กลุ่มบริษัท วี. คาร์โก ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการขนส่งและกระจายสินค้า ได้รับรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2563 หรือ PM Award 2020 ประเภทรางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม สาขาโลจิสติกส์สินค้า จากนายกรัฐมนตรีและรางวัลผู้ประกอบการที่มีความเป็นเลิศด้าน การบริหารจัดการโลจิสติกส์ ประจำปี 2563 หรือ ELMA (Excellent Logistics Management Award) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
นายอุดม ศรีสงคราม กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท วี คาร์โก เปิดเผยว่ารางวัลทั้งสองนี้เป็นผลมาจากการพัฒนาการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยรางวัล PM Award ถือเป็นครั้งแรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ในขณะที่รางวัล ELMA กลุ่มบริษัท วีคาร์โก ได้รับเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกได้รับในปี 2560
“เราภูมิใจกับรางวัลทั้งสองอย่างมากเพราะนอกจากจะย้ำความมั่นใจในการยกระดับการพัฒนาคุณภาพการให้บริการแล้ว ยังสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าในบริการของเราว่าได้มาตรฐานสากล” นายอุดม กล่าว
กลุ่มบริษัท วี. คาร์โก รับรางวัล PM Award จาก ฯพณฯนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมาและจะเข้ารับรางวัล ELMA จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในวันที่ 31 สิงหาคม
กลุ่มบริษัท วี. คาร์โก ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2531 โดยเริ่มจากการให้บริการด้านชิปปิ้ง และขยายการให้บริการด้านพิธีการนำเข้าและส่งออก ซึ่งมีลูกค้าเรียกร้องให้กลุ่มบริษัท วี. คาร์โก ขยายบริการด้านขนส่ง โดยปัจจุบันมีพันธมิตรคู่ค้าหลักๆ ได้แก่กลุ่มซีพีออล (7-11) กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มพาวเวอร์บาย Office Depot โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัท วี. คาร์โก มีรถหลายประเภทให้บริการลูกค้ามากกว่า 1,000 คันให้บริการขนส่งสินค้าให้กับพันธมิตรคู้ค่าทั่วประเทศ ภายใต้บริษัทในเครือทั้งสิ้น 4 บริษัทได้แก่บริษัท วี. คาร์โก จำกัด บริษัท วี. คาร์โก้ แอนด์ ซัพพลาย จำกัด บริษัท ไทยรุ่ง พัฒนา จำกัด และบริษัท ยูพีเอสอาร์ โลจิสติกส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด โดยมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 400 คน
นายอุดม กล่าวว่าจากวิกฤติการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 กลุ่มบริษัท วี คาร์โก ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยในบางบริการ แต่โดยภาพรวมแล้ว ผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นเนื่องจากธุรกิจของพันธมิตรคู่ค้าเติบโตตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงวิกฤติโควิด 19 ที่ผู้บริโภคหันมาใช้บริการสินค้าออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นบริการที่กลุ่มบริษัท วี. คาร์โก ได้ขยายการให้บริการไปตั้งแต่ เดือนกันยายน พศ 2559
“ผลประกอบการในปีนี้ เราเชื่อมั่นว่าเราจะมีอัตราเติบโต 5-10% โดยรายได้ปีนี้เราคาดว่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากภาวะปกติที่เรามีอัตราเติบโตประมาณ 20% ซึ่งรายได้ที่เติบโตขึ้นนี้เนื่องมาจากการพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องโดยได้นำเทคโนโลยี ขนส่งที่เราพัฒนาเองมาให้บริการแก่ลูกค้าของเรา อีกทั้งเราได้ขยายฐานลูกค้าออกไปอย่างต่อเนื่อง” นายอุดม กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit