หลังจากที่ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่น ได้เปิดตัวนิตยสาร LifeWear (ไลฟ์แวร์) หรือ LifeWear Magazine ฉบับที่ 3 ในคอนเซ็ปต์ “Our Tomorrow: พรุ่งนี้เป็นวันของเรา” ให้ผู้สนใจหยิบอ่านกันได้ฟรีที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาและทางเว็บไซต์ ด้วยเนื้อหาที่ตั้งคำถามชวนคิดถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นกับโลก พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตเพื่อสร้างสรรค์วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า โดยมีคนดังจากหลายวงการ อาทิ ม.ล. ดิศปนัดดา ดิศกุล, นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ และกมลนาถ องค์วรรณดี มาร่วมสะท้อนมุมมองในการก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนซึ่งเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง รวมถึงนักแสดงแถวหน้าของไทยอย่าง ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์
นิตยสาร LifeWear เกิดจากความตั้งใจของยูนิโคล่ที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้คน ซึ่งเนื้อหาในเล่มสอดคล้องกับปรัชญา LifeWear ที่ยูนิโคล่ยึดมั่นในการรังสรรค์เสื้อผ้าให้มีคุณภาพสูง พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนที่ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในปีนี้ที่สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ทุกคนต่างหันมาทบทวนตัวเองมากขึ้น ซึ่งนิตยสาร LifeWear ฉบับที่ 3 ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2020 ได้รวบรวมความคิดของผู้คนที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ พร้อมสอดแทรกเนื้อหาสำคัญที่คนทั่วโลกให้ความสนใจอย่าง “ความยั่งยืน”
โดย ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์ นักแสดงสาวชื่อดัง ได้มาร่วมแบ่งปันมุมมองในงานเปิดตัวนิตยสาร LifeWear ฉบับที่ 3 ว่าทุกคนมีพลังในการเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นได้ “ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปีนี้ทำให้ญาญ่าปลูกต้นไม้ในบ้านมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับตัวเองในช่วงที่ต้องอยู่บ้านตลอดทั้งวัน และในช่วงที่ได้กลับมาทำงานข้างนอกอีกครั้ง ญาญ่ารู้สึกว่าไลฟ์สไตล์ตัวเองเปลี่ยนไป เพราะเราต้องคิดมากขึ้นก่อนที่จะทำอะไร ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น คิดถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างการเลือกซื้อเสื้อผ้าก็พยายามมองหาแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ถ้าแต่ละคนช่วยกัน ร่วมแรงร่วมใจ ญาญ่าเชื่อว่าเราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอนค่ะ”
ด้านคนรุ่นใหม่อย่าง นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการและบรรณาธิการบริหารสำนักข่าวออนไลน์ มองว่าโรคโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเริ่มต้นใหม่ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่มีความยืดหยุ่นขึ้นและพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น นอกจากนั้น ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปซึ่งทำให้ผู้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น แต่ละคนจึงมีโอกาสได้ทบทวนตัวเอง สิ่งรอบตัวมากขึ้นว่าแต่ละการกระทำจะส่งผลกระทบอะไรต่อโลกใบนี้หรือไม่ รวมถึงได้ทบทวนความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวอีกด้วย “ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ดีในการเปลี่ยนความคิด เพราะเรื่องของความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่ 'มีก็ดี’ แต่เป็นสิ่งที่ 'ต้องมี’ เพื่อที่คนรุ่นหลังจะได้อยู่กับโลกที่ดีต่อไป ซึ่งตอนนี้หลายแบรนด์ก็หันมาสนใจด้านความยั่งยืนแล้ว ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่หลายภาคส่วนร่วมใจกัน”
ม.ล. ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ให้ข้อมูลเสริมว่า “ปัจจุบันมนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินขีดที่จะฟื้นตัวไปแล้ว และกำลังใช้ทรัพยากรของลูกหลานในอนาคตอยู่ ดังนั้นเราจึงควรร่วมกันปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการใช้ทรัพยากร โดยต้องนึกถึงคนรุ่นหลังมากขึ้น หาสมดุลระหว่างตัวเองและธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่หลายแบรนด์ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อย่างยูนิโคล่ก็ได้ศึกษาและทำกิจกรรมด้านความยั่งยืนมาอย่างยาวนาน พอไลฟ์สไตล์ผู้คนเกิดการเปลี่ยนแปลง แบรนด์ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทันที”
เมื่อโลกเปลี่ยนไป วงการแฟชั่นและเสื้อผ้าก็ต้องปรับตัวเช่นกัน กมลนาถ องค์วรรณดี นักออกแบบรุ่นใหม่สายแฟชั่นเพื่อความยั่งยืน ให้ความเห็นว่า การเกิดโรคระบาดในปีนี้ถือเป็น 'Wakeup call’ ที่ปลุกให้ทุกคนตื่นและหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยปัจจุบันวงการแฟชั่นมีการปรับตัวอย่างมาก ผู้บริโภคต่างตั้งคำถามถึงสิ่งที่จำเป็นในชีวิต และใส่ใจถึงกระบวนการการผลิตมากขึ้นก่อนซื้อเสื้อผ้า ซึ่งวิธีคิดง่ายๆ เพื่อโลกก็คือลองเชื่อมโยงว่าสิ่งไหนที่ดีกับเรา สิ่งนั้นก็จะดีกับโลกด้วย เช่น เสื้อผ้าที่ผลิตมาโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมก็จะทำให้เรารู้สึกดี มีพลัง เพราะมั่นใจว่าสิ่งที่ใส่นั้นผลิตมาด้วยวิธีการที่ดี”
ทางด้านของยูนิโคล่ ซึ่งให้ความสำคัญกับการทำเสื้อผ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน และใส่ใจกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนมาเป็นเวลานานถือเป็นอีกแบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอด โดยได้ค้นคว้าและสร้างสรรค์สินค้ามากมายที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ เพื่อทำให้ชีวิตของผู้สวมใส่ดีขึ้น ไปพร้อมกับรังสรรค์โลกให้ยั่งยืน
คุณเขมจิรา เทศประทีป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยูนิโคล่ตระหนักดีถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จึงพยายามปรับตัวและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คน เช่น AIRism Mask หน้ากากผ้าใส่สบายที่ทำออกมาในช่วงที่เราต้องใส่หน้ากากออกจากบ้านกันมากขึ้น นอกจากนั้น เรายังมองไปถึงอนาคตและมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใส่ใจกับความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคม เห็นได้จากสินค้าของเรา เช่น เสื้อโปโล DRY-EX (ดรายเอ็กซ์) ที่ผลิตจากขวด PET รีไซเคิล ซึ่งระบายเหงื่อได้ดี แห้งเร็ว เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย และยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างดี รวมถึงเสื้อกันหนาวผ้า Fleece (ฟลีซ) ที่ทำจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล และเสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ขนเป็ดรีไซเคิล ซึ่งทั้งหมดนี้ตอกย้ำปรัชญา LifeWear และพันธกิจของเราในการสร้างความยั่งยืนได้เป็นอย่างดี”
สามารถอ่านนิตยสาร LifeWear เวอร์ชั่นออนไลน์ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการทำวันพรุ่งนี้ให้ดียิ่งขึ้นได้ที่: https://www.uniqlo.com/th/th/lifewear-magazine/ หรือสามารถหยิบได้ฟรีที่ยูนิโคล่ทุกสาขาทั่วประเทศ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit