บริษัท วีเอ็มแวร์ ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมซอฟต์แวร์ระดับองค์กร ประกาศอัปเดตกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยลูกค้าเร่งปรับปรุงแอปและโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัยยิ่งขึ้น การอัปเดตล่าสุดของ VMware vSphere 7 Update 1, VMware vSAN 7 Update 1 และ VMware Cloud Foundation 4.1 ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับลูกค้าในการนำ Kubernetes มาใช้และรองรับ stateful แอปพลิเคชัน ด้วยความสามารถใหม่ที่พร้อมใช้สำหรับนักพัฒนา รองรับการขยายและการปฏิบัติงานด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว VMware Tanzu editions ที่เปี่ยมความสามารถด้วย Tanzu พอร์ทโฟลิโอ อันเป็นโซลูชันที่ออกมาเพื่อแก้ปัญหาท้าทายที่ลูกค้าต้องเผชิญอยู่โดยตรง – พร้อมกับการฝึกอบรมทักษะ รวมทั้งความคิดริเริ่มในการพัฒนาเพื่อช่วยให้ธุรกิจในภูมิภาคสามารถใช้โมเดิร์นแอปได้อย่างเต็มศักยภาพ และช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนอง พร้อมปรับตัวและเร่งการเติบโตของธุรกิจท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาค
ความก้าวหน้าของนวัตกรรมทางธุรกิจกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ ต้องเอาตัวรอดจากผลกระทบของ COVID-19 ที่ทำให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและเกิดความท้าทายรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อน ทั้งด้านการดำเนินธุรกิจ และสภาพแวดล้อมการทำงานในรูปแบบกระจายและดิจิทัล งานวิจัยล่าสุดจาก VMware แสดงให้เห็นว่า บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ใช้ซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนการทำธุรกิจสามารถรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ดีกว่า มีความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบจากการตกต่ำทางธุรกิจด้วยการนำโมเดิร์นแอปพลิเคชันมาปรับใช้ ผลการศึกษายังแสดงให้เห็นว่า บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีการเติบโตสูงให้เวลากับการสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรมมากกว่าบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันที่มีประสิทธิภาพต่ำ (49% เทียบกับ 44%) โดยมีความคล่องตัวในกระบวนการพัฒนาแอปมากกว่าคิดเป็น 58% เทียบกับ 46% ตามลำดับ
มร. คิป โคล รองประธานดูแลกลุ่มผลิตภัณฑ์ Tanzu ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ ยังคงปรับรูปแบบธุรกิจและรูปแบบการดำเนินงานให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรที่สามารถรักษาความต่อเนื่องในการสร้างสรรค์นวัตกรรม อีกทั้งยังพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย จะสามารถบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจแม้จะเผชิญความกดดันทางสภาวะเศรษฐกิจที่ยากจะคาดเดา ส่งผลให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิผล และด้วยหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมมากที่สุดในอุตสาหกรรมอย่าง โมเดิร์นแอปของ VMware จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้องค์กรต่าง ๆ สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันออกสู่ตลาด พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ที่ปรับให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่พวกเขาสามารถสร้าง รัน จัดการ เชื่อมต่อและปกป้องแอปของตัวเองผ่านระบบคลาวด์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้”
นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมใช้สำหรับนักพัฒนา
เมื่อปีที่แล้ว ที่งาน VMworld 2019 วีเอ็มแวร์ได้เปิดตัว Tanzu พอร์ทโฟลิโอและตัวอย่างเทคโนโลยีของ Project Pacific เพื่อจัดโครงสร้าง vSphere ให้เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดโดยใช้ Kubernetes API ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา วีเอ็มแวร์ได้นำเสนอ software stack ที่ครอบคลุมซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงแอปพลิเคชันและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ให้ทันสมัย พร้อมกับพัฒนาใหม่ ๆ และโมเดิร์นแอปพลิเคชัน
และในปีนี้ Project Pacific ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะช่วยให้ลูกค้านำ Kubernetes ไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว VMware vSphere ที่ทำงานร่วมกับ Tanzu จะช่วยให้ลูกค้า vSphere หลายแสนรายทั่วโลกเริ่มต้นใช้งาน Kubernetes และจัดการเวิร์คโหลดมากกว่า 70 ล้านที่ทำงานบน vSphere ได้อย่างรวดเร็วและทันสมัยมากยิ่งขึ้น
อนาคตอีโคซิสเต็มของนักพัฒนาที่ก้าวหน้าในเอเชีย
ภายใต้ความมุ่งมั่นในการยกระดับอีโคซิสเต็มนวัตกรรมของเอเชีย วีเอ็มแวร์ประกาศโครงการ Getting Future Ready ซึ่งเป็นโครงการนำร่องสำหรับฝึกอบรมเพื่อยกระดับความรู้ความสามารถและเพิ่มความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตให้กับพนักงานสิงคโปร์ โครงการนี้เป็นโครงการที่จะช่วยยกระดับทักษะและเตรียมความพร้อมให้กับผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีมีโอกาสได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับ Cloud Native
โครงการนี้ยังร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ในประเทศสิงคโปร์สร้างโอกาสให้กับพนักงานฝึกหัดมากถึง 1,000 ตำแหน่ง และโครงการ Getting Future Ready จะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ผ่านการฝึกอบรมได้ร่วมงานกับบริษัทพาร์ทเนอร์และลูกค้าของวีเอ็มแวร์ที่มีอยู่อย่างกว้างขวาง เช่น ธนาคาร DBS และ M1
มร. เอเดรียน เฮีย ผู้จัดการประจำประเทศสิงคโปร์ วีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “ชื่อเสียงและความแข็งแกร่งของนวัตกรรมเชิงเศรษฐกิจของสิงคโปร์ที่มาพร้อมกับความสามารถทางเทคโนโลยีถือเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ยอดเยี่ยมในการนำสิงคโปร์สู่การเป็นสมาร์ทเนชั่น ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ ยังคงปรับตัวตอบสนองและเร่งธุรกิจของตนให้สอดรับกับแผนแม่แบบดิจิทัลใหม่นี้ วีเอ็มแวร์มุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมของเราเพื่อยกระดับทักษะและเพิ่มความสามารถด้านเทคโนโลยีสำหรับอนาคตเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสิงคโปร์ไปข้างหน้าซึ่งนับเป็นบทต่อไปของการเติบโต”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit