11 พ.ย. 63 เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 36 จังหวัด รวม 162 อำเภอ 582 ตำบล 2,549 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 93,928 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 4 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สุพรรณบุรี และชุมพร ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง และสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงาน จากอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2563 - ปัจจุบัน (11 พฤศจิกายน 2563 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย รวม 36 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง อุทัยธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล และสงขลา รวม 162 อำเภอ 582 ตำบล 2,549 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 93,928 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 11 ราย (จันทบุรี ตรัง นครราชสีมา ศรีสะเกษ จังหวัดละ 1 ราย ปราจีนบุรี 4 ราย และ สุราษฎร์ธานี 3 ราย) บาดเจ็บ 4 ราย (สิงห์บุรี) แยกเป็น
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 34 จังหวัด รวม 138 อำเภอ 550 ตำบล 2,507 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 93,850 ครัวเรือน เสียชีวิต 11 ราย ไม่มีผู้บาดเจ็บ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 31 จังหวัด ยังคงมีน้ำท่วมขัง 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอปักธงชัย อำเภอสูงเนิน อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย และอำเภอชุมพวง ระดับน้ำลดลง สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า ระดับน้ำลดลง ชุมพร ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอทุ่งตะโก และอำเภอหลังสวน ระดับน้ำลดลง
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี กาญจนบุรี พังงา ชุมพร และอุบลราชธานี รวม 19 อำเภอ 26 ตำบล 36 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 78 หลัง บาดเจ็บ 4 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างการฟื้นฟู
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ภูเก็ต สตูล และกระบี่ รวม 5 อำเภอ 6 ตำบล 6 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนเรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ รถบรรทุกติดตั้งเครน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยไปยังจุดอพยพ อีกทั้งแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อการดำรงชีพ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการประกอบอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตลอดจนเร่งซ่อมแซมและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย ติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป