ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินโครงการ Care the Bear “Change the Climate Change” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ร่วมกับพันธมิตร 50 องค์กร ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว 7,712 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ใหญ่ 856,904 ต้น พร้อมพัฒนาเครื่องมือวัดเป็น Digital Eco Calculator Kit สะดวกใช้งานง่าย และเตรียมขยายสู่ องค์กรธุรกิจ สถาบันการศึกษา และชุมชน ให้มีการจัดการแบบคาร์บอนต่ำ หวังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้มีส่วนช่วยลดโลกร้อน
นางสาวนพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานสื่อสารองค์กรและพัฒนาเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ริเริ่มโครงการ Care the Bear ภายใต้แนวคิด “Change the Climate Change” ตั้งแต่ปี 2561 โดยร่วมกับพันธมิตร ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และธุรกิจเพื่อสังคม ช่วยกันขับเคลื่อนการลดภาวะโลกร้อนด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยใช้หลักการ 6 Cares มุ่งเปลี่ยนแปลงในมิติของผู้บริโภคให้มีส่วนช่วยลดโลกร้อน ซึ่งสอดคล้องกับ Sustainable Development Goals (SDGs) ข้อที่ 13 “Climate Action”
หลักการ 6 Cares ภายใต้โครงการ Care the Bear ถือเป็นคู่มือในการสร้างพฤติกรรมร่วมลดโลกร้อนใน 6 ด้าน ได้แก่ การรณรงค์เดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าหรือรถสาธารณะ การลดการใช้กระดาษและพลาสติก การงดใช้โฟม การลดการใช้พลังงานจากอุปกรณ์ไฟฟ้า การลดการใช้อุปกรณ์ตกแต่งในงาน และรณรงค์ให้ทานอาหารให้หมด ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นโครงการเดือน มิ.ย. 2561 – มิ.ย. 2563 มีพันธมิตร 50 องค์กร และได้ร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว 7,712 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ใหญ่ (อายุ 10 ปี) จำนวน 856,904 ต้น โดยมีองค์กรภาคีหลัก คือ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และพันธมิตรอื่นร่วมขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจดทะเบียน บริษัทจำกัด หน่วยงานภาครัฐ สมาคม สถาบันการศึกษา โรงแรม สถานที่จัดการประชุม และกิจการเพื่อสังคม
โครงการ Care the Bear จะเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยสร้างจิตสำนึก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของสมาชิกในองค์กร หรือชุมชน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยผลที่ได้จากการคำนวณการลดก๊าซเรือนกระจกนี้สามารถเปิดเผยในรายงานประจำปี และรายงานความยั่งยืนขององค์กรได้ ซึ่งหลักการคำนวณการลดก๊าซเรือนกระจกเป็นไปตามมาตรฐานองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
“จากหลักการที่ว่า หากเราสามารถวัด หรือมีเครื่องมือวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ เราจะรู้ว่าเราควรวางแผนหรือกำหนดกลยุทธ์การบริหารจัดการ ออกแบบกิจกรรม หรือกระบวนการทำงานแต่ละโครงการต่างๆ อย่างไรให้มีรูปแบบที่ลดการทำให้โลกร้อน” และเพื่อให้การใช้งานได้ง่ายขึ้น ปีนี้โครงการ Care the Bear ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 3 ได้พัฒนาเครื่องมือคำนวณค่าการลดก๊าซเรือนกระจกบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม Digital Eco Calculator Kit ซึ่งสะดวก ใช้งานง่าย สามารถดาวน์โหลดข้อมูลย้อนหลังมาจัดทำเป็นรายงานต่างๆ ได้อย่างง่าย นอกจากนี้ ยังนำเสนอความรู้เกี่ยวกับหลักการ 6 Cares และเทคนิคการลดโลกร้อนในรูปแบบบทความ อินโฟกราฟิก และคลิปวิดีโอ อีกด้วย
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน บนหลักการ Triple Bottom Line (People-Planet-Profit) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสิ่งแวดล้อม โดยขับเคลื่อนการทำงานผ่าน SET Social Impact Platform ทั้งนี้ เป็นทั้งการขับเคลื่อนร่วมกับธุรกิจเพื่อสังคม (social enterprise) ที่แก้ไขปัญหาสังคมในหลากมิติ หลายประเด็น และการริเริ่มโครงการร่วมกับพันธมิตรอื่นๆ ในเรื่องสิ่งแวดล้อม (Climate Action) ภายใต้แนวคิดหลัก “ร่วมดูแล (Care) ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลง (Change)” ทั้งนี้ เครื่องมือ Digital Eco Calculator Kit นี้ จะช่วยขยายโครงการให้เกิดความมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อน หรือเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ให้แพร่หลายมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งหวังให้ “วิถี” หรือการมีไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจในเรื่องดังกล่าว เป็นค่านิยมของสังคมไทย โดยในปี 2563 จะมีการขยายผลการใช้เครื่องมือนี้ไปยังชุมชน ที่มีการจัดการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism) รวมถึงบริษัทและสถานศึกษาต่างๆ” นางสาวนพเก้ากล่าวเพิ่มเติม
องค์กรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Care the Bear สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.setsocialimpact.com หรือ Facebook: SET Social Impact หรือสอบถามเพิ่มเติม SET Contact Center 0 2009 9999
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit