ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) พื้นที่แห่งงานฝีมือสุดสร้างสรรค์ของคนไทย ชั้น ๓ สยามดิสคัฟเวอรี่ ชวนอิ่มเอมและชื่นชมพลังภูมิปัญญา และแรงบันดาลใจจากช่างฝีมือไทยทั่วประเทศ พร้อมเชิดชูและสร้างความภาคภูมิใจกับความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถ่ายทอดในมุมมองใหม่ลงบนงานหัตถศิลป์ของไทย สร้างความพิเศษ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ส่งเสริมภูมิปัญญาไทย ร่วมกับ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวังได้นำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงเป็นป็อบอัพนอกสถานที่เป็นครั้งแรก ระหว่างวันนี้ ถึง ๖ มกราคม ๒๕๖๔ ณ CO-CREATION SPACE ชั้น ๓ สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม โดยมี ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, ณัฏฐวรรณ ตันหยงมาศ รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ, พร้อมด้วยผู้บริหารไอคอนคราฟต์ จตุพล เกียรติระบิล, ชลีกุล อิศรภักดี, สุทธิรัตน์ แก้วอาภรณ์, อมร มงคลแก้วสกุล และอมัจจ์ สมบูรณ์เจริญ พร้อมด้วยเซเลบริตี้ ร่วมงาน
ทั้งนี้เป็นที่ประจักษ์ว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริให้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทย และประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จึงเป็นสถานที่รวบรวมจัดเก็บรักษาผ้าไทย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดแสดงงานหัตถศิลป์จากผ้าอันทรงคุณค่าของราชสำนักและผ้าพื้นเมืองต่างๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์การทอผ้าของไทย ให้คงอยู่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติสืบไป
งานนี้มีความพิเศษเป็นอย่างมากที่พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้นำผลิตภัณฑ์ชิ้นพิเศษมาร่วมจัดแสดง พร้อมจำหน่ายนอกสถานที่เป็นป็อบอัพครั้งแรก พบกับผลิตภัณฑ์พิเศษ อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าบาติกสะสมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ "กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ" ตกแต่งด้วยลวดลายปารัง ลักษณะคล้ายกริช ถือเป็นลวดลายผ้าบาติกที่สงวนไว้สำหรับชนชั้นสูง มีสีเงิน และสีทอง, "กรอบรูปลายปารัง เคมบัง" ซึ่งเป็นลายผ้าบาติกที่นิยมมากในพื้นที่ชวากลางโดยเฉพาะราชสำนักยอกยาการ์ตาและสุราการ์ตา และ "ลายสิริกิติ์" ซึ่งเป็นลายที่ออกแบบขึ้นจากพระสิริโฉม และพระจริยวัตรอันงดงามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มี ๒ ขนาด ได้แก่ ขนาด ๓๓ นิ้ว และขนาด ๕๗ นิ้ว, "ผ้าพันคอ" ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผ้าบาติกเขียนทอง หนึ่งในวัตถุไฮไลต์ในนิทรรศการผ้าบาติกในพระปิยมหาราช สายสัมพันธ์สยามและชวา ซึ่งจัดแสดงผ้าบาติกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงซื้อและมีผู้ทูลเกล้าฯ ถวาย ระหว่างการเสด็จเยือนชวา ทั้ง ๓ ครั้ง, "ต่างหู" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากลายผ้าบาติกที่มีชื่อว่าลิมาร์ เกดาตน โดยลายนี้จะมีดาวสี่แฉกอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ทั้งด้านบน และด้านล่างคล้ายรัศมี แสดงถึงพลังอำนาจที่แผ่กระจายออกไป, "ร่มพับสีขาว" ลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลายผ้าบาติกของเมืองอินดรามายู ในนิทรรศการผ้าบาติกในพระปิยมหาราช สายสัมพันธ์สยามและชวา โดยเมื่อโดนน้ำ หรือเปียกฝน ลวดลายที่สวยงามจะปรากฏออกมาจากกลางร่ม, "ร่มราชินี" ทรงร่มเป็นทรงเอกลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นลวดลายบ่งบองถึงวิถีชีวิตชาวเขา, "เครื่องประดับ" ได้แรงบันดาลใจจากเทคนิคลงรักปิดทอง ซึ่งเป็นเทคนิคโบราณ, "กระเป๋าคลัช" ประดับด้วยปีกแมลงทับ ปักด้วยมือโดยใช้เทคนิคเดียวกันกับช่างปักชุดโขน, "เสื้อเชิ้ตแขนยาว" สวมใส่สบาย ลายปารังรือสัก ลายจากผ้าบาติกสะสมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และ "รองเท้าทรงโลฟเฟอร์" สำหรับสุภาพบุรุษ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายของผ้าบาติก สามารถใส่ไปเที่ยวในลุคลำลอง หรือใส่ไปทำงานในลุคสมาร์ทได้ทั้งสองแบบ
นอกจากนี้ยังพบกับเวิร์คช้อปการทำผ้าบาติกสีสันจากธรรมชาติ (Batik Handkerchief) และวันที่ ๒๑ - ๒๒ และ ๒๘ - ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ พบกับเวิร์คช้อปการทำสายคล้องหน้ากากชาวเขา (Hill Tribe Craft Mask Strap) เมื่อซื้อสินค้าครบ ๑,๕๐๐ บาท รับสิทธิ์เวิร์คช้อปฟรี
พบกับความพิเศษครั้งนี้ ตั้งแต่วันนี้ ถึง ๖ มกราคม ๒๕๖๔ ณ CO-CREATION SPACE ชั้น ๓ สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit