แม้ในช่วงที่ผ่านมาทุกภาคส่วนจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 กันถ้วนหน้า หลายกิจการยอมยกธงเลิกกิจการขณะที่อีกหลายกิจการยังฮึดสู้ ตั้งสติ ปรับกลยุทธ์ พลิกมุมคิด จนพบทางออกแล้วเดินหน้าต่อ เช่นเดียวกับ “Meet Fresh” (มีตเฟรช) แบรนด์ขนมไต้หวันแท้ดั้งเดิม ซึ่งดำเนินกิจการในรูปแบบ Master Franchise มีกว่า 800 สาขาทั่วโลก และเพิ่งเปิดตัวสาขาแรกในประเทศไทย ที่ชั้น B ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ผ่านไปเพียงไม่กี่วันก็เจอวิกฤติโควิด-19 (COVID-19) จนรัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งปิดหลายสถานที่รวมถึงศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ทำให้ร้านต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นเดลิเวอรี่ และเมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติ ด้วยความเชื่อมั่นในแบรนด์ และแฟนพันธุ์แท้เหนียวแน่น จึงกล้าที่จะลงทุนสวนกระแส เดินหน้าเปิดครัวกลางและสาขาที่ 2
นิธิวดี อนันตโท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทวานีช ดีเสิร์ท จำกัด เผยว่า หลังการเปิดตัวแบรนด์“Meet Fresh” (มีตเฟรช) มีการตอบรับที่ดีมาก แต่ผ่านไปเพียง 10 กว่าวัน ทั้งศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า ถูกสั่งปิดตามมาตรการของรัฐบาล ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจะคาดเดา ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ สิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ คิดหาวิธีแก้ไขเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ซึ่งไม่ใช้แต่เราแต่ยังมีพนักงานอีกหลายชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ ต้องประคับประคองกันไป ด้วยสัญชาตญาณและประสบการณ์ กว่า 15 ปี ในการบริหารธุรกิจผ่านมาหลายรูปแบบ ที่ดึงมาใช้กู้วิกฤติครั้งนี้ว่าจะต้องทำอย่างไรในการเดินต่อไป แม้ว่าลูกค้าไม่สามารถมานั่งรับประทานที่ร้านได้ พร้อมกับการที่ต้องปรับตัวให้ได้กับทุกสถานการณ์ แน่นอนว่าพนักงานและลูกค้า คือ หัวใจสำคัญ สิ่งที่เราคิด และทำคือยังคงจ่ายเงินเดือนลูกน้องครบเหมือนเดิม จากนั้นพยายามหาช่องทางที่จะเข้าถึงแฟนของ “Meet Fresh” (มีตเฟรช) ซึ่งโชคดีที่แบรนด์มีฐานแฟนคลับแน่นหนาและเหนียวแน่นอยู่แล้ว กลายเป็นว่ามีการบอกต่อ ซึ่งต้องขอบคุณลูกค้าที่รักในแบรนด์ “Meet Fresh” (มีตเฟรช) อย่างเหนียวแน่นไม่แปรเปลี่ยน
“สิ่งที่เราคิดอยู่เสมอ คือ การมีพนักงานที่ดี เป็นทรัพยากรณ์ที่มีค่ามากในธุรกิจ เราจึงตัดสินใจสร้างครัวกลางขึ้นนอกศูนย์การค้าฯ เพื่อให้พนักงานของเราได้มีงานทำ และลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่ายไปกับการเช่าพื้นที่ ซึ่งมีเรทที่สูงกว่า อีกทั้งการมีครัวกลางยังรองรับแผนการขยายสาขาต่อๆ ไป ของเราในระยะยาวได้อีกด้วย และเราได้ปรับแผนการจำหน่ายเป็นเดลิเวอรี่ โดยมอบหมายให้พนักงานในร้านที่มีมอเตอร์ไซค์
ผันตัวเองจากพนักงานหน้าร้าน ไปช่วยส่งขนมเลยทันที และสั่งผลิตถุงเก็บความเย็น และอีกหลายสิ่งเพื่อให้รองรับกับการจัดส่งขนมถึงมือลูกค้าโดยรักษาคุณภาพและรสชาติไว้คงเดิม”
วิกฤติการณ์ที่ผ่านมา นับเป็นเรื่องที่ท้าทาย เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ทุกสถานที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดบริการตามปกติ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะพบอุปสรรค แต่ “Meet Fresh” (มีตเฟรช) ก็ประคับประคองธุรกิจ ฝ่าวิกฤติพ้นผ่านมาได้ด้วยดี จึงเดินหน้าเปิดเป็นครัวกลางเพิ่มเป็นแห่งที่ 2 และเป็นอีกหนึ่งสาขา
“เข้าใจว่า นาทีนี้คงไม่มีนักลงทุนคนไหนจะยอมควักกระเป๋าลงทุนเพิ่ม ประกอบกับจังหวะและเวลา ของ Meet Fresh ที่เปิดตัวในไทยครั้งแรกในช่วงเดือนมีนาคมนับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด วิกฤติโควิด 19 เป็นสิ่งเหนือการควบคุม และยากต่อการคาดการณ์ แต่ Meet Fresh เป็นแบรนด์ที่แข็งแรง เป็นที่รู้จัก และมีการตอบรับดีมาก แม้จะเผชิญสถานการณ์อันยากลำบากแต่ก็ผ่านมาได้ ทำให้เราเชื่อมั่น และพร้อมจะขยายสาขาที่ 2 ซึ่งมีรูปแบบเป็นทั้งครัวกลาง และสาขา Stand alone เหตุที่เราเลือกทำเลในย่านถนนจันทน์ สาทร เพราะอยู่ใจกลางเมือง ง่ายต่อการขนส่งไปยังสาขาต่างๆ ที่จะเปิดเพิ่มเติมต่อไปในอนาคต ทั้งยังเชื่อมั่นว่า ในย่านถนนจันทน์นี้ มีฐานลูกค้าที่ชื่นชอบ Meet Fresh อยู่มาก น่าจะครองใจลูกค้าในเขตนี้ได้ไม่ยาก” นิธิวดี กล่าว
“Meet Fresh” (มีตเฟรช) พร้อมเสิร์ฟขนมสุดอร่อยเติมความสดชื่น ดีต่อสุขภาพ เสริมภูมิต้านทาน พบกันที่ ชั้น B ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เปิดบริการทุกวัน เวลา 10:00-22:00 น. และสาขาใหม่ล่าสุด “Meet Fresh” (มีตเฟรช) ปากซอยจันทน์ 26 ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ ถนนจันทน์ สาทร
เกี่ยวกับ “Meet Fresh” (มีตเฟรช)
ย้อนไปเมื่อ ค.ศ. 2007 “Meet Fresh” (มีตเฟรช) ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยสองพี่น้องตระกูล Fu ณ เมืองไทจง (Taichung) ประเทศไต้หวัน ผู้สร้างสรรค์ขนมไต้หวันสูตรพื้นบ้าน ตามตำรับดั้งเดิม ที่มีความละเมียดละไม พิถีพิถันทุกขั้นตอนทั้งการคัดสรรวัตถิบ กรรมวิธีการผลิต การปรุงแต่งและรักษารสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จนออกมาเป็นทาโร่บอลหนุบหนับ เฉาก๊วยนุ่มละมุน เต้าฮวยรสออริจินัล และขนมหวานอื่นๆ ที่ดีต่อสุขภาพ กว่า 50 เมนู
“Meet Fresh” (มีตเฟรช) ได้รับความนิยมสูงในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ และการันตีด้วยจำนวนสาขาที่มีอยู่ทั่วโลก กว่า 800 สาขา ไม่ว่าจะเป็น ไต้หวัน, จีน, ญี่ปุ่น, เวียตนาม, ฟิลิปปินส์, ฮ่องกง, แคนาดา, นิวซีแลนด์, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, อังกฤษ และล่าสุดที่ประเทศไทย
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit