บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) สุดปลื้มผลโรดโชว์หาดใหญ่-กทม. ประสบความสำเร็จ นักลงทุนตบเท้าเข้าฟังข้อมูลท่วมท้น แสดงถึงความสนใจ และเชื่อมั่นในธุรกิจของ KKที่มีแนวโน้มเติบโตมั่นคง ด้าน“กวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล” มั่นใจช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอและวันเข้าเทรดจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ระบุหลังเข้าตลาด mai ธุรกิจจะขยายตัวได้อีกมากจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ดันรายได้และกำไรเติบโตแข็งแกร่ง ขณะที่บล.เคทีบี(ประเทศไทย) เผย ผลจากการโรดโชว์ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อ KK มากยิ่งขึ้น เพราะมองเห็นศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ – ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) เปิดเผยถึงผลการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนที่หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ ในช่วงที่ผ่านมาปรากฎว่า ผลการตอบรับจากนักลงทุนออกมาดีมาก โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นผลมาจาก KK เป็นเบอร์ 1ในบริษัทชั้นนำที่ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านร้านสาขา "เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์" ที่มีจำนวน 28 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล รวมถึงบริษัทมีศูนย์กระจายสินค้าสินค้าจำนวน 1 แห่งที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคต ยังสามารถเติบโตต่อไปได้อีกมาก ตามความต้องการใช้สินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่ และการเพิ่มจำนวนสาขาตามแผน ซึ่งเชื่อว่า ผลจากการทำโรดโชว์จะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลการประกอบธุรกิจและข้อมูลฐานะการเงินของบริษัทฯ อย่างครบถ้วน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่มีต่อ KK มากยิ่งขึ้น และทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อเปิดให้จองซื้อหุ้นจะมีนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นอย่างคึกคัก
ด้านนายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) กล่าวถึงผลการโรดโชว์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนโดยเข้าร่วมรับฟังข้อมูลอย่างคึกคัก สะท้อนว่านักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ อีกทั้งเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ และมองเห็นถึงศักยภาพของบริษัทที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต และยิ่งเมื่อเข้าเป็นบริษัทมหาชนในตลาด mai แล้วจะทำให้ธุรกิจของบริษัทขยายตัวได้อีกจากแผนการขยายสาขาประมาณ 3-4 สาขาต่อปี ซึ่งจะผลักดันให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มั่นใจว่าในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอกระแสการตอบรับจากนักลงทุนจะเป็นไปอย่างคึกคักเช่นกัน
“ผลจากการโรดโชว์ต่อนักลงทุนที่หาดใหญ่และกรุงเทพฯ ถือว่าประสบความสำเร็จเพราะกระแสการตอบรับจากนักลงทุนถือว่าดีมาก โดยให้ความสนใจสอบถามข้อมูลในด้านต่างๆ ของ KK อย่างละเอียด ทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจของ KK และมีความเชื่อมั่นต่ออนาคตของบริษัทมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มั่นใจว่าในวันที่เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน”นายกวิศพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของบริษัท เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยปี 2560 -2562 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 937.90 ล้านบาท 948.49 ล้านบาท และ 935.98 ล้านบาท ตามลำดับ และบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.90 ล้านบาท 16.26 ล้านบาท และ 11.53 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 484.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 6.77 ล้านบาท แม้ในช่วงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ ยังคงมีอัตราการเติบโตของรายได้สาขาเดิม (Same store sales growth) เท่ากับ 4.02%
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 115 ล้านบาท และมีทุนเรียกชำระแล้ว 80.50 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทต่อประชาชนทั่วไปในครั้งนี้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 69 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปใช้ในการขยายสาขาเคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit