ด้วยความเสี่ยงของ COVID-19 ที่คาดว่าจะอยู่อีกนานจนกว่าจะมีวัคซีน ทำให้สถาบันการศึกษาทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นี้ การล็อกดาวน์ที่ไม่คาดคิดทำให้นักการศึกษาต้องย้ายการเรียนแบบออฟไลน์ไปยังสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ระยะไกล หรือแบบผสมผสานโดยไม่ได้เตรียมตัวเลย นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงเชิงเทคนิคนี้แล้ว อาชญากรไซเบอร์เองก็กำลังไล่ล่าเหยื่อในภาคส่วนการศึกษานี้อยู่แล้วเช่นกันในไตรมาสที่ 1 ปี 2020 จำนวนการโจมตี DDoS ทั่วโลกทั้งหมดเพิ่มขึ้น 80% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2019ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีแหล่งข้อมูลด้านการศึกษาเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตนี้ ระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2020 จำนวนการโจมตี DDoS ที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 350% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2019ในการโจมตีแบบปฏิเสธการให้บริการ (denial of service attacks) อาชญากรไซเบอร์พยายามครอบงำเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายด้วยการร้องขอบริการเพื่อให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงาน ปฏิเสธการเข้าถึงของผู้ใช้ การโจมตี DDoS เป็นปัญหาอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ใช้เวลาตั้งแต่สองสามวันถึงสองสามสัปดาห์ ทำให้การดำเนินงานขององค์กรหยุดชะงัก และในกรณีของแหล่งข้อมูลทางการศึกษา เป็นการปฏิเสธนักเรียนและเจ้าหน้าที่ในการเข้าถึงสื่อที่สำคัญKaspersky Security Network (KSN) ยังแสดงให้เห็นถึงจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เผชิญกับภัยคุกคามที่ปลอมตัวเป็นแพลตฟอร์ม E-learning และการประชุมทางวิดีโอในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2020 ได้แก่แอปพลิเคชันและเครื่องมือต่างๆ คือ Moodle, Zoom, edX, Coursera, Google Meet, Google Classroom และ Blackboardจากผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบเพียง 131 รายในเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2020 แต่ในไตรมาสที่สองพบว่าโซลูชั่นของแคสเปอร์สกี้ได้ปกป้องผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันจำนวน 1,483 รายในภูมิภาคนี้จากภัยคุกคามออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเสมือนจริงและแอปพลิเคชันการประชุมทางวิดีโอออนไลน์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1032% เมื่อเทียบต่อไตรมาส แคสเปอร์สกี้ยังเฝ้าติดตามการลดลงเล็กน้อยที่ผู้ใช้ 1,166 รายเกือบติดมัลแวร์ในไตรมาสที่สามสังเกตได้ว่ามาตรการล็อกดาวน์ส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ถูกนำมาใช้ในช่วงหลังของเดือนมีนาคม เนื่องจากผู้ติดเชื้อ COVID-19 ลดลงบางประเทศ เช่น เวียดนามและไทยที่สามารถผ่อนคลายข้อจำกัดได้หลังจากไตรมาสที่สองของปีนี้นายโยว เซียง เทียง ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า "จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น 4 หลักที่เราปกป้องจากภัยคุกคามต่างๆ ทางออนไลน์พิสูจน์ให้เห็นว่า อาชญากรไซเบอร์ตระหนักดีถึงช่องโหว่ใหม่ที่สามารถใช้ประโยชน์จากภาคการศึกษาที่มีภาวะตึงเครียดอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงทางออนไลน์ที่จำเป็นนี้ทำให้นักการศึกษาวิตกกังวล และมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อจากกลอุบายทางวิศวกรรมสังคมแบบเก่าแต่มีประสิทธิภาพ เช่นฟิชชิ่งและสแกม"นายโยวกล่าวเสริมว่า "เพื่อช่วยภาคการศึกษานี้ แคสเปอร์สกี้ขอนำเสนอโซลูชั่นและการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ เพื่อช่วยให้ครูและผู้บริหารโรงเรียนสร้างการป้องกันทางเทคนิคและพฤติกรรมต่ออาชญากรไซเบอร์ เราเชื่อว่า ด้วยเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่และแนวคิดที่เหมาะสม สถาบันการศึกษาจะสามารถให้ความสำคัญกับวิธีการให้ความรู้แก่นักเรียนได้ดีขึ้นในสถานการณ์เฉพาะเช่นนี้"โซลูชั่นที่สามารถช่วยสถาบันการศึกษาขนาดเล็กและขนาดกลางได้คือ Kaspersky Endpoint Detection and Response Optimum เครื่องมือที่เปิดตัวใหม่นี้ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อเอ็นด์พอยต์ขั้นพื้นฐาน ให้การมองเห็นโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนการตรวจสอบเหตุการณ์และความสามารถในการตอบสนองต่อภัยคุกคามพื้นฐานถึงขั้นซับซ้อนด้วยโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอาจมีงบประมาณและพนักงานที่จำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัยไอที โซลูชั่นของแคสเปอร์สกี้นี้เป็นโซลูชั่นอัตโนมัตินี้ใช้งานง่าย ไม่ต้องการความเชี่ยวชาญของผู้ใช้ในระดับสูง และต้องการความเอาใจใส่และการบำรุงรักษาตามปกติน้อยกว่าที่คุณคาดหวังจากโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยระดับ EDRปัจจุบัน แคสเปอร์สกี้ขอมอบส่วนลดสำหรับสถาบันการศึกษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับ Kaspersky EDR Optimum สำหรับจำนวนโหนด 10-999 โหนด จนถึงเดือนธันวาคม 2020
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit