ท่านเชื่อในเรื่อง “ปาฏิหาริย์” หรือไม่ นี่เป็นคำถามที่ใครหลายๆ คนคงเคยได้ยิน ได้ฟัง ได้คิดทบทวนกันมาบ้างแล้วว่าในชีวิตของเรามีเรื่อง ปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ แล้วเรื่องปาฏิหาริย์นั้นใครเป็นคนสร้าง ตัวเราเองจะสร้างปาฏิหาริย์ในชีวิตของเราเองได้หรือไม่ วันนี้เป็นโอกาสดีที่ พระศรีสิทธิมุนี เจ้าอาวาสวัดโพธินิมิตรสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ มาบรรยายธรรมในหัวข้อ “ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นรู้” ณ ชั้น 11 อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ ถนนสีลม บนเวที “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” โดยพุทธปัญญาชมรม และ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหาร ออลล์ ออนไลน์ และเซเว่น อีเลฟเว่น
พระคุณเจ้าพระศรีสิทธิมุนีเอ่ยถามว่า “โยมคิดว่าปาฏิหาริย์มีจริงไหม” เป็นคำถามที่ให้ทุกท่านขบคิด พิจารณา ลองตั้งคำถามดู เพราะพระพุทธศาสนาไม่สอนให้เราเชื่อเพราะเขาเป็นครูของเรา ไม่ให้เชื่อเพราะเป็นหนังสือที่เราอ่าน แต่ให้เชื่อจากการพิสูจน์ด้วยตัวเอง จริงๆ แล้วเรื่องปาฏิหารย์เป็นเรื่องใกล้ตัวพวกเรามาก ในทางพระพุทธศาสนาคำว่า “ปาฏิหาริย์” มีอยู่ 3 ประการ “อิทธิปาฏิหาริย์” ที่เรารู้จักกันคือ “อิทธิฤทธิ์” การเหาะเหินเดินอากาศได้ ดำดินได้ แต่เรื่องฤทธิ์ไม่ใช่แต่มีเรื่องอิทธิฤทธิ์เท่านั้น ยังมี “บุญญฤทธิ์” การที่เราทุกคนมาเจอกันนั้นเป็นเพราะบุญ บุญนั้นมาจาก 3 ทาง บุญทางกาย บุญทางวาจา และบุญทางใจ
ปาฏิหาริย์ประการต่อมาคือ “อาเทสนาปาฏิหาริย์” คือการทายใจ อ่านใจ และปาฏิหาริย์ประการสุดท้าย เป็นปาฏิหาริย์ที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ เป็นปาฏิหาริย์แห่งการตื่นรู้ นั่นคือ “อนุสาสนีปาฏิหาริย์” คือปาฏิหาริย์ที่มาเจอการสอน การสอนของพ่อแม่ ครูอาจารย์ จากหลักธรรมต่างๆ คำสอนที่ดีๆ แล้วเรานำสิ่งเหล่านี้ไปประพฤติ ปฎิบัติแล้วจึงประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ครั้งที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ออกเดินทางไปค้นพบดินแดนใหม่ เมื่อกลับมาที่สเปนก็มีการจัดงานเฉลิมฉลอง ยกย่องโคลัมบัสที่พบดินแดนใหม่นั้น กลุ่มขุ่นนางก็พากันอิจฉา กล่าวว่าไม่เห็นจะเป็นเรื่องน่าดีใจ ตื่นเต้นตรงไหนเลย โคลัมบัสจึงนำไข่ไก่ฟองหนึ่งให้ขุนนางเหล่านั้น ให้ตั้งให้ตรงให้ได้ ขุนนางเหล่านั้นก็พยายามตั้งไข่แต่ตั้งเท่าไหร่ก็ล้ม ทำไม่สำเร็จ โคลัมบัสจึงตอกให้มีรอยบุ๋มที่ก้น แล้วตั้ง จึงตั้งได้ ขุนนางเหล่านั้นก็ไม่พอใจกล่าวว่า ถ้าทำเช่นนี้ใครๆ ก็ทำได้ โคลัมบัสจึงถามกลับว่า หากใครๆ ก็ทำได้ เหตุใดเมื่อสักครู่ท่านจึงไม่ทำ นี่แหละคือสิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันว่า เพียงแค่เรารู้นั้นคือเราตื่นแล้ว
ท่านแนะว่ามีรู้ 10 ประการที่เราต้องรู้นั่นคือ “รู้เขา รู้เรา รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้จักละ รู้จักอภัย” รู้ 10 อย่างนี้นี่คือเราตื่นแล้ว อย่างหนึ่งที่สำคัญคือ “รู้เรา” ในชีวิตประจำวันของเรา เรามักใช้สัญชาตญาณไม่ได้ใช้สติปัญญา ดังนั้น การที่เราจะสร้างปาฏิหาริย์ได้นั้นเราต้องเจริญปัญญาวิปัสสนา ซึ่งเป็นเหมือนเป็นโปรแกรมสแกนไวรัส ทำให้เรารู้จักตัวเอง ตื่นรู้อยู่ตลอดเวลา เพียงเท่านี้เราทุกคนก็สามารถสร้าง “ปาฏิหาริย์” ในชีวิตได้แล้ว
ท่านแนะว่ามีรู้ 10 ประการที่เราต้องรู้นั่นคือ “รู้เขา รู้เรา รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้จักละ รู้จักอภัย” รู้ 10 อย่างนี้นี่คือเราตื่นแล้ว อย่างหนึ่งที่สำคัญคือ “รู้เรา” ในชีวิตประจำวันของเรา เรามักใช้สัญชาตญาณไม่ได้ใช้สติปัญญา ดังนั้น การที่เราจะสร้างปาฏิหาริย์ได้นั้นเราต้องเจริญปัญญาวิปัสสนา ซึ่งเป็นเหมือนเป็นโปรแกรมสแกนไวรัส ทำให้เรารู้จักตัวเอง ตื่นรู้อยู่ตลอดเวลา เพียงเท่านี้เราทุกคนก็สามารถสร้าง “ปาฏิหาริย์” ในชีวิตได้แล้ว
สำหรับผู้สนใจร่วมฟังธรรมบรรยายดี ๆ ในโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” บุคคลทั่วไปสามารถลงทะเบียนเพื่อร่วมฟังธรรมบรรยายในรูปแบบ New Normal จำนวน 50 ที่นั่ง ลงทะเบียนผ่าน https://forms.gle/QFeQK7FnZWsnDCmE8 เพื่อสำรองที่นั่ง หรือติดตามรับชมผ่านระบบ live สด ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00-13:30 น. ทางช่องทาง facebook fanpage CPALL และสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit