“สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์” คาดครึ่งปีหลังโตแรงทำนิวไฮใหม่ หลังบุ๊คงบเออีซีฯ - ดัน Backlog แตะ 5 พันล้านบาทในสิ้นปีนี้

27 Aug 2020

กลุ่ม STI ประเมินครึ่งปีหลังผลประกอบการยังร้อนแรงต่อเนื่อง หลังไตรมาส 2/63 ที่ผ่านมากำไรทุบนิวไฮ พุ่ง 85.7% อยู่ที่ 41.6 ล้านบาท รายได้โต 133.5% อยู่ที่ 401.9 ล้านบาท คาดสิ้นปี Backlog ใกล้แตะ 5,000 ล้านบาท วางเป้ารายได้ปี 63 ทะยานโตเท่าตัว สูงกว่าเป้าหมาย รับปัจจัยบวกจากการควบรวม AEC สำเร็จ และความสามารถในการคุมงามดีเยี่ยม โดยเตรียมประกาศข่าวดีได้รับงานใหม่เพิ่มเติมเร็วๆ นี้

“สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์” คาดครึ่งปีหลังโตแรงทำนิวไฮใหม่  หลังบุ๊คงบเออีซีฯ - ดัน Backlog แตะ 5 พันล้านบาทในสิ้นปีนี้

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เปิดเผยถึง ภาพรวมผลประกอบการครึ่งปีหลังนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก รับแผนการเข้าลงทุนในบริษัท เอเชียน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) แล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2563 เป็นต้นมา เพิ่มความแข็งแกร่งให้ STI มีการรับรู้รายได้และกำไรเข้ามาเต็มที่ในช่วงครึ่งปีหลังให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ ในงบการรวมไตรมาส 2/2563 รับรู้รายได้ของ AEC เข้ามาเพียงแค่ 2 เดือน และสามารถบันทึกสถิติกำไรรายไตรมาสสูงสุดใหม่ของบริษัทฯ สะท้อนแผนการต่อยอดธุรกิจได้ตามกลยุทธ์ที่วางไว้

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งงานภาครัฐบาลและเอกชน โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ AEC จะเป็นโอกาสในการต่อยอดงานในมือ (Backlog) และการรับรู้รายได้ที่มั่นคงระยะยาวมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน กลุ่ม STI มี Backlog รวมกว่า 4,605 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 4-5 ปีจากนี้ และปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญางานใหม่เพิ่มเติมอีกประมาณ 6-7 โครงการ คาดส่งผลให้ปลายปี 2563 สนับสนุน Backlog ขึ้นไปแตะระดับ 5,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเท่าตัวจากปีก่อน

“รายได้การให้บริการของ AEC ที่เพิ่มเข้ามาเต็มที่ในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของกลุ่มบริษัททำสถิติสูงสุดใหม่ และสนับสนุนให้กลุ่ม STI เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างอย่างครบวงจร ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และวิศวกรมากความสามารถจำนวนมาก พร้อมขยายงานทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลในงานโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงการประหยัดต่อขนาดในการควบคุมต้นทุนภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และไม่หยุดนิ่งในการต่อยอดการเติบโต เพื่อผลักดันผลประกอบการให้เติบโตก้าวกระโดดในอนาคต สำหรับปีนี้คาดผลงานจะเติบโตเท่าตัว แต่อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ประกอบด้วย” นายสมเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้ STI มีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 กำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส อยู่ที่ 41.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.2 ล้านบาท หรือ 85.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 22.4 ล้านบาท มีรายได้จากการให้บริการ 401.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 229.8 ล้านบาท หรือ 133.5% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 172.1 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากการเข้าลงทุนใน บริษัท เอเชียน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) ในสัดส่วนร้อยละ 63.75 ของหุ้นสามัญในบริษัทดังกล่าว ประกอบกับ การเติบโตของงานที่ปรึกษาบริหารและคุมงานก่อสร้างของกลุ่มบริษัทเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ สามารถส่งมอบงานได้ตามเป้าหมาย เช่น โครงการ One Bangkok โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการ โซน C โครงการอาคารชุดพักอาศัยหลายโครงการ โครงการอาคารสำนักงาน และโครงการประเภทอาคารอเนกประสงค์ เป็นต้น

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2563 มีรายได้จากการให้บริการ 634.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308.5 ล้านบาท หรือ 94.6 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 325.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 68.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3 ล้านบาท หรือ 69.7 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 40.6 ล้านบาท