ป่าแก่งกระจาน เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 1.82 ล้านไร่ ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่มรดกอาเซียน เป็นแหล่งพันธุกรรมของพืชและสัตว์ป่าที่สำคัญแห่งภูมิภาคของโลก มีการสำรวจพบสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ ช้างป่า ซึ่งมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 อาศัยอยู่บริเวณต้นแม่น้ำเพชรบุรีถึงบ้านกร่าง ห้วยคมกฤต ประมาณ 130 ตัว กลุ่มที่ 2 อยู่บริเวณป่าเต็ง ห้วยสัตว์ใหญ่ หนองพลับ ป่าละอู ประมาณ 130 ตัว
โดยล่าสุดในปี 2563 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในช่วงฤดูกาลเปิดการท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้จัดกิจกรรม แก่งกระจาน Save The Wild Protect The Sea โดยหัวหน้ามานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วย หมอล็อต น. สพ. ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงอาสาฯ แนวร่วมจาก อช. แก่งกระจาน พร้อมด้วยสื่อมวลชน คนบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น ดีเจแนต ลภัสรดา เจริญวงศ์ ดีเจแนต จากคลื่น Happy Life เจ้าของบริษัท น่านฟ้าเวิล์ดทัวร์ พร้อมด้วย กบ ญาตา กาญจนภัคพงค์ จากกลุ่ม Bike Finder , ภญ. ภวัญญา มีมั่งคั่ง เภสัชกรอาสา, โอ ศุทธวีร์ กาญจนภัคพงค์ นำทีม Ride explorer Kids Ranger ธันวา ฌณาวุฒิ จันทรปรรณิก หัวหน้าหน่วยการจัดการขยะ (นักร้อง 13 เหรียญรางวัลจาก WCPA 2019 จากประเทศอเมริกา) , ไทพ์อาร์ ภูบดี อ่อนพิมพ์ หัวหน้าหน่วยรักษ์น้ำ และเด็กๆ ในเครือข่ายมาร่วมกิจกรรม พร้อมด้วย Tonn Explorer (ต้น พีระพัฒน์ กัลปพฤกษ์) ที่กำลังได้รับความสนใจในกลุ่ม TikTok , Edventure เอ็ด พีรยศ นักปั่นจักรยานสายท่องเที่ยว ในรูปแบบแอดเวนเจอร์ มาร่วมในเส้นทางการเดินทางอนุรักษ์สร้างแรงบันดาลใจ โดยอาสาฯ ร่วมทำกิจกรรมในการปั้นกระสุนเมล็ดพันธุ์พื้นถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ตะแบก เสลา อินทนิล และเมล็ดพันธุ์พื้นถิ่น พร้อมส่งต่อเมล็ดพันธุ์ปลูกรักษ์ป่า รวมถึง ดีเจเอก กฤษณาวารินทร์ พร้อมด้วย เต็ม มณิสรา จุลสมัย และศิลปินนักร้องอารมณ์ดี แอ๊ป ธุวชิต วิไลโอฬาร ได้ร่วมสนับสนุนวัสดุและก้อนเกลือปศุสัตว์ในการร่วมกันทำโป่งให้สัตว์ป่า ร่วมกับอาสาฯ กว่า 150 ชีวิตในการร่วมกันทำกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
สำหรับ "แก่งกระจาน Save The Wild Protect The Sea" ในครั้งนี้ร่วมกับทุกภาคส่วน อาสาฯ ในการร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน จากต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงคนปลายน้ำในการร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่องานอนุรักษ์ป่า อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมปลูกจิตสำนึกการมีส่วนร่วม ร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน เพื่อถวายแด่พ่อของแผ่นดิน รวมถึงน้อมนำพระราชดำริในเรื่องการอนุรักษ์พื้นป่า แก้ไขปัญหาช้างป่าให้สำเร็จลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นการทำโป่งให้สัตว์ป่า , การทำฝายชะลอน้ำ , อาสาปั้นกระสุนเมล็ดพันธ์ ในการร่วมกันปลูกรักษ์ป่า พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมในการร่วมกันคืนธรรมชาติสู่ป่า ร่วมกัน
โดย หัวหน้ามานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้กล่าวถึง การจัดโครงการกิจกรรม แก่งกระจาน Save The Wild Protect The Sea ที่ถือเป็นการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ ปลูกจิตสำนึกร่วมกัน โดยในปีนี้เป็นการร่วมมือในทุกภาคส่วนให้เกิดการสร้างสรรค์ สามัคคี มีส่วนร่วมอย่างยั่งยืนในการอนุรักษ์ กับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อย่างต่อเนื่อง
"อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในบริเวณพื้นที่ป่ากว่า หนึ่งล้านแปดแสนไร่ มีต้นน้ำสำคัญ ทั้งแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี ไหลสู่อ่าวไทย นำความอุดมสมบูรณ์จากผืนป่า สู่เขื่อนเพชรบุรี เขื่อนปราณบุรี ไหลลงสู่พื้นที่ราบลุ่ม ด้านล่าง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเกษตรกรรมที่สำคัญ การเกษตร เรือกสวน แหล่งปลูกผลไม้ รวมถึงปากแม่น้ำที่บางตะบูน ตรงนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ปลายน้ำของผืนป่า เราจึงต้องอนุรักษ์ รักษาพื้นที่ป่ากว่าหนึ่งล้านแปดแสนไร่ให้อุดมสมบูรณ์ต่อไป การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ อาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติของแต่ละหมู่บ้าน ร่วมกับอาสาสมัครในแต่ละพื้นที่ที่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ผืนป่าขนาดใหญ่ กิจกรรมนี้จะเป็นกิจกรรมที่มีการปลูกป่าด้วยการยิงเมล็ดพันธุ์ไม้ มีการจัดทำฝาย ทำโป่งให้สัตว์ป่า จัดทำทุ่งหญ้าธรรมชาติเอาไว้ ซึ่งจะเป็นการดึงสัตว์ป่าเพื่อให้หากินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไม่ให้ออกไปหากินภายนอก ไม่เป็นการรบกวนชุมชน
ปัจจุบันสัตว์ป่าและชุมชน ยังมีปัญหากระทบกระทั่ง กรณีช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ ไปเหยียบพืชผลอาสิน ไปหักกินหรือขวางการจราจรบนท้องถนน นอกจากชุดลาดตระเวน เจ้าหน้าที ชุมชนในพื้นที่รวมถึงอาสาฯ ช่วยกันดูแลร่วมกันแล้ว หากแก้ปัญหาในการควบคุมพื้นที่ตรงจุดนี้ได้แล้ว จะทำให้การเกิดผลกระทบลดน้อยลง อันเป็นการอนุรักษ์ทั้งชีวิตสัตว์ป่าและชีวิตคน ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ ไม่ให้เกิดการสูญเสีย สิ่งเหล่านี้เองอุทยานแห่งชาติ จึงจัดให้มีกิจกรรม 'แก่งกระจาน Save The Wild Protect The Sea’ ในการร่วมรักษ์ป่า รักษ์ทะเล จากต้นน้ำ กลางน้ำ สู่ปลายน้ำ ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มต่างๆ ที่มีใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเหมือนกัน กิจกรรมที่กำหนดในพื้นที่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน , บ้านกร่างแคมป์ , ห้วยคมกฤต แหล่งอาศัยของสัตว์ป่า และมีการทำโป่งในจุดต่างๆ ซึ่งทางหมอล็อต น.สพ. ภัทรพล มณีอ่อน มาเป็นวิทยากรให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นการดึงสัตว์ป่าไว้ให้อยู่ในพื้นที่ สร้างการตระหนัก การรับรู้ร่วมกันของชุมชนในพื้นที่ สาธารณะชน ที่อยู่ภายนอก ได้ร่วมมือร่วมใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปด้วยกันอย่างยั่งยืนครับ" หัวหน้ามานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าว
ด้าน หมอล็อต น.สพ. ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยถึงการเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นวิทยากร ดูแลในส่วนกิจกรรมการสร้างโป่งให้สัตว์ป่า ในกิจกรรม แก่งกระจาน Save The Wild Protect The Sea ครั้งนี้ว่า "ถือเป็นทำกิจกรรมที่ดีในการให้ทุกภาคส่วนร่วมปลูกจิตสำนึกในการรักษ์ป่า สร้างแหล่งน้ำ แหล่งอาหารสัตว์ป่า ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรีครั้งนี้ เพื่อเป็นการสานต่อ ใน 'โครงการแก้ไขปัญหาช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ’ น้อมนำพระราชดำริ ในหลวง ร. ๙ เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๒ ช้างควรอยู่ในป่า เพียงแต่ต้องทำให้ป่า นั้น มีอาหารช้างให้เพียงพอ การปฏิบัติ คือ ให้ไปสร้างอาหารในป่าเป็นแปลงเล็กๆ และกระจาย กรณีช้างออกมาที่ชายป่า ต้องให้ความปลอดภัยกับช้างบ้าง
โดยที่ผ่านมาอาจจะได้รับข่าวสารช้างถูกมนุษย์ทำร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อม สภาพแวดล้อมจะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของช้างได้ทางหนึ่ง เราช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ด้วย วิธีการสร้างแหล่งอาหาร คือ สร้างแปลงพืช พื้นที่ทุ่งหญ้า โป่งดิน โป่งน้ำ เพิ่มแหล่งอาหารของช้างป่า และสัตว์ป่า ในเขตป่าลึก เพื่อให้สัตว์ป่าได้มาใช้ประโยชน์โดยไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ ให้โป่งอยู่ในป่าลึกเพื่อรักษาแหล่งที่อยู่อาศัยให้สัตว์ป่า สามารถป้องกันสัตว์ป่าอพยพย้ายถิ่นอาศัยออกจากพื้นที่ค่อนข้างได้ผล จึงเป็นแนวทางหลักที่จะนำไปใช้ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่าในทุกพื้นที่ให้ลดน้อยลงต่อไปอีกด้วยครับ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้วางรากฐานและการสร้างพื้นฐานความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ ชุมชน แนวร่วม รวมถึงอาสาฯ ในแนวการทำโป่งให้กับสัตว์ป่าได้อย่างเป็นระบบ และยั่งยืน ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่เกิดการร่วมมือการอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ภาคส่วนในครั้งนี้อีกด้วย" หมอล็อต กล่าว
สำหรับใครที่สนใจติดตามกิจกรรม แก่งกระจาน Save The Wild Protect The Sea สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Kaengkrachannationalparkofficial/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 091 863 0662
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit