะเลให้กลายเป็นไฟฟ้า ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานคลื่นทะเลแบบลอยน้ำกำลังการผลิตสูงสุดในโลก
นายลีโอ วารัดการ์ รองนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ และรัฐมนตรีกระทรวงวิสาหกิจ การค้า และการจ้างงาน กล่าวระหว่างการเปิดตัวแคมเปญว่า "วันเซนต์แพทริกเป็นวันที่โลกเปลี่ยนเป็นสีเขียว และเรามารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติ นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสดีที่จะได้เชิดชูนักนวัตกรรมสีเขียวของไอร์แลนด์และคุณูปการที่มีต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก"
"การเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและแยกการปล่อยคาร์บอนออกจากความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ ไอร์แลนด์ตั้งใจที่จะทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง เรามุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยคาร์บอน 7% โดยเฉลี่ยภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ทั้งนี้ แคมเปญ Ready for a Green Future ของ Enterprise Ireland ยกย่องบริษัทไอร์แลนด์ที่เป็นผู้บุกเบิกและเคลื่อนไหวก่อนใคร โดยมีความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ วันเซนต์แพทริกเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการแสดงผลงานของนักนวัตกรรมสีเขียวเหล่านี้ และคุณูปการที่มีต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก"
รับชมวิดีโอนายลีโอ วารัดการ์ รองนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ เปิดตัวแคมเปญนี้ได้ที่ https://youtu.be/Qs8AGMoB4-s
จูลี ซินนามอน ซีอีโอของ Enterprise Ireland กล่าวว่า "การสนับสนุนให้บริษัทไอร์แลนด์ลดการปล่อยคาร์บอนและคว้าโอกาสทางธุรกิจจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ Enterprise Ireland โดยในขณะที่บริษัทไอร์แลนด์กำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 เราต้องเสริมสร้างความสามารถในการฟื้นตัว ตลอดจนทำงานร่วมกับนักวิจัยและนักนวัตกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทไอร์แลนด์มีศักยภาพและความพร้อมเต็มที่ในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ทุกภาคส่วนของสังคมต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเพื่อบรรลุเป้าหมายคาร์บอนของประเทศและของสหภาพยุโรป รวมถึงตอบสนองต่อมาตรฐานใหม่ ๆ และความต้องการของผู้บริโภคและผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงไป"
"การวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะที่ทั่วโลก ทั่วสหภาพยุโรป รวมถึงไอร์แลนด์ กำลังให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้ ในวันเซนต์แพทริกปีนี้ เราจึงเชิดชูนักนวัตกรรมสีเขียวที่ยอดเยี่ยมที่สุดในไอร์แลนด์ รวมถึงผู้ที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ผู้ที่ช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การเกษตร การก่อสร้าง และการขนส่ง มีความยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงทำให้การก่อสร้างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยลง และสนับสนุนการผลิตพลังงานหมุนเวียน"
ไอร์แลนด์รั้งอันดับ 5 ในดัชนี Green Future Index ปี 2564 (จัดทำโดย MIT Technology Review) ซึ่งเป็นการจัดอันดับ 76 ประเทศในส่วนของความก้าวหน้าและความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตคาร์บอนต่ำ โดยวัดระดับการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจไปสู่สังคม เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด ผ่านการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน นวัตกรรม และการเงินสีเขียว (green finance)
10 นักนวัตกรรมสีเขียวจากไอร์แลนด์ในแคมเปญ Ready for a Green Future ประกอบด้วย
Abbey Machinery ลดการปล่อยคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีการทำฟาร์มที่ทันสมัย
Keenan ส่งเสริมการทำฟาร์มอย่างยั่งยืนด้วยเครื่องผสมและเตรียมอาหารสัตว์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
CitySwift ต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศด้วยการใช้ข้อมูลในการยกระดับระบบขนส่งสาธารณะ
Cygnum นำเสนอวิธีการสร้างบ้านด้วยโครงไม้ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน
Davra ร่วมมือกับหลายบริษัทเพื่อใช้ข้อมูลในการเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม
Ecocem ปรับปรุงและส่งเสริมการใช้ซีเมนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
GridBeyond ใช้ข้อมูลเชิงลึกด้านพลังงานเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนอย่างคุ้มค่า
Hanley Energy ส่งมอบโซลูชันพลังงานที่มีประสิทธิภาพและเฉพาะเจาะจงให้แก่อุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานมากที่สุดในโลก
Ocean Energy ดักจับและเปลี่ยนพลังงานคลื่นทะเลให้กลายเป็นไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ
XOCEAN ใช้ยานพาหนะไร้ลูกเรือและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการเก็บข้อมูลทางทะเล โดยปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าเรือทั่วไปถึง 1,000 เท่า
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Ireland: Ready for a Green Future - The Irish Advantage: https://irishadvantage.com/ireland-ready-for-a-green-future/
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
Marika MacCarvill
International PR & Communications
Enterprise Ireland
อีเมล: [email protected]
เกี่ยวกับ Enterprise Ireland
Enterprise Ireland คือหน่วยงานด้านการค้าและนวัตกรรมของรัฐบาลไอร์แลนด์ และนักลงทุนในธุรกิจร่วมลงทุน (VC) อันดับหนึ่งของโลก
Enterprise Ireland รับผิดชอบด้านการส่งเสริมการพัฒนาและการเติบโตของบริษัทไอร์แลนด์ในตลาดโลก
เราลงทุนในบริษัทไอร์แลนด์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมในทุกระยะของการเติบโต และเชื่อมโยงบริษัทเหล่านี้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก
เป้าหมายของเราคือการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวระหว่างบริษัทไอร์แลนด์กับบริษัทต่างชาติ
Enterprise Ireland มีสำนักงาน 40 สาขาทั่วโลก โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคอยให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ
ผลการจัดอันดับ Global Annual League Table ปี 2563 โดย Pitchbook ยกให้ Enterprise Ireland เป็นนักลงทุนในธุรกิจร่วมลงทุนอันดับ 1 ของยุโรปและของโลก
Pitchbook คือแพลตฟอร์มด้านการลงทุนในหุ้นนอกตลาด (Private Equity) และธุรกิจร่วมลงทุน (Venture Capital) ชั้นนำ โดยจัดอันดับนักลงทุนที่แอคทีฟที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากจำนวนดีลในธุรกิจร่วมลงทุน ในปี 2562 Pitchbook ยกให้ Enterprise Ireland เป็นอันดับ 1 ในยุโรป และอันดับ 2 ในโลก
Enterprise Ireland ลงทุนในบริษัทไอร์แลนด์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก
วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=2bfGAtoVsHI
วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=Qs8AGMoB4-s
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1455309/Enterprise_Ireland_Leo_Varadkar.jpg
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit