GBS จับตาการเมืองในประเทศกดดัชนี 1,230-1,270 จุด แนะลงทุนหุ้นผลประกอบการ Q3/20โตต่อเนื่อง

06 Oct 2020

บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินดัชนีหุ้นไทยแกว่งผันผวนต่อเนื่อง จับตาการประชุมสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่จะมีการประชุม ครม. วันนี้(6 ต.ค.) และก.คลัง เตรียมชง ศบศ.นำโครงการ “ชิมช้อปใช้-ช้อปช่วยชาติ” กลับมากระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนอีกครั้ง จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวดัชนี 1,230-1,270 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ Q3/20 เติบโตต่อเนื่อง ชู WICE – XO – TACC - SPVI น่าลงทุน

GBS จับตาการเมืองในประเทศกดดัชนี 1,230-1,270 จุด แนะลงทุนหุ้นผลประกอบการ Q3/20โตต่อเนื่อง

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังมีความผันผวนสูง โดยคาดว่าดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,230-1,270 จุด โดยมีประเด็นกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ยังคงกดดันความเชื่อมั่น

สำหรับปัจจัยที่น่าจับตา อาทิ การประชุมครม.ในวันนี้ (6 ต.ค.) อีกทั้งสภาผู้ส่งออกแถลงสถานการณ์การส่งออก และสหรัฐเปิดเผยดุลการค้าเดือนส.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน เดือนส.ค. ส่วนวันที่ 7 ต.ค. ทางคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ธปท.เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ และสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ อีกทั้งคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

อีกทั้งในวันที่ 8 ต.ค. นี้จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของวันที่ 15-16 ก.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้งญี่ปุ่นจะเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดของเดือนส.ค. และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สุดท้ายวันที่ 9 ต.ค. จีน เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย. และสหรัฐจะทำการเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค. อีกด้วย รวมทั้งความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วยของประธานาธิบดีทรัมป์ และการดีเบตรอบสองในวันที่ 15 ต.ค.

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มว่า สำหรับปัจจัยเชิงบวก อาทิ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ศบศ.นำโครงการ “ชิมช้อปใช้-ช้อปช่วยชาติ” กลับมากระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน และการรายงานการรักษาของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ มีอาการดีขึ้นหลังจากเข้ารับการรักษาอาการป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว อีกทั้งทางสหรัฐจะมีการเปิดเผยอัตราการว่างงานของสหรัฐในเดือนก.ย. ลดลงสู่ระดับ 7.9% ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 8.2% หลังจาก แตะระดับ 8.4% ในเดือนส.ค. อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จากธนาคารเครดิต สวิส แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นและพันธบัตรในตลาดเอเชีย เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ราคาหุ้นในตลาดเอเชียยังถูกกว่าในตลาดสหรัฐ ยังไม่โดดเด่นที่จะสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนได้มากพอ

ดังนั้นประเมินกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2563 เติบโตต่อเนื่อง ได้แก่ WICE, XO, TACC และ SPVI รวมทั้งหุ้นเด่นจากผลสำรวจของ IAA ที่มีสำนักวิจัยแนะนำตรงกัน 4 แห่งขึ้นไป ได้แก่ ADVANC, BDMS, CPALL และ HANA
ส่วนภาพรวมของการลงทุนในทองคำนั้น นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,850-1,930 $/Oz หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 27,600-28,910 บาทต่อบาททองคำ โดยให้หาจังหวะขายในกรอบ 1,920-1,930$/Oz

HTML::image(