ไอพีโอ PACO กระแสแรง นักลงทุนแห่จองซื้อล้นๆ ผู้บริหารมั่นใจ ธุรกิจอนาคตไกล พร้อมเข้าเทรด จันทร์ 22 มี.ค. นี้

16 Mar 2021

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) ("PACO") กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ที่ให้การตอบรับจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทและศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ โดยหุ้นไอพีโอของ PACO ได้จำหน่ายให้กับนักลงทุน กลุ่มผู้มีอุปการคุณของบริษัท และกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ

ไอพีโอ PACO กระแสแรง นักลงทุนแห่จองซื้อล้นๆ ผู้บริหารมั่นใจ ธุรกิจอนาคตไกล พร้อมเข้าเทรด จันทร์ 22 มี.ค. นี้

บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์หลักจะนำเงินจากการเพิ่มทุน เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการจำนวน 108 ล้านบาท ใช้ลงทุนในโครงการอนาคต 2 โครงการ จำนวน 40 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.)โครงการก่อสร้างคลังสินค้าและย้ายจุดกระจายสินค้าในประเทศจำนวน 20 ล้านบาท และ 2.)จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าและขยายตลาดในประเทศมาเลเซียจำนวน 20 ล้านบาท นอกจากนี้ จะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินจำนวน 200 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย

นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย หุ้นไอพีโอ ของ บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO เปิดเผยว่า "หุ้นไอพีโอ PACO ได้รับความสนใจในการจองซื้ออย่างสูงจากกลุ่มนักลงทุน เนื่องจาก บริษัทฯ มีจุดแข็งด้านการเป็นผู้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ระดับนานาชาติ และ มีรายได้ที่มีความมั่นคงสูง ไม่แปรผันตามสภาวะเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นไอพีโอ จำนวน 260 ล้านหุ้น หรือ 26% ของทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ที่ราคา 1.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าการระดมทุนประมาณ 364 ล้านบาท โดยภายหลังการระดมทุนครั้งนี้ กลุ่มครอบครัวคุณสมชาย เลิศขจรกิตติจะถือหุ้นในสัดส่วน 44.4% กลุ่มครอบครัวคุณสมศักดิ์ เลิศขจรกิตติจะถือในสัดส่วน 29.6% และเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 26% และมีกำหนดการจะเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 22 มีนาคม 2564 นี้

PACO เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์ในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทน (REM หรือ Aftermarket) ระดับนานาชาติ ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอะไหล่รถยนต์ทั่วโลก และ PACO มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิระดับสูง โดยในปี 2563 PACO มีกำไรสุทธิเท่ากับ 76.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 46.19 ล้านบาท คิดเป็น 150.63% เมื่อเทียบกับปี 2562 เนื่องจาก PACO ได้นำเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาติดตั้งและดำเนินการได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดการปรับกระบวนการทำงานในการผลิตเพื่อควบคุมการใช้แรงงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถลดต้นทุนค่าแรงและค่าล่วงเวลาได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ หุ้นไอพีโอของ PACO ที่ 1.40 บาท ต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับ P/E ของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย โดยกลุ่มนักวิเคราะห์คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจทั่วโลกและเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคง และมีจุดแข็งด้านการผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับสูง มีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง รองรับรถยนต์และรถบรรทุกทุกประเภท โดยการระดมทุนครั้งนี้ นอกจากเพื่อคืนหนี้สถาบันการเงินแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการขยายกิจการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACO มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ก่อตั้งมาแล้วกว่า 30 ปี เป็น 1 ในผู้บุกเบิกการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ของไทย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อะไหล่แอร์รถยนต์แบบครบวงจร และจำหน่ายสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ เอเชียและออสเตรเลีย โดยบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น ครอบคลุมทั้งรถยนต์ทุกสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน โดยมีสินค้ารวมมากถึง 2,600 รุ่นซึ่งครอบคลุมเกือบทุกรุ่นของคอยล์ร้อนและคอยล์เย็นทั่วโลก โดยบริษัทฯ มีโรงงานผลิต 3 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015