เอไอเอส ตอกย้ำองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมครบทุกมิติตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ล่าสุดควงแขนกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ คว้ารางวัลชนะเลิศ Thaistar 2020 ประเภทบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสินค้าทั่วไป จากผลงานถังรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ โครงการ "คนไทยไร้ E-Waste" ในงาน Propak Asia 2020 ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงสภาวะแวดล้อม มีความคิดสร้างสรรค์ คงทน และมีความสะดวกต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมคว้าตั๋วเข้าสู่รอบการประกวดระดับเอเชีย (Asia Star Awards) และเวทีระดับโลก (WorldStar Awards)
นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า "ในฐานะ Digital Life Service Provider ที่นอกจากจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ระบบฐานรากดิจิทัลเพื่อประเทศแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาไปพร้อมกันอย่างยั่งยืนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในประเด็นของขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่นับได้ว่าเป็นภัยเงียบในปัจจุบัน เอไอเอส จึงได้จัดโครงการ "คนไทยไร้ E-Waste" เพื่อเป็นแกนกลางในการรับและนำขยะ E-Waste ไปกำจัดอย่างถูกวิธีไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
โดยมีช่องทางหลักในการรับขยะ E-Waste คือจุด Drop Points ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 2,000 จุด ซึ่งนับได้ว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เนื่องจากต้องออกแบบให้ดึงดูด สะดวกสบายต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงต้องเป็นวัสดุที่รักษ์สิ่งแวดล้อม ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ เราจึงได้ร่วมมือกับกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์พัฒนา Drop Points ผลงานถังรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ระดับมาสเตอร์พีซ ที่โดดเด่นทั้งด้านการออกแบบ และกรรมวิธีในการผลิต เนื่องจากตัวถังผลิตจากกระดาษรีไซเคิล ผ่านกระบวนการขึ้นรูปเป็นกระดาษลูกฟูก ตัดประกอบเป็นถัง ส่วนถุงที่รองรับขยะเป็นถุงที่ผลิตจากธรรมชาติ ที่สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ ตอบโจทย์การมีส่วนร่วมของประชาชนตามเป้าหมายของโครงการและได้รับรางวัลชนะเลิศ Thaistar 2020 ประเภทบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสินค้าทั่วไป ในงาน Propak Asia 2020 ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของเอไอเอสและพาร์ทเนอร์เป็นอย่างยิ่ง
โดยรางวัลดังกล่าว มีเกณฑ์การพิจารณาจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความสะดวกในการใช้งาน การออกแบบ ความเหมาะสม การคำนึงถึงสภาวะแวดล้อม รวมไปถึงความประทับใจโดยรวม การที่เอไอเอสได้รับรางวัลนี้ นับเป็นการตอกย้ำถึงปณิธานในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบ และร่วมเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟู ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมต่อไป" นางสายชล กล่าวปิดท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit