ดุสิตธานี จับมือ Pixel One รุกจัดงานประชุมสัมมนารูปแบบใหม่ หวังเพิ่มทางเลือก-สร้างความเชื่อมั่น ขับเคลื่อนองค์กรรัฐ-เอกชนกระตุ้นท่องเที่ยว

21 Oct 2020

ดุสิตธานี จับมือ Pixel One รุกจัดงานประชุมสัมมนารูปแบบใหม่ หวังเพิ่มทางเลือก-สร้างความเชื่อมั่น ขับเคลื่อนองค์กรรัฐ-เอกชนกระตุ้นท่องเที่ยว

กลุ่มดุสิตธานี ประกาศจับมือบริษัท เดอะพิกเซลวัน โพรดักชั่น จำกัด ผู้สร้างสรรค์ Future One The Virtual Center หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดแสดงสินค้า บริการงานภาพและเสียง นำเสนอ Hybrid Virtual Meeting Platform สร้างประสบการณ์การประชุมเสมือนจริง ผ่านระบบเชื่อมต่อเทคโนโลยีที่สามารถโต้ตอบได้แบบเรียลไทม์ และสร้างความใกล้ชิดเหมือนอยู่ในที่เดียวกัน ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่และเพิ่มความเชื่อมั่นในการจัดประชุม อบรม สัมมนา ตอบโจทย์วิถี “นิว นอร์มอล” เพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนให้หน่วยงานรัฐ-เอกชน หันมาจัดประชุม ท่องเที่ยว สัมมนาภายในประเทศ พร้อมให้บริการในโรงแรมดุสิตธานีทุกแห่งทั่วประเทศไทย

นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มดุสิตธานี เปิดตัวการประชุมสัมมนาเสมือนจริง (Hybrid Virtual Meeting Platform) กับนักการทูต ตัวแทนจากหอการค้า องค์กรและบริษัทข้ามชาติต่างๆ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวและการจัดประชุมสัมมนา ในทริป ท่องเที่ยวพิเศษ Listen to the Earth in Silence ที่โรงแรมดุสิตธานีหัวหิน ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ล่าสุด กลุ่มดุสิตธานีได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท เดอะพิกเซลวัน โพรดักชั่น จำกัด ผู้สร้างสรรค์ Future One The Virtual Center ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดแสดงสินค้า บริการงานภาพและเสียง รวมถึงการสื่อสารการตลาดผ่านกิจกรรมชั้นนำของประเทศ นำเสนอ Hybrid Virtual Meeting Platform ที่เรียกว่า VICE ROOM (Virtual Interactive Conference Experience) ซึ่งสามารถสร้างประสบการณ์การจัดประชุมเสมือนจริง ที่สามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วมและความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ ผ่านระบบเชื่อมต่อเทคโนโลยีที่สามารถโต้ตอบแบบเรียลไทม์ และยังสร้างความใกล้ชิดเหมือนอยู่ในที่เดียวกัน โดยแพลตฟอร์มดังกล่าว มีพร้อมให้บริการในโรงแรมในเครือดุสิตธานีทุกแห่งในประเทศไทย

“สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดวิถีใหม่ โดยเฉพาะการเว้นระยะห่าง ทำให้ผู้คนพบปะกันยากขึ้น ดังนั้น กลยุทธ์ในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป คือ การนำเสนอความสะดวกสบาย ประสบการณ์ และความคุ้มค่า (Convenience, Experience, Value) ให้กับลูกค้า ซึ่งกลุ่มดุสิตธานีมุ่งมั่นที่จะสรรหาผู้เชี่ยวชาญที่มีความพร้อมมานำเสนอแพลตฟอร์มนี้ โดยเราจะทำหน้าที่เหมือน One-Stop-Shop มีทีมดุสิตอีเว้นท์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งจัดหาออกาไนเซอร์มืออาชีพมาดูแลการประชุมให้ในราคาที่คุ้มค่าและสมเหตุสมผล เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและกระตุ้นให้เกิดการประชุมสัมมนา โดยเรามองว่า รูปแบบการประชุมสัมมนาในปัจจุบันและอนาคตสามารถที่จะทำเป็น Hybrid Virtual Meeting คือมีคนจำนวนหนึ่งมาเข้าร่วมในห้องประชุม ส่วนที่เหลือเชื่อมต่อผ่านโปรแกรมที่เป็นที่นิยม แต่ลูกค้าทุกคนจะต้องได้รับประสบการณ์เสมือนจริง พอๆ กัน ซึ่ง VICE ROOM คือเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ที่เราต้องการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดุสิตธานีกล่าว

ทั้งนี้ Hybrid Virtual Meeting เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการการประชุมแบบมืออาชีพ แต่มีงบประมาณที่จำกัด และไม่มีเวลาตามหาอุปกรณ์ รูปแบบหรือออกาไนเซอร์มาช่วย ในราคาเริ่มต้นเพียง 90,000 บาท โดยกลุ่มดุสิตธานีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดประชุมสัมมนาในรูปแบบดังกล่าว จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น เพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนหันมาจัดการประชุม การท่องเที่ยว หรือการสัมมนาภายใน ประเทศ และประกาศความพร้อมของประเทศไทยในการเป็น MICE Destination

ด้าน นายจตุพล สิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เดอะพิกเซลวัน โพรดักชั่น จำกัด กล่าวว่า วิกฤติไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้การประชุมต่างๆ ต้องหลีกเลี่ยงไปใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารแบบผ่าน VDO CONFERENCE ซึ่งสามารถช่วยเชื่อมต่อการสื่อสารให้เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่เทคโนโลยียังแก้โจทย์ไม่ได้ คือ การสร้างประสบการณ์กระตุ้นการมีส่วนร่วมและความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นได้ในแบบที่เกิดขึ้นได้ในที่ประชุมจริง ดังนั้น VICE ROOM จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างห้องประชุมเสมือนจริงโดยผ่านระบบเชื่อมต่อเทคโนโลยีที่สร้างความใกล้ชิดและการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ สร้างสรรค์ประสบการณ์ให้ผู้เข้าประชุมมีส่วนร่วมและเกิดประสิทธิผลสูงในการถ่ายทอดข้อมูล เนื้อหา และกระตุ้นทีมงานในการระดมความคิดที่สร้างผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ

“VICE ROOM เป็นการนำเทคโนโลยีที่ใช้ในห้องส่งเพื่อการถ่ายทอดสด มาผสมผสานกับเทคโนโลยีวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ และรูปแบบการจัดงานอีเวนท์ เพื่อสร้างประสบการณ์เหมือนการดึงผู้เข้าประชุมมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน โดยจะใช้จอแอลอีดีความละเอียดสูงที่วางแยกจอ เลียนแบบที่นั่งสไตล์อัฒจันทร์ ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับเทคโนโลยีการประชุมที่ทันสมัย สามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานที่แสดงบนหน้าจอแต่ละหน้าพร้อมกันสูงสุดถึง 100 คน นอกจากนี้ ฉากหลังของผู้นำเสนอการประชุมยังถูกซ้อนหลังด้วยระบบ Virtual Screen ที่สามารถสรรค์สร้างทุกจินตนาการให้เกิดขึ้นได้ตามที่ผู้พูดต้องการ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งสตูดิโอบันทึกเสียง สตรีมมิ่งและพรีเซ็นเทชั่นระดับไฮเอนด์พร้อมภาพและเสียง สำหรับทำ VDO 360 สำรวจโพล การพรีเซ็นต์ทางไกล รวมถึงหน้าจอความละเอียดคมชัดสูงสำหรับการแชทถาม-ตอบ สำหรับออกอากาศทั่วโลกได้อีกด้วย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Future One The Virtual Center กล่าว

เกี่ยวกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล :

ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ดำเนินกิจการครอบคลุม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ ธุรกิจหลักของกลุ่มได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู ภายใต้ 6 แบรนด์ ได้แก่ ดุสิตธานี, ดุสิตเดวาราณา, ดุสิตดีทู, ดุสิตปริ๊นเซส, อาศัย และอีลิธฮาเวนส์ ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 14 ประเทศทั่วโลก และธุรกิจการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสอนประกอบการทำอาหาร วิทยาลัยการโรงแรมทั้งในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มกระจายการลงทุนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ที่ประกอบด้วย 3 ด้านได้แก่ การสร้างความสมดุล การเติบโต และการกระจายความเสี่ยง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dusit-international.com

HTML::image(