สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจับมืออินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ

31 Aug 2020

ภาครัฐร่วมเอกชนเปิดทางออกธุรกิจช่วยผู้ประกอบการไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ล่าสุด สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วม อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ มีตแอนด์แมทซ์ วันที่ 9 - 10 กันยายนนี้ เป็นตัวช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสินค้าพบคู่ค้า ผู้ผลิต และจัดจำหน่าย พร้อมใช้ช่องทางออนไลน์นัดประชุม พูดคุย เจรจาธุรกิจคู่ค้าต่างประเทศได้

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจับมืออินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ กล่าวถึงความร่วมมือในการจัดงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ มีตแอนด์แมทซ์ (Food & Hotel Thailand Meet & Match : FHT Meet & Match) กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งจะจัดในระหว่างวันที่ 9-10 กันยายน 2563 นี้ว่างานดังกล่าวเกิดขึ้นจากการพูดคุยกับ 2 หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และผู้ร่วมจัดแสดงงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ บางส่วน ถึงความร่วมมือและการช่วยเหลือผู้ผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป ผู้ประกอบการขนาดเล็กในกลุ่มอาหารสำเร็จรูป รวมถึงกลุ่มผู้ผลิตสินค้าและซอฟแวร์สำหรับร้านอาหารและโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ในขณะนี้  ทำให้ประสบปัญหาในการเสนอขายสินค้าให้กับผู้ผลิตและจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นการหาทางออกให้แก่ผู้ประกอบการทุกฝ่ายจึงเห็นพ้องในการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจร่วมกัน

โดยทุกฝ่ายที่ร่วมจัดกิจกรรมจะทำการคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจำนวนกว่า 50 ราย อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป น้ำผลไม้พร้อมดื่ม อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว อุปกรณ์และซอฟแวร์สำหรับร้านอาหารและโรงแรม ฯลฯ มาจัดแสดงสินค้าในวันที่ 9 – 10 กันยายน 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ เพื่อพบปะกับนักธุรกิจ นักลงทุน ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้สนใจที่มีศักยภาพทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 200 ราย จากกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ยังมีความต้องการสินค้าอยู่ พร้อมกันนี้ภายในงานจะมีการเปิดใช้ระบบออนไลน์ในการนัดเพื่อพบปะ พูดคุย และเจรจากับนักธุรกิจและผู้สนใจจากต่างประเทศที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาร่วมงานด้วยได้ ทำให้การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นไปในรูปแบบของงานเจรจาธุรกิจแบบไฮบริด (Hybrid Event) โดยจัดแสดงสินค้าแบบออนไลน์ เน้นรูปแบบการจัดงานที่พร้อมอำนวยความสะดวก ให้กับกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศที่ไม่สามารถเดิน

ทางเข้าไทย สามารถเข้าเจรจาธุรกิจออนไลน์ได้ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ผสมผสานเข้ากับรูปแบบการจัดงานแบบทั่วไป

ด้านนางสาวไปยดา หาญชัยสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นไปตามการดำเนินงานของโครงการพัฒนาตลาดเชิงรุกสำหรับเอสเอ็มอี (SMEs) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเสนอขายและส่งออกสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้แผนการดำเนินงานบางส่วนจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีโอกาสในการพูดคุย เจรจาธุรกิจ และเสนอขายสินค้าให้แก่ผู้สนใจจากต่างประเทศ จึงได้เกิดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ มีตแอนด์แมทซ์ นี้ขึ้น ซึ่งการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์กับคู่ค้าต่างประเทศนับเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้ โดย สสว. จะนำกลุ่มสินค้าเข้าร่วมกิจกรรม 4 กลุ่มด้วยกัน ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าประเภทอาหาร (ขนมขบเคี้ยวและเกษตรแปรรูป) กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม กลุ่มสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และกลุ่มสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งตลาดยังมีความต้องการสินค้าในกลุ่มนี้อยู่

ส่วน นางสาวหนึ่งหทัย ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า งานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ มีตแอนด์แมทซ์ เป็นงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจที่จัดขึ้นภายใต้การควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่สามารถสร้างโอกาสให้กับภาคการผลิตและบริการด้านอาหารของหน่วยงานต่างๆของไทย ให้มีโอกาสเชื่อมโยงการค้าในรูปแบบออนไลน์ (Online) และ ออฟไลน์ (Offline) กับทั้งในและต่างประเทศ โดยในการเข้าร่วมงานฯ ครั้งนี้ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์แปรรูปผลไม้ที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานของสมาชิกคลัสเตอร์ผลไม้แปรรูปภาคตะวันออก จำนวน 11 กิจการ เพื่อเข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน

ภายในงานฯ นอกจากกิจกรรมหลักซึ่งเป็นการจัดแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจแล้ว ยังมีกิจกรรมย่อยและการสัมมนาที่น่าสนใจจากหลายหน่วยงาน อาทิ

  • การจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจากผู้ประกอบการไทย
  • การสัมมนา หัวข้อ นักท่องเที่ยวไทยต้องแบบนี้สิโดนใจ: เปิดหมดเปลือกกลเม็ดมัดใจ สร้างความสำเร็จกับการเจาะตลาดคนไทยตั้งแต่การบริการจนถึงการทำการตลาด จาก สมาคมโรงแรมไทย
  • การสัมมนา หัวข้อ บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับการขนส่ง : แนวโน้มและประโยชน์ของการใช้งาน (Food Packaging for Delivery : Trends and Application) จาก ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
  • การสัมมนา หัวข้อ การยกระดับความมั่นใจในคุณภาพอาหารสำหรับธุรกิจโรงแรม ให้เป็นไปตามชีวิตวิถีใหม่ (Confidence enhancement of hotel food quality in accordance with the new normal) จาก ศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
  • การสัมมนา หัวข้อ ทิศทางกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยหลังยุคโควิด-19 จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป (What Next? Navigating Thailand FMCG post COVID-19) จากกันตาร์, เวิล์ดพาแนล ดิวิชั่น (Kantar, Worldpanel Division)

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและการเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจได้ที่ น.ส. สุภาภรณ์ อังศรีสุรพร อีเมลล์ [email protected]