ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง เค.อี. รีเทล (BKER) เตรียมพร้อมเปิดโครงการอย่างเต็มรูปแบบ

15 May 2020

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง เค.อี. รีเทล (BKER หรือ บีเคอีอาร์) มีการเตรียมความพร้อมรองรับกรณีที่ภาครัฐเริ่มผ่อนปรนให้ศูนย์การค้ากลับมา เปิดให้บริการได้ตามปกติ โดยเชื่อมั่นว่า เมื่อภาครัฐประกาศออกมาให้ศูนย์การค้ากลับมาเปิดดำเนินการได้ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ศูนย์การค้าทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การจัดการของ BKER ก็พร้อมกลับมาดำเนินงานได้ทันที

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง เค.อี. รีเทล (BKER) เตรียมพร้อมเปิดโครงการอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับ ภาพรวมการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2563 หรือระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2563 ของ BKER มีรายได้รวมและกำไรจากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 350.77 ล้านบาท และ 148.59 ล้านบาท ตามลำดับ อย่างไรก็ดีเมื่อรวมกับรายการขาดทุนสุทธิจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และหลักทรัพย์ที่ 354.67 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการประเมินมูลค่าของทรัพย์สินเป็นหลัก จึงทำให้สินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานจะลดลง 206.08 ล้านบาท

“โดยรวมแล้วในช่วงเริ่มต้นไตรมาสมีพัฒนาการเชิงบวกด้านการให้เช่าพื้นที่ โดยอัตราการต่ออายุสัญญาเช่าและจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งยังมีผู้เช่ารายใหม่หลายรายซึ่งเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายแสดงความจำนงเข้ามาเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเพิ่มเติม กระทั่งโรคโควิด-19 แพร่ระบาดระดับโลกรวมถึงในไทย จึงส่งผลให้ศูนย์การค้าที่ BKER บริหาร ต้องปิดให้บริการพื้นที่บางส่วนชั่วคราว เป็นเวลา 10 วันในไตรมาสแรก คือระหว่างวันที่ 22-31 มีนาคม 2563 โดยการปิดพื้นที่เป็นไปตามนโยบายของภาครัฐ ที่ต้องการจะลดการแพร่ระบาดของโรคนี้ลง อย่างไรก็ตาม ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ธนาคาร ร้านอาหารเฉพาะจำหน่ายเพื่อนำไปบริโภคที่อื่น (take home และ delivery) ยังเปิดดำเนินการตามปกติ” นายพรชลิต กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา จากการที่ศูนย์การค้าต้องปิดให้บริการพื้นที่บางส่วนตามนโยบายของรัฐบาล จึงจำเป็นต้องมีมาตรการยกเว้นค่าเช่ารวมถึงการให้ส่วนลดค่าเช่าเพื่อช่วยเหลือผู้เช่า โดยการพิจารณาช่วยเหลือในระดับต่างๆ คำนึงถึงผลกระทบที่แท้จริงต่อธุรกิจของผู้เช่าและผลประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์เป็นสำคัญ

โดยมาตรการช่วยเหลือที่ออกมา ส่งผลให้ค่าเช่าและค่าบริการเฉลี่ยโดยรวมในไตรมาสแรกปี 2563 ลดลง 9.0% เป็น 519 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน จากในเดือนธันวาคม 2562 อยู่ที่ 570 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ส่วนการดำเนินงานก่อนปิดให้บริการศูนย์การค้าบางส่วน พบว่า ค่าเช่าและค่าบริการเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับปกติที่ 561 บาทต่อตารางเมตร

นายพรชลิต กล่าวว่า อัตราการเช่าเฉลี่ยรวมในไตรมาสแรกอยู่ที่ 92.8% ปรับขึ้นเล็กน้อยจากเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งอยู่ที่ 92.7% โดยโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ (TCR) สัมมากร เพลส รังสิต (SRS) และเดอะซีน ทาวน์ อิน ทาวน์ (TS) มีอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มเติมในระดับที่ดี ผู้เช่าในกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านเพิ่มพื้นที่เช่าอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนอัตราการเช่าของโครงการ อมอรินี่ รามอินทรา (AMR) และสัมมากร เพลส รามคำแหง (เวสต์) (SRM) ปรับตัวลดลงในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้เช่าสิ้นสุดสัญญาการเช่าพอดี

ทั้งนี้ ในงวดการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2563 BKER ประกาศจ่ายเงินลดทุนชำระแล้วครั้งที่ 1 ในอัตรา 0.1600 บาทต่อหน่วย โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนในการรับเงินคืนทุน วันที่ 11 มิถุนายน 2563 ที่จะถึงนี้

การจ่ายเงินคืนทุนครั้งนี้ เกิดจากกองทรัสต์ BKER มีรายการขาดทุนสุทธิจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้กองทรัสต์ต้องบันทึกรายการดังกล่าวเป็นรายการขาดทุนทางบัญชีและแสดงไว้ในงบการเงินไตรมาสแรกปี 2563 กองทรัสต์จึงพิจารณาจ่ายคืนสภาพคล่องส่วนเกินให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในรูปแบบเงินคืนทุน

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

HTML::image(